“เกาหลีเหนือ” คุยลั่นในวันจันทร์ (13 ก.ย.) สามารถยิงทดสอบขีปนาวุธร่อนพิสัยไกลที่พัฒนาขึ้นมาใหม่อย่างประสบความสำเร็จในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่อเมริการะบุว่า เปียงยางกำลังคุกคามเพื่อนบ้านและประชาคมโลก ด้านจีนเรียกร้องให้ทุกฝ่ายยับยั้งชั่งใจ แก้ปัญหาด้วยการพูดจากัน
ภาพจากหนังสือพิมพ์โรดอง ซินมุน ของทางการโสมแดงเผยให้เห็นขีปนาวุธพุ่งออกจากหนึ่งในห้าท่อบนรถบรรทุกที่ใช้เป็นฐานยิง ซึ่งนักวิเคราะห์ชี้ว่า อาวุธล่าสุดนี้แสดงให้เห็นความคืบหน้าของเทคโนโลยีอาวุธของเกาหลีเหนือที่สามารถหลบเลี่ยงระบบต่อต้านของฝ่ายตะวันตก รวมทั้งสามารถยิงถึงเป้าหมายตลอดทั่วทั้งเกาหลีใต้และญี่ปุ่น
ขณะที่สำนักข่าวโคเรียน เซ็นทรัล นิวส์ (เคซีเอ็นเอ) ของทางการเปียงยางระบุว่า การทดสอบมีขึ้นในวันเสาร์ (11) และอาทิตย์ (12) ที่ผ่านมา โดยขีปนาวุธร่อนที่ยิงทดสอบคราวนี้มีพิสัยการยิงไกลถึง 1,500 กิโลเมตร พร้อมกันนั้นยังยกย่องว่า เป็นอาวุธเชิงยุทธศาสตร์ที่สำคัญอย่างยิ่ง และความสำเร็จของการทดสอบนี้ทำให้เกาหลีเหนือมีวิธีป้องปรามกองทัพศัตรูอย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอีกวิธีหนึ่ง
เกาหลีเหนือในปัจจุบันถูกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ออกมาตรการแซงก์ชันคว่ำบาตร เพื่อไม่ให้พัฒนาโครงการอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธทิ้งตัว (ballistic missile) แต่ไม่รวมถึงการพัฒนาขีปนาวุธร่อน (cruise missile)
ขีปนาวุธร่อนนั้นเคลื่อนที่ได้ช้ากว่าขีนปนาวุธทิ้งตัว รวมทั้งขีปนาวุธทิ้งตัวซึ่งได้พลังขับดันจากจรวด ยังสามารถบรรทุกหัวรบที่มีขนาดใหญ่กว่าและทรงอำนาจมากกว่า นอกจากนั้นยังมีพิสัยทำการไกลกว่าอีกด้วย ทั้งนี้เกาหลีเหนือได้ทดสอบขีปนาวุธทิ้งตัวพิสัยไกลระดับข้ามทวีปครั้งแรกของตน ได้แก่ ขีปนาวุธ ฮวาซอง-14 เมื่อเดือนกรกฎาคม 2017
อย่างไรก็ดี พัค วอน-กอน ศาสตราจารย์ด้านเกาหลีเหนือศึกษาของมหาวิทยาลัยสตรีอีหวา ในเกาหลีใต้ ชี้ว่า ขีปนาวุธร่อนถือเป็นภัยคุกคามอันตรายเช่นเดียวกัน เพราะถ้าเปียงยางย่อส่วนหัวรบนิวเคลียร์ได้ก็จะสามารถติดตั้งไปกับขีปนาวุธร่อนได้เหมือนกัน และมีความเป็นไปได้สูงว่า เกาหลีเหนือยังจะทดสอบระบบอาวุธอื่นๆ เพิ่มเติมในอนาคต
กระนั้น พัค บอกด้วยว่า การเลือกทดสอบขีปนาวุธร่อน สะท้อนว่าเกาหลีเหนือพยายามไม่ยั่วยุอเมริกาและจีนมากเกินไป
สำหรับจีนนั้น รัฐมนตรีต่างประเทศ หวัง อี้ มีกำหนดเดินทางเยือนกรุงโซลในสัปดาห์นี้อยู่แล้ว และคาดว่าเขาจะหารือกับฝ่ายเกาหลีใต้ในเรื่องนี้ด้วย
ขณะที่ เจ้า ลี่เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศแดนมังกร กล่าวในการแถลงข่าวตามวาระปกติในวันจันทร์ (13) ย้ำจุดยืนระยะยาวของปักกิ่งที่เรียกร้องให้หาทางออกในเรื่องนี้โดยผ่านการสนทนากัน
“จีนเรียกร้องให้ฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องแสดงความยับยั้งชั่งใจ และพบกันครึ่งทาง ด้วยการจัดการสนทนากันอย่างกระตือรือร้นและเพิ่มการติดต่อกัน ... เพื่อผลักดันเดินหน้ากระบวนการใช้วิธีการทางการเมืองมาแก้ไขประเด็นปัญหาต่างๆ ของคาบสมุทรเกาหลี” โฆษกผู้นี้บอก
ด้าน เจฟฟรีย์ ลูอิส จากสถาบันมิดเดิลบิวรีเพื่อการศึกษาการระหว่างประเทศ ซึ่งตั้งอยู่ในสหรัฐฯ ทวิตว่า ขีปนาวุธที่เปียงยางทดสอบล่าสุดสามารถติดตั้งหัวรบและโจมตีสู่เป้าหมายต่างๆ ได้ทั่วทั้งเกาหลีใต้และญี่ปุ่น อีกทั้งยังออกแบบมาให้บินต่ำๆ เพื่อลอดหรือหลบเลี่ยงเรดาร์ของระบบป้องกันขีปนาวุธ
ในส่วนของกองทัพเกาหลีใต้ ไม่ได้เผยว่าตรวจพบการทดสอบของเกาหลีเหนือหรือไม่ แต่แถลงเมื่อวันจันทร์ (13) ว่า กำลังร่วมกับอเมริกาวิเคราะห์อย่างละเอียด
สำหรับ คัตสึโนบุ คาโตะ โฆษกรัฐบาลญี่ปุ่น แสดงความกังวลและกล่าวว่า ขีปนาวุธพิสัยทำการ 1,500 กิโลเมตรเป็นภัยคุกคามต่อสันติภาพและความมั่นคงของญี่ปุ่นและภูมิภาคโดยรอบ
ด้านกองบัญชาการทหารภาคอินโด-แปซิฟิก ของอเมริกาออกคำแถลงว่า รายงานข่าวนี้ตอกย้ำว่า เกาหลีเหนือยังคงมุ่งเน้นการพัฒนาโครงการอาวุธ และคุกคามเพื่อนบ้านตลอดจนนานาชาติ พร้อมกันนั้นกองบัญชาการนี้ก็ย้ำความมุ่งมั่นในการปฏิบัติภารกิจปกป้องเกาหลีใต้และญี่ปุ่น
การทดสอบคราวนี้ถือเป็นการยิงขีปนาวุธครั้งแรกของโสมแดง หลังการทดสอบขีปนาวุธทิ้งตัวพิสัยใกล้เมื่อเดือนมีนาคม ทั้งนี้ เปียงยางยังได้ทดสอบขีปนาวุธร่อนเช่นกัน ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากโจ ไบเดน เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน ความเคลื่อนไหวคราวล่าสุดนี้ เกิดขึ้นขณะที่การเจรจาเพื่อยุติโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธทิ้งตัวของเกาหลีเหนือ แลกเปลี่ยนกับการผ่อนคลายมาตรการแซงก์ชันของอเมริกา ประสบภาวะชะงักงันมาตั้งแต่ปี 2019
คณะบริหารของไบเดน นั้นประกาศพร้อมดำเนินการทางการทูตเพื่อให้มีการปลดอาวุธนิวเคลียร์เกาหลีเหนือ แต่ไม่ยินดีผ่อนคลายมาตรการแซงก์ชันก่อน ถึงแม้เมื่อเดือนที่แล้ว ซุง คิม ผู้แทนด้านกิจการเกาหลีเหนือของอเมริกา เปิดเผยระหว่างเยือนโซลว่า พร้อมพบกับเจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือทุกที่ทุกเวลา
เหตุการณ์ล่าสุดนี้ยังเกิดขึ้นขณะที่สองเกาหลีแข่งกันสะสมอาวุธ โดยเมื่อไม่กี่สัปดาห์มานี้ เกาหลีใต้กลายเป็นประเทศที่ไม่ได้ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์รายแรก ซึ่งสามารถพัฒนาและทดสอบขีปนาวุธทิ้งตัวที่ยิงจากเรือดำน้ำ
(ที่มา : เอเอฟพี, เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์, รอยเตอร์, เอพี)