หัวหน้าองค์การอนามัยโลกสาขายุโรปเตือนในวันอังคาร (21 ธ.ค.) ให้ประเทศต่างๆ เตรียมพร้อมเผชิญ "พายุ" อีกลูกกำลังมา เคสผู้ติดเชื้้อโควิด-19 จะเพิ่มขึ้นอย่างมากท่ามกลางการแพร่ระบาดของตัวกลายพันธุ์โอมิครอน ขณะที่เดนมาร์กเป็นชาติล่าสุดในทวีปแห่งนี้ที่โอมิครอนกลายเป็นสายพันธุ์หลักในประเทศเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นับตั้งแต่มันปรากฏตัวในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน โอมิครอนถูกตรวจพบแล้วอย่างน้อย 38 ประเทศ จากทั้งหมด 58 ประเทศ ในภูมิภาคยุโรปขององค์การอนามัยโลก และเวลานี้มันกลายเป็นสายพันธุ์หลักในหลายชาติ ในนั้นรวมถึงโปรตุเกส สหราชอาณาจักร และเดนมาร์ก จากคำแถลงที่กรุงเวียนนาของ ฮันส์ คลูจ ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (WHO) ประจำภูมิภาคยุโรป
"เราเห็นพายุอีกลูกกำลังมา" คลูจ กล่าว "ภายในไม่กี่สัปดาห์โอมิครอนจะกลายเป็นสายพันธุ์หลักในอีกหลายประเทศในภูมิภาค ผลักให้ระบบสาธารณสุขที่เผชิญความตึงเครียดอยู่ก่อนแล้วขยับเข้าใกล้ขอบเหวมากยิ่งขึ้น"
สำหรับภูมิภาคยุโรปขององค์การอนามัยโลก มีรัสเซียและสาธารณรัฐอดีตสหภาพโซเวียตอื่นๆ เช่นเดียวกับตุรกี รวมอยู่ด้วย
ข้อมูลขององค์การอนามัยโลกพบว่าภูมิภาคแห่งนี้ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ รายงานเคสผู้ติดเชื้อโควิด-19 สูงสุดเมื่อเทียบขนาดประชากรกับทวีปอื่นๆ และแม้กระทั่งก่อนหน้าการแพร่ระบาดของตัวกลายพันธุ์โอมิครอน เจ้าหน้าที่เคยเตือนว่าอาจมีผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เพิ่มอีกราวๆ 700,000 รายภายในเดือนมีนาคม
สำนักงานใหญ่ขององค์การอนามัยโลกในเจนีวา แนะนำว่า วัคซีนเข็มกระตุ้นควรสงวนไว้สำหรับกลุ่มคนที่อ่อนแอที่สุด แต่ คลูจ เร่งเร้าทุกคนฉีดเข็มกระตุ้น "เข็มกระตุ้นคือเครื่องป้องกันที่สำคัญที่สุดหนทางเดียวในการป้องกันโอมิครอน" เขากล่าว
จนถึงตอนนี้ 98% ของเคสผู้ติดเชื้อโอมิครอนระยะแรกในยุโรป แสดงอาการต่างๆ อย่างเช่น ไอ เจ็บคอ และมีไข้ ผู้ป่วยส่วนใหญ่แล้วเป็นกลุ่มประชากรวัยผู้ใหญ่อายุ 20 ปีเศษๆ ถึง 30 ปีเศษๆ และเป็นการแพร่กระจายเชื้อผ่านการรวมตัวทางสังคมและสถานที่ทำงานตามเมืองต่างๆ
"จำนวนที่แท้จริงของผู้ติดเชื้อโควิด-19 ใหม่ อาจนำมาซึ่งการจำนวนคนไข้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลมากยิ่งขึ้น และก่อความวุ่นวายอย่างกว้างขวางแก่ระบบสาธารณสุขและงานบริการสำคัญๆอื่นๆ" เขากล่าว "รัฐบาลชาติต่างๆ และเจ้าหน้าที่จำเป็นต้องเตรียมพร้อมระบบตอบสนองของเรา สำหรับรับมือกับเคสผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก"
ก่อนหน้านี้ในวันจันทร์ (20 ธ.ค.) องค์การอนามัยโลกระบุว่า โอมิครอนกำลังแพร่ระบาดรวดเร็วกว่าตัวกลายพันธุ์เดลตาเป็นอย่างมาก ก่อการติดเชื้อทั้งในคนที่ฉีดวัคซีนแล้วหรือหายป่วยจากการติดเชื้อ และแม้จากหลักฐานในเบื้องต้นบ่งชี้ว่าโอมิครอนก่ออาการเบากว่าตัวกลายพันธุ์ก่อนๆ แต่หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ของหน่วยงานแห่งนี้เตือนว่า "คงเป็นเรื่องไม่ฉลาดนัก" หากด่วนสรุปเช่นนี้
นอกเหนือจากโปรตุเกส และสหราชอาณาจักรแล้ว ในวันอังคาร (21 ธ.ค.) กระทรวงสาธารณสุขเดนมาร์ก แถลงยืนยันว่าเวลานี้ตัวกลายพันธุ์โอมิครอน ที่แพร่เชื้อได้ง่ายมากได้กลายเป็นสายพันธุ์หลักในประเทศแล้ว ขณะที่ในวันเดียวกันนี้ เดนมาร์กรายงานพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่รายวัน สูงที่สุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาด
เดนมาร์ก ประเทศที่มีประชากร 5.8 ล้านคน พบผู้ติดเชื้อใหม่รายวัน 13,558 คนในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และมีอย่างน้อย 500 เคสที่เคยผ่านการติดเชื้อโควิด-19 มาแล้ว
แมกนัส ฮิวนิเก รัฐมนตรีสาธารณสุขของเดนมาร์ก เขียนบนทวิตเตอร์ว่า "เวลานี้สถาบันสุขภาพแห่งชาติพิจารณาแล้วว่าโอมิครอนกลายเป็นสายพันธุ์หลักแล้วและจำนวนผู้ติดเชื้อกำลังพุ่งขึ้น" ราว 1 เดือนหลังจากพบผู้ติดเชื้อโอมิครอนรายแรกในประเทศ
ด้วยที่กำลังเผชิญกับเคสผู้ติดเชื้อที่พุ่งสูงขึ้น เดนมาร์กเมื่อวันอาทิตย์ (19 ธ.ค.) ตัดสินใจปิดโรงละคร โรงภาพยนตร์ และหอแสดงคอนเสิร์ต รวมถึงจำนวนเวลาเปิดปิดร้านอาหาร โดยมาตรการต่างๆ เหล่านี้มีระยะเวลาอย่างน้อย 4 สัปดาห์
สถานการณ์ล่าสุดของเดนมาร์กถือว่าพลิกผันอย่างมากในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยประเทศแห่งนี้ได้ยกเลิกข้อจำกัดต่างๆ ทั้งหมดในวันที่ 10 กันยายน ก่อนกลับมาบังคับใช้บัตรผ่านไวรัสโคโรนาอีกรอบในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน จากนั้้นได้แถลงกำหนดข้อจำกัดต่างๆ รอบแรกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
(ที่มา : รอยเตอร์/เอเอฟพี)