ตัวกลายพันธุ์โอมิครอนของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่สามารถหลบหลีกภูมิคุ้มกันที่เกิดจากวัคซีนโควิด-19 ของไฟเซอร์/ไบออนเทคได้บางส่วน สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานในวันอังคาร (7 ธ.ค.) โดยอ้างคำกล่าวของหัวหน้าฝ่ายวิจัยของห้องปฏิบัติการแห่งหนึ่ง ณ สถาบันวิจัยสุขภาพแอฟริกาในแอฟริกาใต้
อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวของบลูมเบิร์ก อ้างคำพูดของ อเล็กซ์ ซิกาล หัวหน้าฝ่ายวิจัยของห้องปฏิบัติการ ระบุว่า ตัวกลายพันธุ์โอมิครอนไม่ได้หลบหลีกภูมิคุ้มกันจากวัคซีนของไฟเซอร์/ไบออนเทคโดยสิ้นเชิง และเข็มกระตุ้นสามารถมอบประสิทธิภาพการป้องกันเพิ่มเติม
ศาสตราจารย์ซิกาล เขียนบนทวิตเตอร์วา "มีการลดลงอย่างมาก" ในภูมิคุ้มกันลบล้างฤทธิ์ของตัวกลายพันธุ์โอมิครอน เมื่อเปรียบเทียบกับสายพันธุ์ก่อนหน้านี้ของโควิด
จากโพสต์ต้นร่างที่ปรากฏอยู่บนเว็บไซต์ของห้องปฏิบัติการของศาสตราจารย์ซิกาล ระบุว่า มันเป็นการทดสอบตัวอย่างเลือดในห้องปฏิบัติการของบุคคล 12 รายที่ฉีดวัคซีนของไฟซอร์/ไบออนเทค อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเบื้องต้นนี้ยังไม่ผ่านการตรวจสอบทบทวนโดยผู้ทรงคุณวุติ
ต้นร่างของงานวิจัยระบุว่าเลือดของบุคคล 5 จาก 6 ราย ที่ฉีดวัคซีนแล้ว เช่นเดียวกับเคสติดเชื้อโควิด-19 มาก่อน ยังคงมีภูมิคุ้มกันลบล้างฤทธิ์ของตัวกลายพันธุ์โอมิครอน
อย่างไรก็ตาม พวกเขาสังเกตพบว่าระดับแอนติบอดีลบล้างฤทธิ์ (neutralizing antibodies) กับตัวกลายพันธุ์โอมิครอน ลดลงถึง 44 เท่า แต่ ซิกาล ระบุบนทวิเตอร์ว่าข้อมูลนี้มีความเป็นไปได้จะเปลี่ยนไป หลังจากห้องปฏิบัติการของเขาทดลองเพิ่มเติม
ตัวกลายพันธุ์โอมิครอน ถูกตรวจพบครั้งแรกในภูมิภาคทางใต้ของแอฟริกาเมื่อเดือนที่แล้ว โหมกระพือความกังวลทั่วโลกเกี่ยวกับการแพร่ระบาดระลอกใหม่ โดยเวลานี้มีหลายสิบประเทศแล้วที่รายงานพบผู้ติดเชื้อ ในนั้นรวมถึงญี่ปุ่นและสหรัฐฯ
เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน องค์การอนามัยโลกจัดให้ตัวกลายพันธุ์โอมิครอนเป็น "สายพันธุ์ที่น่ากังวล' แต่บอกว่ายังไม่พบหลักฐานสนับสนุนความจำเป็นต้องมีวัคซีนใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อจัดการโดยเฉพาะกับโอมิครอนที่มีการกลายพันธุ์มากมายหลายตำแหน่ง
(ที่มา : บลูมเบิร์ก)