เคสใหม่อเมริกาเริ่มลด คาดพ้นจุดพีกแล้ว ขณะที่อังกฤษ ‘ปลดล็อก’ เดินหน้าอยู่ร่วมกับโควิด

อเมริกาดูเหมือนกำลังจะหลุดพ้นจากการระบาดระลอกล่าสุดของโอมิครอน แม้จำนวนผู้ติดเชื้อยังสูงกว่าเวฟก่อนๆ และจำนวนผู้ป่วยหนักพุ่งแตะระดับสูงสุดก็ตาม สอดคล้องกับอังกฤษที่ประกาศยกเลิกมาตรการสกัดไวรัส และเริ่มต้นแนวทางการอยู่ร่วมกับโควิด

กราฟสถานการณ์โควิดในอเมริกาที่พุ่งขึ้นและดิ่งลงอย่างรวดเร็วพอๆ กัน อาจอยู่ในรูปแบบเดียวกับที่เกิดขึ้นในประเทศอื่นๆ ซึ่งโอมิครอนระบาด เป็นต้นว่า แอฟริกาใต้ อังกฤษ และฝรั่งเศส

ข้อมูลของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ (ซีดีซี) ระบุว่า จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เฉลี่ยรอบ 7 วัน พุ่งแตะระดับสูงสุดที่ราว 795,000 คนเมื่อวันที่ 13 ที่ผ่านมา และจากนั้นตัวเลขเริ่มลดลงตั้งแต่วันศุกร์ที่แล้ว (14)

จำนวนผู้ติดโควิดลดน้อยลง เป็นสิ่งที่เห็นชัดที่สุดในพวกรัฐที่พบการระบาดของโอมิครอนก่อนรัฐอื่นๆ โดยเฉพาะทางตะวันออกเฉียงเหนืออย่าง นิวยอร์ก นิวเจอร์ซีย์ และแมริแลนด์ ขณะที่รัฐทางตะวันตก เช่น นิวเม็กซิโก แอริโซนา และยูทาห์ ยังมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น

นอกจากนั้น แม้โอมิครอนมีอาการเบาลงในผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่เมื่อเทียบกับเดลตา แต่อัตราการเข้าโรงพยาบาลยังถือว่าสูง คือเกือบ 160,000 คน อย่างไรก็ดี มีแนวโน้มว่าตัวเลขจะเริ่มลดลงเร็วๆ นี้

ทางด้านอังกฤษ นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ประกาศยุติมาตรการป้องกันโควิด ซึ่งรวมถึงการบังคับสวมหน้ากาก และเริ่มต้นการอยู่ร่วมกับโควิดหลังจากตัวเลขผู้ติดเชื้อผ่านระดับสูงสุดไปแล้วจากการระบาดอย่างรวดเร็วของโอมิครอน ขณะที่จำนวนผู้ป่วยเข้าโรงพยาบาลและผู้เสียชีวิตไม่ได้เพิ่มขึ้นรุนแรงเท่าผู้ติดเชื้อ ส่วนหนึ่งเนื่องจากการรณรงค์ฉีดวัคซีนกระตุ้นและการที่โอมิครอนไม่ทำให้เกิดอาการรุนแรง

ก่อนหน้านี้ จอห์นสันยืนยันว่า จะหลีกเลี่ยงการบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์และปรับใช้แนวทางอยู่ร่วมกับโควิด

ผู้นำอังกฤษเผยว่า จำนวนผู้ป่วยโควิดในแผนกวิกฤตกำลังลดลง และนักวิจัยเชื่อว่า มีแนวโน้มที่โอมิครอนจะระบาดถึงจุดสูงสุดแล้ว

จอห์นสันสำทับว่า จะไม่บังคับใช้มาตรการใดๆ ตาม “แผนบี” อีกต่อไปหลังวันที่ 26 นี้ ซึ่งรวมถึงการบังคับสวมหน้ากากป้องกัน การกำหนดให้ต้องแสดงใบรับรองการฉีดวัคซีน รวมทั้งจะยุติการขอให้ประชาชนทำงานจากบ้านในทันที

อย่างไรก็ตาม นักวิจัยหลายคนเตือนว่า จำนวนผู้ติดเชื้ออาจกลับมาพุ่งขึ้นอีกครั้งหากประชาชนเปลี่ยนพฤติกรรมสู่ภาวะปกติเร็วเกินไป

ลอว์เรนซ์ ยัง นักไวรัสวิทยาจากมหาวิทยาลัยวอร์วิก บอกว่า ไม่มีสิ่งใดรับประกันได้ว่า จำนวนผู้ติดเชื้อจะลดลงต่อเนื่องอย่างที่เป็นอยู่ในขณะนี้ และสำหรับตนแล้วเห็นว่า ควรใช้แนวทางแบบค่อยเป็นค่อยไปมากกว่า

สำหรับที่จีนซึ่งกำลังนับถอยหลังพิธีเปิดมหกรรมโอลิมปิกฤดูหนาวต้นเดือนหน้า ทางการเร่งยกระดับมาตรการสกัดไวรัส โดยเมื่อคืนวันพุธได้ออกคำแถลงแนะนำว่า ควรตรวจสอบพวกบริษัทที่ให้บริการขนส่งแบบควบคุมอุณหภูมิในทันที รวมทั้งตรวจโควิดพนักงานและตรวจสอบสินค้าบ่อยขึ้น หลังจากพบพนักงานห้องเย็นบางคนติดโควิด พร้อมกันนี้ ยังเรียกร้องให้ประชาชนงดเดินทางหรือรวมกลุ่มทำกิจกรรมโดยไม่จำเป็น

ทั้งนี้ วันพุธปักกิ่งตรวจพบผู้ติดเชื้อในท้องถิ่นที่แสดงอาการ 3 คน โดยนับจากวันที่ 15 ที่ผ่านมาพบผู้ติดเชื้อในท้องถิ่นวันละต่ำกว่า 10 คน ซึ่งมีทั้งผู้ติดเชื้อเดลตาและโอมิครอน

สำหรับจำนวนผู้ติดเชื้อในท้องถิ่นและแสดงอาการทั่วประเทศอยู่ที่ 43 คนในวันพุธ ลดลงจาก 55 คนในวันก่อนหน้า

(ที่มา : เอเอฟพี, รอยเตอร์)