xs
xsm
sm
md
lg

สหรัฐฯ กังวลรัสเซียอาจโจมตียูเครนได้ ‘ทุกเมื่อ’ ส่ง รมว.ต่างประเทศไปปลอบขวัญกรุงเคียฟ ก่อนเจรจากับหมีขาว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ขบวนยานยนต์หุ้มเกราะของรัสเซียแล่นไปตามทางหลวงสายหนึ่งในแหลมไครเมียเมื่อวันอังคาร (18 ม.ค.) เวลานี้นอกจากฝ่ายตะวันตกระแวงที่กองทหารรัสเซียราว 100,000 คนรวมพลกันใกล้ชายแดนติดยูเครนแล้ว ยังหวั่นไหวกับการที่รัสเซียส่งทหารไปร่วมซ้อมรบกับเบลารุส ซึ่งก็มีพรมแดนติดยูเครนเช่นกัน
รัฐมนตรีต่างประเทศ แอนโทนี บลิงเคน ของสหรัฐฯ เดินทางไปเยือนกรุงเคียฟในวันพุธ (19 ม.ค.) เพื่อปลอบขวัญยูเครน พร้อมกับเรียกร้องประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เลือก “เส้นทางแห่งสันติภาพ” ขณะที่วอชิงตันแสดงความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่รัสเซียจวนเจียนลงมือโจมตีอดีตสาธารณรัฐโซเวียตแห่งนี้เต็มทีแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการที่มอสโกส่งกำลังทหารไปร่วม “ซ้อมรบ” ที่เบลารุส ซึ่งฝ่ายตะวันตกระแวงว่าอาจกลายเป็นการเข้าประจำการของกองทหารหมีขาวอย่างถาวร รวมถึงติดอาวุธนิวเคลียร์ด้วย

บลิงเคน ซึ่งไปเยือนยูเครน ก่อนหน้าเดินทางต่อไปหารือกับพวกชาติพันธมิตรสำคัญในยุโรปอันได้แก่ สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และเยอรมนี ที่กรุงเบอร์ลิน แล้วไปเจรจากับรัฐมนตรีต่างประเทศ เซียร์เก ลาฟรอฟ ของรัสเซียที่นครเจนีวาวันศุกร์ (21) นี้ ได้กล่าวที่กรุงเคียฟโดยรบเร้าปูตินให้ขจัดความหวาดระแวงที่ว่า ผู้นำหมีขาวกำลังวางแผนรุกรานยูเครน ซึ่งหันมาฝักใฝ่ฝ่ายตะวันตกในระยะหลายปีหลังๆ มานี้

ขณะพูดที่สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ไม่นานหลังมาถึงเมืองหลวงของยูเครน บลิงเคนเตือนว่ารัสเซียสามารถเพิ่มเติมกำลังทหารมายังยูเครนได้อย่างง่ายดาย ทั้งนี้ ฝ่ายตะวันตกระบุว่ารัสเซียชุมนุมทหารเอาไว้ที่ชายแดนประชิดกับยูเครนอยู่แล้วในระดับ 1 แสนคน

“พวกเราทราบดีว่ามีแผนการต่างๆ จัดเตรียมเอาไว้แล้วสำหรับการเพิ่มกำลังดังกล่าว แม้กระทั่งภายในเวลาสั้นๆ และนั่นทำให้ประธานาธิบดีปูตินมีสมรรถนะภายในเวลาสั้นๆ เช่นกันที่จะดำเนินปฏิบัติการก้าวร้าวรุกรานเพิ่มมากขึ้นต่อยูเครน” บลิงเคน กล่าว

เมื่อวันอังคาร (18) เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ได้เพิ่มระดับเตือนภัยคุกคามของรัสเซีย โดยระบุว่าวิกฤตที่ก่อตัวอย่างช้าๆ กำลังก้าวสู่ขั้นใหม่ที่เต็มไปด้วยอันตราย "เราเชื่อว่าเวลานี้เราอยู่ในขั้นที่รัสเซียอาจลงมือโจมตียูเครนได้ทุกเมื่อ" เจน ซากี เลขานุการฝ่ายสื่อสารมวลชนทำเนียบขาวระบุ "ดิฉันอยากบอกว่ามันจริงจังกว่าที่เราเคยเจอ"

ขณะเจ้าหน้าที่อาวุโสรายหนึ่งของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ บอกกับสื่อมวลชนแบบขอไม่เปิดเผยตัวว่า มีความกังวลว่าการแก้ไขปฏิรูปรัฐธรรมนูญในเบลารุส รัฐเผด็จการที่พันธมิตรใกล้ชิดกับมอสโก อาจเปิดทางให้รัสเซียนำเอาอาวุธนิวเคลียร์เข้าไปประจำการ

ความกังวลดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่ทหารรัสเซียหลั่งไหลเข้าสู่เบลารุส ในสิ่งที่พวกเขาบอกว่าเป็นการซ้อมรบ แต่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ระบุว่ามันเป็นจำนวน "ที่มากกว่าปกติอย่างมาก"

ถึงแม้รัสเซียยืนยันหลายครั้งว่าไม่มีแผนรุกรานยูเครน แต่ฝ่ายตะวันตกยังคงเฝ้ามองด้วยความระแวง สืบเนื่องจากแดนหมีขาวเคยบุกสายฟ้าแลบเมื่อปี 2014 เข้ายึดแหลมไครเมียอย่างที่ยูเครนและฝ่ายตะวันตกไม่ทันระวังตั้งตัว รวมทั้งยังสนับสนุนกบฏแบ่งแยกดินแดนทางภาคตะวันออกของยูเครน

ทางฝ่ายรัสเซียนั้นเสนอภาพสถานการณ์เป็นอีกอย่างหนึ่ง โดยระบุว่าฝ่ายตะวันตกที่นำโดยสหรัฐฯ ตระบัดสัตย์โดยตลอดในเรื่องที่เคยให้สัญญาตอนที่สหภาพโซเวียตล่มสลาย ว่าจะไม่นำเอาอดีตประเทศที่อยู่ในอิทธิพลโซเวียตมาเป็นสมาชิกองค์การนาโต้ แต่ในเวลานี้ไม่เพียงชาติต่างๆ ในยุโรปตะวันออกเท่านั้น กระทั่งพวกอดีตสาธารณรัฐโซเวียตในแหลมบอลข่านก็เข้าร่วมกลุ่มพันธมิตรทางทหารกันไปแล้ว สภาพเช่นนี้เป็นการคุกคามความมั่นคงของแดนหมีขาว

สำหรับในคราวนี้ ข้อเรียกร้องต่างๆ ของรัสเซียต่อฝ่ายตะวันตกเพื่อให้มีการผ่อนคลายความตึงเครียด ที่สำคัญข้อหนึ่งคือ ต้องไม่รับยูเครนเข้าเป็นสมาชิกตลอดไป ทว่านาโต้ระบุว่านี่เป็นสิ่งที่ไม่มีทางประสบความสำเร็จตั้งแต่เริ่มต้น

ซากี กล่าวโทษผู้นำรัสเซีย ระบุว่า "ประธานาธิบดีปูตินสร้างวิกฤตนี้ขึ้นมา" และเตือนอีกครั้งว่าอาจโดนมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจอย่างที่ไม่เคยเจอมาก่อน หากมอสโกลงมือโจมตียูเครน "ในเรื่องการคว่ำบาตรนี้ ไม่มีทางเลือกใดที่ถูกดึงออกจากโต๊ะ" เธอกล่าว พร้อมเตือนว่า "สถานการณ์อันตรายอย่างยิ่งยวด"

โฆษกทำเนียบขาวรายนี้กล่าวต่อว่า มาตรการคว่ำบาตรนั้นอาจรวมถึงการพับเก็บโครงการนอร์ด สตรีม 2 สายท่อลำเลียงก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียสู่เยอรมนี

ความพยายามเชิงรุกทางการทูตของบลิงเคนมีขึ้นตามหลังการพูดคุยที่ไม่ได้ข้อสรุปซึ่งเกิดขึ้นในเจนีวา บรัสเซลล์และเวียนนา เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยฝ่ายตะวันตกยืนกรานว่าทางรัสเซียนำเสนอข้อเรียกร้องที่ไม่อาจยอมรับได้

(ที่มา : เอเอฟพี, เอเจนซีส์)
กำลังโหลดความคิดเห็น