xs
xsm
sm
md
lg

WHO มึน! โอมิครอนแพร่เชื้อไวจัดเคสทั่วโลกพุ่งเท่าตัวใน 3 วัน ไม่รู้ทำไมระบาดรวดเร็วในประเทศฉีดวัคซีนมาก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



องค์การอนามัยโลก (WHO) รายงานพบเคสผู้ติดเชื้อโควิด-19 ตัวกลายพันธุ์โอมิครอนเพิ่มขึ้นเท่าตัวในเวลาเพียง 3 วัน และยอมรับไม่รู้ว่าทำไมตัวกลายพันธุ์นี้ถึงกำลังแพร่ระบาดรวดเร็วมากในประเทศต่างๆ ที่มีภูมิคุ้มกันในระดับสูง

ในข้อมูลอัปเดตเมื่อวันเสาร์ (18 ธ.ค.) องค์การอนามัยโลกระบุว่า จนถึงตอนนี้ได้รับรายงานพบเคสผู้ติดเชื้อโอมิครอนแล้วใน 89 ประเทศ และจำนวนเคสผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเท่าตัวในช่วงเวลาเพียงแค่ 1.5 ถึง 3 วัน พร้อมบอกว่ามันแพร่เชื้อได้รวดเร็วกว่าตัวกลายพันธุ์เดลตาเป็นอย่างมาก ในประเทศต่างๆ ที่พบการแพร่ระบาดในชุมชน

อย่างไรก็ตาม องค์การอนามัยโลกยอมรับว่ายังไม่ชัดเจนว่าทำไมตัวกลายพันธุ์ใหม่นี้ถึงกำลังแพร่ระบาดรวดเร็วมากในหมู่ประชากรที่มีภูมิคุ้มกันระดับสูง อาจเป็นเพราะมีการแพร่กระจายเชื้อเพิ่มขึ้น หลบหลีกภูมิคุ้มกันได้ดีกว่าเดิม หรือรวมกันทั้ง 2 ปัจจัย

"ข้อมูลที่หาได้ยังคงมีอย่างจำกัด และหลักฐานต่างๆ ไม่ผ่านการตรวจสอบทบทวนโดยผู้ทรงคุณวุฒิ ทั้งประสิทธิภาพของวัคซีนสำหรับโอมิครอนจนถึงตอนนี้" องค์การอนามัยโลกกล่าวระหว่างแถลงสรุปทางเทคนิค

องค์การอนามัยโลกเตือนว่า ด้วยการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วและจำนวนเคสผู้เข้ารักษาตัวตามโรงพยาบาลต่างๆ ในสหราชอาณาจักรและแอฟริกาใต้เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ "มันจึงเป็นไปได้ว่าระบบสาธารณสุขอาจประสบปัญหาคนไข้ล้นโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว"

ถ้อยแถลงขององค์การอนามัยโลกบอกว่าจำเป็นต้องมีข้อมูลมากกว่านี้ในแง่ของความรุนแรงทางคลินิกของตัวกลายพันธุ์โอมิครอน โดยยอมรับว่าพวกเขายังคงไม่เข้าใจเกี่ยวกับ "ภาวะการณ์ความรุนแรง และมันส่งผลกระทบต่อภูมิคุ้มกันที่เกิดจากวัคซีนและเคยติดเชื้อมาแล้วหนักหนาแค่ไหน"

นับตั้งแต่ถูกพบในแอฟริกาใต้เมื่อราวๆ 5 สัปดาห์ก่อน การแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของโอมิครอน โหมกระพือมาตรการแบนด้านการเดินทางรอบใหม่ เช่นเดียวกับข้อจำกัดใหม่สกัดการแพร่ระบาด ในนั้นมีหลายประเทศที่ประกาศล็อกดาวน์เต็มรูปแบบ

สหราชอาณาจักรรายงานพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่รายวันเพิ่มขึ้น 3 วันติด โดยในวันศุกร์ (17 ธ.ค.) พบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีกกว่า 93,000 คน ในขณะที่มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ในลอนดอนกำลังพิจารณาแนวคิดที่จะล็อกดาวน์เข้มงวดรอบใหม่เป็นเวลา 2 สัปดาห์ หลังจากคริสต์มาส

(ที่มา : รัสเซียทูเดย์)


กำลังโหลดความคิดเห็น