เอพี - คณะกรรมาธิการ 6 ม.ค.ประจำสภาล่างสหรัฐฯ เมื่อวานนี้ (13 ธ.ค.) ออกเสียงลงมติเป็นเอกฉันท์แนะนำกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ให้ตั้งข้อหาขัดคำสั่งต่อ มาร์ค เมโดว์ส (Mark Meadows) อดีตหัวหน้าคณะทำงานทำเนียบขาวของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ในการตรวจสอบเหตุการณ์ผู้สนับสนุนทรัมป์บุกรัฐสภาสหรัฐฯ เมื่อต้นมกราคมต้นปีนี้
เอพีรายงานวันนี้ (14 ธ.ค.) ว่า หลักฐานที่ข้อความอักษรซึ่งออกมาจากมาร์ค เมโดว์ส (Mark Meadows) อดีตหัวหน้าคณะทำงานทำเนียบขาวของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ก่อนที่เขาจะหยุดให้ความร่วมมือในการสอบสวนเหตุการณ์กลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์ บุกรัฐสภาสหรัฐฯ เดอะ แคปปิตอล ฮิล เมื่อวันที่ 6 ม.ค.ต้นปี เพื่อต้องการไม่ให้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ได้รับการยืนยันรับรองให้เป็นผู้ชนะการเลือกตั้งปี 2020 แสดงให้เห็นว่า มีจำนวนหนึ่งของสมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ นักจัดรายการสถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์นิวส์ และแม้แต่บุตรชายของทรัมป์ กระตุ้นให้เมโดว์ส ผลักดันให้อดีตผู้นำสหรัฐฯ คนที่ 45 ลงมืออย่างรวดเร็วเพื่อยุติการบุกรุกรัฐสภาที่เกิดโดยสาวกผู้สนับสนุนของเขา
ซึ่งในการออกเสียงวันจันทร์ (13) พบว่าคณะกรรมาธิการชุด 6 ม.ค.ประจำสภาล่างสหรัฐฯ มีมติ 9-0 แนะนำการตั้งข้อหาขัดคำสั่งต่อเมโดว์ส และหลังจากนั้น สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ มีกำหนดที่จะออกเสียงลงมติในวันนี้ (14) ว่าจะส่งต่อไปยังกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ หรือไม่ ซึ่งกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ มีหน้าที่ตัดสินใจว่าจะเป็นผู้ดำเนินคดีทางอาญากับอดีตหัวหน้าคณะทำงานทำเนียบขาวของทรัมป์
“เราต้องการแถลงการณ์ห้องทำงานรูปไข่” โดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ ส่งข้อความไปหาเมโดว์ส ท่ามกลางกลุ่มผู้สนับสนุนของบิดากำลังบุกเข้าสู่ด้านในรัฐสภาสหรัฐฯ และทำให้บรรดาสมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ ที่อยู่ด้านในต้องหนีหาที่ซ่อนตัวเพื่อความปลอดภัยรวมไปถึงขัดขวางการยืนยันรับรองชัยชนะการเลือกตั้งตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ คนใหม่ของผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต โจ ไบเดน และในข้อความยังกล่าวต่อว่า “เขาต้องขึ้นนำเดี๋ยวนี้เพราะมันเกินเลยไปมากและหลุดไปจากมือแล้ว”
ดอน จูเนียร์ กล่าวย้ำต่อเมโดว์ส โดยชี้ไปถึงทรัมป์ว่า “เขาต้องออกโรงประณามสิ่งที่น่ารังเกียจนี้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้”
ส.ส ลิซ เชนีย์ (Liz Cheney) จากพรรคริพับลิกันที่เป็นรองประธานได้กล่าวไปถึงรายละเอียดในหลักฐานข้อความที่ได้จากเมโดว์ส กล่าวว่า หลักฐานเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความง่อนแง่นอย่างสูงสุดของทรัมป์ จากการที่เขาปฏิเสธที่จะออกมาประณามอย่างรุนแรงต่อความรุนแรงของเหล่าผู้สนับสนุน และยังเป็นการตั้งคำถามว่าทรัมป์ ต้องการขัดขวางกระบวนการรับรองของสภาสหรัฐฯ ด้วยการไม่ให้สามารถปฏิบัติได้หรือไม่
“ข้อความเหล่านี้ทำให้ไม่ต้องสงสัยเลยว่า....” เชนีย์ กล่าวและชี้ว่า “ทำเนียบขาวรู้ดีอย่างแน่นอนว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นที่เดอะ แคปปิตอล ฮิล (รัฐสภาสหรัฐฯ)”
ทั้งนี้ เอพีเคยรายงานเมื่อกลางเดือนพฤศจิกายนว่า พรรครีพับลิกันประจำรัฐไวโอมิง ลงมติไม่รับเชนีย์เป็นสมาชิกพรรคอีกต่อไปหลังเธอแสดงความเห็นวิพากษ์วิจารณ์อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ เกี่ยวกับเหตุการณ์บุกรัฐสภาสหรัฐฯ
ทั้งนี้ การลงมติของคณะกรรมาธิการชุด 6 ม.ค.ได้รับฟังการเข้าให้การจากพยานมากกว่า 300 ปาก และออกคำสั่งเรียกตัวเป็นทางการอีกกว่า 40 คน เพื่อรวบรวมหลักฐานรายงานการก่อกบฏ และความรุนแรงจากการเข้ายึด ซึ่งบรรดาแกนนำของคณะกรรมาธิการต่างประกาศที่จะลงโทษต่อกลุ่มผู้ไม่ยอมให้ความร่วมมือ โดยก่อนหน้า เมโดว์ส ที่ถูกโหวตลงมติ 9-0 วานนี้ (13) พบว่า กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ได้สั่งฟ้องดำเนินคดีฐานขัดคำสั่งต่ออดีตคนใกล้ชิดทรัมป์ สตีฟ แบนนอน (Steve Bannon) ข้อหาขัดคำสั่งการเรียกตัวให้เข้ามาให้ข้อมูลอย่างเป็นทางการในฤดูใบไม้ร่วงที่ผ่านมา
สำหรับในส่วนของเมโดว์ส นั้นพบว่าในสัปดาห์ที่ผ่านมาเขาไม่มาปรากฏตัวเพื่อแสดงข้อมูลหลักฐาน หลังก่อนหน้าได้แถลงผ่านทางทนายความประกาศที่จะหยุดให้ความร่วมมือกับคณะกรรมาธิการ