องค์การอนามัยโลก(WHO) เมื่อวันอังคาร(23พ.ย.) คาดหมายว่าอาจมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในยุโรปอีก 700,000 รายจนถึงเดือนมีนาคม ส่งผลให้ยอดเหยื่อสะสมในทวีปแห่งนี้จะพุ่งเหนือ 2.2 ล้านคน พร้อมเรียกร้องประชาชนฉีดวัคซีนและฉีดเข็มกระตุ้น
คำเตือนดังกล่าวมีขึ้นไม่กี่วันหลังจาก ฮานส์ คลูก ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก ประจำภาคพื้นยุโรป เพิ่งเตือนว่าอาจมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในทวีปของเขา เพิ่มอีกกว่า 500,000 คนภายในเดือนมีนาคม จนกว่าจะมีการดำเนินการอย่างเร่งด่วน ในนั้นรวมถึงมาตรการสวมหน้ากาก ซึ่งนายแพทย์คลูก ระบุว่าการยกระดับการสวมหน้ากากป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ จะสามารถช่วยได้ทันที
ปัจจุบันยอดผู้เสียชีวิตสะสมจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ใน 53 ประเทศของภูมิภาคยุโรปแห่งองค์การอนามัยโลก ก้าวผ่านหลักหมายอันน่าเศร้า 1.5 ล้านรายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยจำนวนการเสียชีวิตรายวันเพิ่มขึ้นเท่าตัวจากช่วงปลายเดือนกันยายน เเป็น 4,200 คนต่อวัน
ภูมิภาคยุโรปขององค์การอนามัยโลกยังรวมไปถึงรัสเซียและบรรดาประเทศอดีตสหภาพโซเวียตอื่นๆ เช่นเดียวกับตุรกี
"คาดการณ์ว่าจำนวนผู้เสียชีวิตสะสมน่าจะแตะระดับมากกว่า 2.2 ล้านคนในช่วงฤดูใบไม้ผลิปีหน้า บนพื้นฐานของแนวโน้มปัจจุบัน" รายงานระบุ พร้อมเผยว่าเวลานี้โควิด-19 กลายเป็นสาเหตุการตายอันดับ 1 ของภูมิภาคเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
องค์การอนามัยโลกคาดการณ์ด้วยว่าหออภิบาลผู้ป่วยหนัก(ไอซียู) ในบรรดา 53 ประเทศของภูมิภาคแห่งนี้ น่าจะมีอยู่ราวๆ 49 ประเทศที่อาจต้องเผชิญกับภาวะตึงเครียดระดับสูงและรุนแรง ในการรับมือกับคนไข้โควิด-19
ฝรั่งเศส สเปนและฮังการี อยู่ในบรรดาประเทศที่ถูกคาดหมายว่าต้องประสบกับภาวะตึงเครียดสุดขั้วเกี่ยวกับการใช้งานห้องไอซียูในช่วงต้นปี 2022 จากข้อมูลของรองค์การอนามัยโลก ประจำภาคพื้นยุโรป
เนเธอร์แลนด์เริ่มลำเลียงคนไข้โควิด-19 ข้ามพรมแดนไปยังเยอรมนีในวันอังคาร(23พ.ย.) หลังโรงพยาบาลต่างๆเผชิญแรงกดดันมากขึ้น และจำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่วนออสเตรียเริ่มเข้าสู่มาตรการล็อกดาวน์รอบ 4 ในวันจันทร์(22พ.ย.)
องค์การอนามัยโลกระบุว่าการที่ผู้คนจำนวนมากยังไม่ฉีดวัคซีน และภูมิคุ้มกันที่เกิดจากวัคซีนลดลง เป็นหนึ่งในหลายปัจจัยที่โหมกระพือการแพร่ระบาดรุนแรงในยุโรป เช่นเดียวกับตัวกลายพันธุ์เดลตาที่แพร่เชื้อได้ง่ายมาก และการผ่อนปรนมาตรการด้านสุขอนามัย
คลูก เรียกร้องประชาชนเข้ารับวัคซีนและฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น หากสามารถเข้าถึงวัคซีน
ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่องค์การอนามัยโลกประจำสำนักงานใหญ่ในเจนีวา ออกคำแนะนำคัดค้านการฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มกระตุ้น จนกว่าจะผู้คนทั่วโลกจะได้รับวัคซีนเข็มดั้งเดิมมากกว่าที่เป็นอยู่
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่องค์การอนามัยโลกไม่ได้ตอบคำถามของผู้สื่อข่าว ที่แสดงความสงสัยว่าความคิดเห็นล่าสุดของ คลูก นั้น เป็นตัวแทนของการเปลี่ยนแปลงกรอบคำแนะนำอย่างเป็นทางการหรือไม่
"เราทุกคนมีโอกาสและมีหน้าที่รับผิดชอบ สำหรับช่วยหลีกเลี่ยงเรื่องเศร้าและการสูญเสียชีวิตที่ไม่จำเป็น และข้อจำกัดต่างๆที่จะก่อความวุ่นวายเพิ่มเติมแก่สังคมและภาคธุรกิจในช่วงฤดูหนาวนี้" คลูกกล่าว
(ที่มา:รอยเตอร์)