ทหารจากกองกำลังพิเศษในวันอาทิตย์ (5 ก.ย.) ขับไล่ประธานาธิบดีกินี ที่ดำรงตำแหน่งมายาวนาน แจ้งกับประชาชนว่าพวกเขายุบรัฐบาลและยกเลิกรัฐธรรมนูญ พร้อมสั่งปิดชายแดนของประเทศทั้งทางบกและอากาศ ความเคลื่อนไหวที่ชัดเจนว่าน่าเป็นการ "รัฐประหาร"
แม้สหประชาชาติประณามการยึดอำนาจและกลุ่มเศรษฐกิจของภูมิภาคแอฟริกาตะวันตกขู่ตอบโต้ แต่ มามาดี โดอุมบัวยา ผู้บัญชาการกองกำลังพิเศษแห่งกองทัพกินี แถลงว่า "ความยากจนและคอร์รัปชัน" คือแรงผลักดันให้กองกำลังของเขาต้องปลดประธานาธิบดีอัลฟา กอนเด ออกจากตำแหน่ง
"เรายุบรัฐบาลและสถาบันต่างๆ" โดอุมบัวยา แถลงผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งรัฐ พร้อมกับคลุมตัวด้วยธงชาติกินีและห้อมล้อมด้วยนายทหารคนอื่นๆ 8 คน "เรากำลังจะเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ด้วยกัน"
เสียงปืนปะทุขึ้นใกล้ทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงโกนากรี เมืองหลวงของประเทศในตอนเช้าวันอาทิตย์ (5 ก.ย.) วิดีโอต่างๆ ที่เผยแพร่บนสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งรอยเตอร์ไม่ยืนยันว่าเป็นของจริงหรือไม่ พบเห็น กอนเก อยู่ในห้องๆ หนึ่ง ถูกล้อมกรอบด้วยทหารจากกองกำลังพิเศษ
แหล่งข่าวกองทัพเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีรายนี้ถูกพาไปยังสถานที่แห่งหนึ่งซึ่งไม่เปิดเผย นอกจากนี้แล้ว ยังมีคนอื่นๆ อีกหลายคนถูกจับเช่นกัน ในนั้นรวมถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลหลายราย อย่างไรก็ตาม เซลโลอู ดาเลียน ดิอัลโล ผู้นำฝ่ายค้านหลักของกินี ปฏิเสธข่าวลือว่าเขาเป็นหนึ่งในผู้ที่ถูกควบคุมตัว
กอนเด คว้าชัยในศึกเลือกตั้งกลับมาเข้าดำรงตำแหน่งสมัย 3 ในเดือนตุลาคมปีก่อน หลังจากแก้ไขรัฐธรรมนูญเปิดทางให้เขาสามารถลงชิงชัยได้อีกสมัย ซึ่งมันจุดชนวการประท้วงรุนแรงทั่วไปประเทศจากฝ่ายต่อต้าน
เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลขึ้นภาษีสูงลิ่วเพื่อเติมเต็มเงินทุนรัฐ และปรับขึ้นราคาน้ำมันอีก 20% ความเคลื่อนไหวที่โหมกระพือความผิดหวังในวงกว้าง
จนถึงช่วงเย็นวันอาทิตย์ (5 ก.ย.) ไม่เป็นที่ชัดเจนว่า โดอุมบัวยา เข้าควบคุมประเทศโดยสมบูรณ์แล้วหรือไม่ แต่กระทรวงกลาโหมออกถ้อยแถลงระบุว่า ความพยายามโจมตีทำเนียบประธานาธิบดีถูกตีโต้กลับ
อย่างไรก็ตาม อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ ออกมาประณามในสิ่งที่เขาเรียกว่า "การยึดอำนาจรัฐบาลของกองทัพ" และเรียกร้องให้ปล่อยตัว กอนเด ในทันที
กลุ่มประชาคมเศรษฐกิจแห่งรัฐแอฟริกาตะวันตก (ECOWAS) ขู่กำหนดมาตรการคว่ำบาตร หลังประธานกลุ่มนานา อาคุฟฟา แอดโด เรียกมันว่าเป็นความพยายามรัฐประหาร
สหภาพแอฟริกาเผยว่า จะเปิดการประชุมเร่งด่วนและใช้มาตรการต่างๆ ที่เหมาะสม ส่วนกระทรวงการต่างประเทศของไนจีเรีย ชาติมหาอำนาจในภูมิภาค เรียกร้องขอให้คืนสู่ความสงบเรียบร้อยภายใต้รัฐธรรมนูญ
ในช่วงบ่าย ครั้งที่เสียงปืนสิ้นสุดลง พวกชาวบ้านเสี่ยงกลับขึ้นสู่ท้องถนนในเมืองหลวง เพื่อเฉลิมฉลองความสำเร็จของการลุกฮือ
รอยเตอร์อ้างผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า รถกระบะและยานยนต์ทหารแล่นมาพร้อมกับรถจักรยานยนต์ มีการบีบแตรฉลอง ท่ามกลางผู้คนที่ตะโกนส่งเสียงเชียร์ "กินี ได้รับการปลดปล่อยด้วย สุดยอดเลย" ผู้หญิงคนหนึ่งตะโกนลงมาจากระเบียง
อเล็กซิส อารีฟฟ์ จากสำนักงานวิจัยแห่งรัฐสภาสหรัฐฯ (Congressional Research Service) ระบุว่า การก่อกบฏและรัฐประหารไม่ใช่เรื่องใหม่ในแอฟริกา ภูมิภาคที่พบเห็นการถอยหลังทางประชาธิปไตยครั้งใหญ่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
ทั้ง กอนเด และผู้นำไอวอรีโคสต์ ต่างเคลื่อนไหวใช้การแก้กฎหมายขยายระยะเวลาการครองตำแหน่งประธานาธิบดีในขวบปีที่ผ่านมา ส่วน มาลี เกิดรัฐประหาร 2 ครั้งในรอบ 9 เดือน และในชาด เกิดการยึดอำนาจ 1 ครั้ง
กินี มีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องในช่วงทศวรรษที่ กอนเด ครองอำนาจ ผลจากความรุ่งเรืองของอุตสาหกรรมบอกไซต์ แร่เหล็ก ทองคำ และเพชร อย่างไรก็ตาม มีประชาชนแค่เล็กน้อยที่ได้รับประโยชน์ และฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์บอกว่ารัฐบาลใช้กฎหมายอาญาอันเข้มงวดกีดกันผู้เห็นต่าง ขณะที่ความแตกแยกทางเชื้อชาติและปัญหาคอร์รัปชัน ก็ยิ่งทำให้เกิดความแตกแยกทางการเมืองหนักหน่วงขึ้น
(ที่มา : รอยเตอร์)
