ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (WHO) เตือนในวันจันทร์ (24 ม.ค.) เป็นเรื่องอันตรายหากทึกทักว่าตัวกลายพันธุ์โอมิครอนเป็นลางแห่งจุดจบระยะเฉียบพลันของโควิด-19 เร่งเร้าประเทศต่างๆ ให้ยังคงมุ่งสมาธิในการเอาชนะโรคระบาดใหญ่
"มันอันตรายหากทึกทักว่าโอมิครอนจะเป็นตัวกลายพันธุ์สุดท้ายและเราอยู่ในช่วงท้ายเกม" ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกบอกกับที่ประชุมคณะกรรมการบริหารชุดหนึ่งขององค์การอนามัยโลก ในเรื่องของโรคระบาดใหญ่ที่ยืดเยื้อมากว่า 2 ปี และคร่าชีวิตผู้คนทั่วโลกไปแล้วเกือบ 6 ล้านราย "ในทางตรงกันข้าม ปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ทั่วโลกเหมาะสำหรับตัวกลายพันธุ์ต่างๆ จะปรากฏเพิ่มเติม"
คำเตือนนี้ดูจะสวนทางกับความเห็นของดร.ฮานส์ คลูก ผู้อำนวยการภาคพื้นยุโรปขององค์การอนามัยโลก ที่ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเอเอฟพีเมื่อวันอาทิตย์ (23 ม.ค.) ว่าตัวกลายพันธุ์โอมิครอนได้ผลักให้โควิด-19 เคลื่อนเข้าสู่ขั้นใหม่ และอาจนำมาซึ่งจุดจบของโรคระบาดใหญ่ในยุโรป
คลูก กล่าวว่า "เมื่อครั้งระลอกการแพร่ระบาดของโอมิครอนที่กำลังเล่นงานทั่วยุโรปในปัจจุบันเบาบางลง โลกจะมีภูมิคุ้มกันหมู่หลายสัปดาห์และหลายเดือน ซึ่งเป็นผลจากการฉีดวัคซีนหรือเพราะคนมีภูมิคุ้มกันแล้วจากการติดเชื้อ และการแพร่ระบาดจะลดลงตามฤดูกาลเช่นกัน"
"เราคาดหมายว่าจะมีช่วงเวลาที่เงียบเชียบช่วงเวลาหนึ่ง ก่อนที่โควิด-19 อาจกลับมาอีกในช่วงปลายปี แต่มันไม่จำเป็นที่มันจะกลับมาในรูปแบบของโรคระบาดใหญ่" คลูก กล่าว
แม้ โอมิครอน โหมกระพือเคสผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นแตะระดับเกือบ 350 ล้านคน แต่มันส่งผลกระทบถึงตายน้อยกว่าและอัตราการฉีดวัคซีนในระดับสูง นำมาซึ่งมุมมองในแง่บวกว่าบางพื้นที่อาจผ่านพ้นสถานการณ์เลวร้ายของโรคระบาดใหญ่ไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม ทีโดรส เรียกร้องให้คงความมีระเบียบวินัยและเป็นหนึ่งเดียวกันในการต่อสู้กับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ "โรคระบาดใหญ่ตอนนี้เข้าสู่ปีที่ 3 และเราอยู่ตรงทางแยกที่สำคัญ" เขากล่าว "เราต้องทำงานร่วมกันเพื่อนำพาระยะเฉียบพลันของโรคระบาดใหญ่ไปสู่จุดจบ เราไม่อาจปล่อยให้มันลากยาวต่อไป เอียงไปเอียงมาระหว่างความตื่นตระหนักและความประมาทเลินเล่อ"
"ประเทศต่างๆ ต้องใช้ยุทธศาสตร์ขั้นสูงสุดและใช้เครื่องไม้เครื่องมือที่มี เช่น การตรวจเชื้อและการฉีดวัคซีน เพื่อให้สถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขโลกจบลงในปีนี้" เขากล่าว
เวลานี้ ทีโดรส ชาวแอฟริกาคนแรกที่ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการอนามัยโลก กำลังลงชิงเก้าอี้เป็นสมัย 2 และโอกาสลุ้นนั่งเก้าอี้ตัวนี้อีกสมัยของเขามีเพิ่มมากขึ้น เมื่อองค์การอนามัยโลกเลื่อนการตัดสินเกี่ยวกับพื้นเพของเขา หลังจากเอธิโอเปียร้องขอให้ดำเนินการสืบสวนในประเด็นดังกล่าว ตามคำกล่าวหาที่ว่า ทีโดรส มีความเชื่อมโยงกับกองกำลังกบฏ
เขาบอกกับคณะกรรมการบริหารว่า กำลังหาทางยกเครื่องต้นแบบเงินทุนสนับสนุนของหน่วยงานแห่งนี้ ซึ่งเวลานี้มีเยอรมนีเป็นชาติผู้บริจาครายใหญ่ที่สุด แทนที่ วอชิงตัน ซึ่งเมื่อครั้งอยู่ภายใต้การบริหารงานของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้กล่าวหาองค์การอนามัยโลกลำเอียงเข้าข้างจีน
การที่สหรัฐฯ คัดค้านข้อเสนอสนับสนุนทางการเงินที่จะทำให้องค์การอนามัยโลกมีความเป็นอิสระมากขึ้น ได้ก่อข้อสงสัยว่ารัฐบาลอเมริกาภายใต้การนำโดยประธานาธิบดีโจ ไบเดน จะให้การสนับสนุนในระยะยาวแก่หน่วยงานของสหประชาชาติแห่งนี้หรือไม่ และอย่างไร
(ที่มา : รอยเตอร์)