สหประชาชาติ (ยูเอ็น) เตือนในวันพฤหัสบดี (9 ก.ย.) ว่าการอายัดเงินทรัพย์สินหลายพันล้านดอลลาร์ของอัฟกานิสถาน เพื่อกันให้พ้นจากเงื้อมมือของตอลิบาน อาจโหมกระพือภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และกลายเป็นการผลักประชาชนชาวอัฟกันหลายล้านคนเข้าสู่ความยากจนและความหิวโหยเพิ่มขึ้นอีก
เดโบราห์ ลิญงส์ ทูตพิเศษของสหประชาชาติกล่าวว่า จำเป็นต้องหาหนทางหนึ่งๆ สำหรับเปิดทางกระแสเงินไหลเข้าสู่ประเทศแห่งนี้อย่างรวดเร็ว "เพื่อป้องกันการพังครืนทางเศรษฐกิจโดยสิ้งเชิงและความสงบเรียบร้อยของสังคม" ภายใต้มาตรการป้องกันต่างๆ เพื่อรับประกันว่ามันจะไม่ถูกตอลิบานนำไปใช้ในทางที่ผิด
"เศรษฐกิจควรได้รับอนุญาตให้หายใจหายคอสักพักหนึ่งเป็นเวลาหลายเดือน เปิดโอกาสให้ตอลิบานพิสูจน์ความยืดหยุ่นและความตั้งใจจริงที่จะทำสิ่งต่างๆ ที่ต่างออกไปในคราวนี้ โดยเฉพาะอย่ายิ่งในด้านสิทธมนุษยชน เพศและทัศนคติต่อต้านก่อการร้าย" ลิญงส์บอกกับ 15 ชาติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ
ในทรัพย์สินกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐของธนาคารกลางอัฟกานิสถาน ส่วนใหญ่แล้วอยู่ในต่างแดน ซึ่งมันถูกมองว่าจะเป็นเครื่องมือสำคัญที่ตะวันตกจะใช้กดดันตอลิบาน ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศอเมริการะบุว่า พวกเขาจะไม่ผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรที่มีต่อตอลิบานหรือผ่อนคลายข้อกำหนดต่างๆ ที่จำกัดอิสลามิสต์กลุ่มนี้จากการเข้าถึงระบบการเงินโลก
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ยังขัดขวางตอลิบานจากการเข้าถึงเงินทุนสำรองฉุกเฉินก้อนใหม่ ราวๆ 440 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
"ตอลิบานแสวงหาความชอบธรรมและแรงสนับสนุนจากนานาชาติ สารของเราง่ายๆ ก็คือ ความชอบธรรมและแรงสนับสนุนใดๆ จะต้องคู่ควรด้วย" เจฟฟรีย์ เดอลอเรนติส ผู้แทนทูตระดับสูงของสหรัฐฯ บอกกับคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ
อย่างไรก็ตาม รัสเซียและจีนโต้แย้งว่าทรัพย์สินต่างๆ ของอัฟกานิสถานที่ถููกอายัดไว้นั้นควรถูกปล่อยออกมา "ทรัพย์สินเหล่านี้เป็นของอัฟกานิสถานและควรถูกใช้เพื่ออัฟกานิสถาน ไม่ควรถูกใช้ประโยชน์สำหรับข่มขู่หรือป้องปรามใดๆ" เก็ง ส่วง รองเอกอัครราชทูตจีนประจำสหประชาชาติระบุ
จากข้อมูลในช่วงต้นปี 2021 พบว่ามีประชาชนชาวอัฟกานิสถานราวๆ ครึ่งหนึ่ง หรือมากกว่า 18 ล้านคน ที่จำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือ และสำนักงานโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติเตือนในวันพฤหัสบดี (9 ก.ย.) ว่าชาวอัฟกานิสถานอาจต้องเผชิญภาวะยากจนโดยทั่วไปในช่วงกลางปีหน้า
เดือนที่แล้ว ตอลิบานจู่โจมหวนคืนสู่อำนาจอีกครั้ง หลังจากถูกกองกำลังต่างชาติที่นำโดยสหรัฐฯ ยกพลรุกรานขับไล่เมื่อ 20 ปีก่อน โทษฐานที่ปฏิเสธส่งมอบอุซามะห์ บินลาดิน แกนนำอัลกออิดะห์ ตามหลังเหตุวินาศกรรมโจมตีสหรัฐฯ 11 กันยายน 2001
กูลาม ไอแซคไซ เอกอัครราชทูตอัฟกานิสถานประจำสหประชาชาติ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากรัฐบาลที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ แต่ถูกตอลิบานโค่นล้ม เรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ระงับการรับรองใดๆ ต่อรัฐบาลอัฟกานิสถาน จนกว่าจะเป็นรัฐบาลที่ครอบคลุมอย่างแท้จริงและจัดตั้งขึ้นบนพื้นฐานเจตจำนงเสรีของประชาชน"
พวกแกนนำตอลิบานประกาศปกป้องสิทธิสตรีตามชารีอะห์ หรือกฎหมายอิสลาม อย่างไรก็ตาม ภายใต้การปกครองของพวกเขาระหว่างปี 1996-2001 สตรีเพศไม่ได้รับอนุญาตให้ทำงานและเด็กผู้หญิงถูกห้ามไปโรงเรียน นอกจากนี้แล้ว พวกผู้หญิงยังจำเป็นต้องปกปิดใบหน้าและมีญาติผู้ชายเดินทางไปด้วยทุกครั้งที่ออกนอกบ้าน
ลิญงส์ เผยว่า สหประชาชาติได้รับรายงานเพิ่มมากขึ้นว่ากำลังมีการใช้ข้อจำกัดต่างๆ เหล่านั้นที่บั่นทอนสิทธิสตรีอีกครั้ง "พวกเขาจำกัดการเข้าถึงการศึกษาของเด็กผู้หญิงในบางภูมิภาค และยุบกระทรวงกิจการสตรีทั่วอัฟกานิสถาน"
มาลาลา ยูซาฟไซ เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ซึ่งถูกมือปืนตอลิบานจ่อยิงที่ศีรษะในปากีสถาน ระหว่างเดินทางออกจากโรงเรียนในปี 2012 เรียกร้องคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ตระหนักว่าการศึกษาของเด็กผู้หญิงคือเครื่องมืออันทรงพลังสำหรับสร้างสันติภาพและความมั่นคง และเรียกร้องให้ปกป้องผู้หญิงและเด็กหญิงอัฟกัน
"ฉันส่งเสียงเรียกร้องให้เด็กหญิงทุกคนมีสิทธิไปโรงเรียน ฉันเห็นมือปืนโบกให้รถโรงเรียนของฉันจอด ขานชื่อของฉัน จากนั้นก็สาดกระสุนใส่ฉัน ตอนฉันอายุ 15 ปี" เธอบอกกับคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติในวันพฤหัสบดี (9 ก.ย.) "นี่คือเรื่องราวที่เด็กหญิงชาวอัฟกันจำนวนมาอาจเจอเหมือนกับฉัน หากว่าเราไม่ดำเนินการใดๆ"
(ที่มา : รอยเตอร์)
