ตอลิบานดึงคนวงในระดับสูงเข้ามาดำรงตำแหน่งต่างๆ ในรัฐบาลใหม่ของอัฟกานิสถานในวันอังคาร (7 ก.ย.) ในนั้นรวมถึงสหายคนหนึ่งของผู้ก่อตั้งขบวนการเคลื่อนไหวนักรบอิสลามิสต์แห่งนี้ที่ถูกดันขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี ส่วนชายผู้เป็นที่ต้องการตัวในบัญชีก่อการร้ายของสหรัฐฯ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
บรรดามหาอำนาจโลกแนะนำกับตอลิบานว่ากุญแจสู่เสรีภาพและการพัฒนาก็คือรัฐบาลที่ครอบคลุม ซึ่งจะเข้ามาทำตามคำสัญญาของทางกลุ่มที่เคยบอกว่าจะใช้แนวทางประนีประนอมกว่าเดิม ยึดมั่นในสิทธิมนุษยชน หลังจากครั้งที่อยู่ในอำนาจคราวก่อนระหว่างปี 1996-2001 พวกเขาแปดเปื้อนไปด้วยความอาฆาตนองเลือดและบังคับกดขี่ผู้หญิง
ไฮบาตุลเลาะห์ อาคุนซาดา ผู้นำสูงสุดของตอลิบาน ระบุในถ้อยแถลงต่อสาธารณะเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่พวกนักรบบุกยึดครองกรุงคาบูลเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ว่า ตอลิบานจะยึดมั่นกฎหมายระหว่างประเทศ สนธิสัญญาและข้อตกลงทุกฉบับที่ไม่ขัดกับกฎหมายอิสลาม
"ในอนาคต ทุกเรื่องของการปกครองและการใช้ชีวิตในอัฟกานิสถาน จะกำหนดโดยกฎหมายศักดิ์สิทธิ์ชารีอะห์" ไฮบาตุลเลาะห์ อาคุนซาดา กล่าวในถ้อยแถลง ซึ่งเขายังใช้โอกาสนี้แสดงความยินดีกับชาวอัฟกานิสถาน ในสิ่งที่เขาเรียกว่าการปลดปล่อยประเทศจากกฎเกณฑ์ของต่างชาติ
การจัดตั้งรัฐบาลใหม่มีขึ้น 3 สัปดาห์หลังจากตอลิบานคว้าชัยชนะในด้านการทหาร ท่ามกลางการถอนตัวของกองกำลังต่างชาติที่นำโดยสหรัฐฯ และการพังครืนของรัฐบาลที่ได้รับการสนับสนุนของตะวันตก ทั้งนี้ ตอลิบานไม่ส่งสัญญาณผูกไมตรีใดๆ กับฝ่ายต่อต้าน
ชาวอัฟกันมีความก้าวหน้าครั้งใหญ่ในด้านการศึกษาและเสรีภาพพลเมืองในช่วงเวลา 20 ปีภายใต้รัฐบาลที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ และการประท้วงยังคงเกิดขึ้นในทุกๆวันนับตั้งแต่ตอลิบานก้าวเข้าสู่อำนาจ ถือเป็นเรื่องท้าทายอย่างยิ่งสำหรับผู้ปกครองใหม่ของอัฟกานิสถาน
ในวันอังคาร (7 ก.ย.) ระหว่างการแถลงจัดตั้งรัฐบาลใหม่ บรรดาสตรีชาวอัฟกันกลุ่มหนึ่งรวมตัวบนท้องถนนในกรุงคาบูล แสดงพลังต่อต้านตอลิบาน แต่พวกเธอต้องรีบวิ่งหาที่กำบัง หลังสมาชิกตอลิบานยิงปืนขึ้นฟ้าสลายการชุมนุมของพวกเธอที่มีผู้เข้าร่วมหลายร้อยคน
ครั้งสุดท้ายที่ตอลิบานปกครองอัฟกานิสถาน เด็กผู้หญิงไม่มีสิทธิไปโรงเรียน สตรีไม่ได้รับอนุญาตให้ไปทำงานและศึกษาเล่าเรียน โดยตำรวจศาสนาจะเฆี่ยนตีใครก็ตามที่ละเมิดกฎ และลงโทษต่อสาธารณะ
ตอลิบานเรียกร้องให้ชาวอัฟกานิสถานอดทนและประกาศจะใจกว้างมากขึ้นในคราวนี้ คำสัญญาที่ชาวอัฟกันและบรรดามหาอำนาจต่างชาติจะคอยตรวจสอบกลั่นกรองอย่างพินิจพิเคราะห์ ในฐานะที่มันเป็นส่วนหนึ่งในเงื่อนไขมอบความช่วยเหลือและการลงทุนที่จำเป็นอย่างมากสำหรับอัฟกานิสถาน
มุลเลาะห์ ฮาซาน อาคุนด์ ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยเขาก็เหมือนกับแกนนำตอลิบานคนอื่นๆ ที่ได้รับความเคารพจากการที่เขามีความเชื่อมโยงใกล้ชิดกับ มุลเลาะห์ โอมาร์ ผู้ก่อตั้งกลุ่มผู้รักความสันโดษที่ล่วงลับไปแล้ว ขณะที่ โอมาร์ เคยขึ้นดำรงตำแหน่งประธานสภาสูงสุดอัฟกานิสถาน ซึ่งถือเป็นประมุขรัฐ ในสมัยตอลิบานปกครองประเทศเมื่อ 2 ทศวรรษก่อน
อาคุนด์ เป็นประธานสภาการตัดสินใจสูงสุดของกลุ่มตอลิบานที่ชื่อว่า Rehbari Shura หรือสภาผู้นำ มาช้านาน เขาเคยนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศและจากนั้นก็เป็นรองนายกรัฐมนตรี ตอนที่ตอลิบานอยู่ในอำนาจครั้งก่อน และก็เหมือนกับว่าที่รัฐมนตรีคนอื่นๆ อีกหลายคน เขาอยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ จากบทบาทของเขาในรัฐบาลนั้น
ซีราจุดดิน ฮักกานี รัฐมนตรีมหาดไทยคนใหม่ เป็นลูกชายของผู้ก่อตั้งเครือข่ายฮักกานี ซึ่งถูกวอชิงตันขึ้นบัญชีก่อการร้าย เขาเป็นหนึ่งในชายซึ่งเป็นที่ต้องการตัวมากที่สุดของเอฟบีไอ สืบเนื่องจากความเกี่ยวข้องกับเหตุโจมตีด้วยระเบิดฆ่าตัวตายหลายครั้งและมีความสัมพันธ์กับอัลกออิดะห์
มุลเลาะห์ อับดุล กานี บาราดาร์ ประธานสำนักงานการเมืองของตอลิบาน ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรองนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ การเดินหน้าแต่งตั้ง บาราดาร์ นั่งเก้าอี้ระดับสูงในรัฐบาลถือว่าสร้างความประหลาดใจแก่ผู้คนบางส่วนไม่น้อย ในขณะที่เขามีหน้าที่รับผิดชอบพูดคุยต่อรองการถอนทหารสหรัฐฯระหว่างการเจรจาในกาตาร์ และเป็นตัวแทนที่เผยโฉมหน้าตอลิบานต่อโลกภายนอก
บาราดาร์ เคยเป็นผู้บัญชาการระดับสูงของตอลิบานในการสู้รบอันยาวนานกับกองกำลังสหรัฐฯ เขาเคยถูกจับและโดนคุมขังอยู่ในปากีสถานปี 2010 ก่อนก้าวเข้าสู่สำนักงานทางการเมืองของตอลิบานในกรุงโดฮาร์ หลังได้รับการปล่อยตัวในปี 2018
มุลลาห์ โมฮัมหมัด ยาคูบ บุตรชายของมุลเลาะห์ โอมาร์ ได้รับการแต่งตั้งในฐานะรัฐมนตรีกลาโหม อย่างไรก็ตาม การแต่งตั้งทั้งหมดที่กล่าวมานี้จะดำรงตำแหน่งในฐานะรักษาการเท่านั้น โฆษกของตอลิบานระบุ
เจน ซากี โฆษกทำเนียบขาวให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวบนเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวัน ระหว่างที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน กำลังบินไปยังนิวยอร์ก จะไม่มีการรับรองรัฐบาลตอลิบานเร็ววันนี้
โฆษกของตอลิบาน ยังได้พูดถึงการพังครืนของระบบบริการสาธารณะและการล่มสลายทางเศรษฐกิจท่ามกลางการถอนตัวอันยุ่งเหยิงของต่างชาติ โดยบอกว่ารัฐบาลรักษาการชุดนี้ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อตอบสนองต่อความต้องการพื้นฐานของชาวอัฟกานิสถาน และระบุจะค่อยๆ มีการเติมเต็มเก้าอี้รัฐมนตรีที่เหลืออยู่ ครั้งที่พบผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมแล้ว
(ที่มา : รอยเตอร์)