WHO เตือนอย่าดูเบาโอมิครอน ย้ำโควิดยังไม่ใกล้จบ ด้านยุโรปยังสาหัสยอดติดเชื้อหลายประเทศพุ่งทำสถิติ

WHO เตือนผู้นำโลกในวันอังคาร (18 ม.ค.) อย่าดูเบาโอมิครอน ย้ำวิกฤตไวรัส “ยังไม่ใกล้จบ” ขณะที่หลายประเทศในยุโรปพากันรายงานยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ทำลายสถิติ เช่น ฝรั่งเศสพบเคสใหม่รายวันเฉียดครึ่งล้าน และเยอรมนีที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ทะลุ 100,000 คนต่อวันเป็นครั้งแรก

ในงานแถลงข่าวที่สำนักงานใหญ่องค์การอนามัยโลก (WHO) ที่เจนีวาเมื่อวันอังคาร เทดรอส แอดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการWHO กล่าวว่า โอมิครอนทำให้มีผู้ติดเชื้อทั่วโลกขณะนี้ถึง 18 ล้านคน และแม้โควิดสายพันธุ์นี้อาจมีความรุนแรงน้อยลง แต่การที่ระบุว่า มีอาการเพียงเล็กน้อยเท่านั้นกำลังทำให้คนมากมายเข้าใจผิด เนื่องจากโอมิครอนยังคงสามารถทำให้ผู้ติดเชื้อป่วยหนักและเสียชีวิตได้

เทดรอส เตือนผู้นำทั่วโลกว่า การแพร่ระบาดไปทั่วโลกอย่างเหลือเชื่อของโอมิครอนเพิ่มแนวโน้มที่จะทำให้เกิดการกลายพันธุ์สายพันธุ์ใหม่ๆ ดังนั้น การติดตามผู้สัมผัสโรคและการประเมินสถานการณ์จึงยังมีความสำคัญ

เขาเสริมว่า มีความกังวลโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับหลายประเทศที่มีอัตราการฉีดวัคซีนต่ำ เพราะผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนมีความเสี่ยงป่วยหนักและเสียชีวิตมากกว่าผู้ที่ฉีดวัคซีนหลายเท่า

ด้าน ไมค์ ไรอัน ผู้อำนวยการฝ่ายสถานการณ์ฉุกเฉินของ WHO เตือนเช่นเดียวกันว่า ความสามารถในการแพร่ระบาดที่มากขึ้นของโอมิครอนมีแนวโน้มผลักดันให้จำนวนผู้ป่วยที่ต้องเข้าโรงพยาบาลและผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศที่มีการฉีดวัคซีนต่ำ

เวลานี้ ไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์ใหม่นี้กำลังระบาดอย่างหนักทั่วยุโรป ทำให้หลายประเทศมีผู้ติดเชื้อทำสถิติใหม่ไม่หยุดหย่อน

ที่เดนมาร์ก ทางการรายงานว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในรอบ 24 ชั่วโมงของวันอังคารสูงสุดทำสถิติที่ 33,493 คน ขณะที่อิตาลีเผยว่า พบเคสใหม่ 228,179 คน เพิ่มขึ้นจาก 83,403 คนเมื่อวันจันทร์ (17)

วันพุธ (19) เยอรมนีรายงานยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ 112,323 คน และอัตราอุบัติการณ์ของโรคต่อ 100,000 คนยังเพิ่มขึ้นทำสถิติใหม่ที่ 584.4 ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

ขณะเดียวกัน ฝรั่งเศสรายงานเคสใหม่รายวันประจำวันอังคาร 464,769 คน เพิ่มขึ้นกว่า 4 เท่าของตัวเลขเมื่อวันจันทร์ที่ 102,144 คน และยังเป็นสถิติรายวันสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยจำนวนเคสใหม่เฉลี่ยในรอบสัปดาห์ขณะนี้อยู่ที่วันละกว่า 300,000 คน

กระนั้น บรรดารัฐมนตรีแดนน้ำหอมกำลังมีข้อพิพาทกับสหภาพครูที่เรียกร้องให้มีการนัดหยุดงานครั้งใหญ่เป็นรอบที่ 2 ในสัปดาห์นี้เพื่อประท้วงมาตรการตรวจโควิดและกักตัวของรัฐบาล เนื่องจากเห็นว่า มีความไม่แน่ไม่นอน และทำให้การเรียนการสอนหยุดชะงักอย่างรุนแรง

ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นหลังจากสัปดาห์ที่แล้วมีการนัดหยุดงาน 1 วัน ทำให้ต้องปิดโรงเรียนประถมครึ่งหนึ่งของทั่วประเทศ

ครูในฝรั่งเศสระบุว่า ปัญหาการเรียนการสอนหยุดชะงักกลายเป็นสถานการณ์ที่ไม่อาจจัดการได้ เนื่องจากผู้ปกครองจำนวนมากไม่สามารถนัดฉีดวัคซีนให้ลูกได้ ขณะที่นักเรียนมากมายต่อคิวยาวหน้าร้านขายยาเพื่อรอตรวจโควิด

ฌอง-มิเชล บลองเกร์ รัฐมนตรีฝรั่งเศส ถูกเรียกร้องให้ลาออกหลังจากถูกแฉว่า เขาประกาศมาตรการตรวจโควิดเข้มข้นสำหรับสถาบันการศึกษาขณะที่ตัวเองบินไปพักผ่อนที่อิบิซา

อย่างไรก็ดี เริ่มปรากฏสัญญาณเบื้องต้นว่า การระบาดของโอมิครอนอาจถึงจุดสูงสุดแล้วในบางประเทศในยุโรป

ตัวอย่างเช่นไอร์แลนด์ที่จำนวนเคสใหม่เริ่มลดลงในช่วงหลายวันที่ผ่านมา และสตีเฟน ดอนเนลลี รัฐมนตรีสาธารณสุข เผยว่า ปลายเดือนนี้อาจผ่อนคลายมาตรการจำกัดที่บังคับใช้ตั้งแต่คริสต์มาสและปีใหม่ได้

ข้อมูลอย่างเป็นทางการของสเปนบ่งชี้ว่า จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เริ่มลดลงเป็นครั้งแรกนับจากที่โอมิครอนระบาดเมื่อสองเดือนครึ่งที่ผ่านมา แม้ผู้เชี่ยวชาญเตือนไม่ให้คาดหวังกับข้อมูลนี้มากเกินไปก็ตาม

ส่วนที่อังกฤษนั้น คณะรัฐมนตรีเตรียมทบทวนมาตรการจำกัดในวันพุธขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันเริ่มลดลง

(บีบีซี, รอยเตอร์, เอเอฟพี)