รัฐบาลเกาหลีใต้เผยขีปนาวุธทิ้งตัว (ballistic missiles) รุ่นใหม่ที่สามารถติดตั้งหัวรบได้หนักสุดถึง 3 ตัน อยู่ระหว่างการพัฒนาในขั้นตอนสุดท้าย พร้อมทั้งแจกแจงร่างงบประมาณที่มุ่งเสริมศักยภาพด้านการป้องกันตนเองจากเกาหลีเหนือ
กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้นำเสนอ “พิมพ์เขียว” ในด้านการป้องกันประเทศสำหรับปี 2022-2026 โดยระบุว่า จะมีการพัฒนาขีปนาวุธรุ่นใหม่ๆ “ที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงขึ้น” รวมถึงอัปเกรดระบบป้องกันขีปนาวุธ และนำขีปนาวุธสกัดกั้นรุ่นใหม่ๆ เข้าประจำการ เพื่อป้องกันการโจมตีจากอาวุธพิสัยไกล
ทางกระทรวงได้ร้องของบประมาณ 315.2 ล้านล้านวอน (8.83 ล้านล้านบาท) สำหรับช่วง 5 ปีข้างหน้า หรือเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 5.8% ต่อปี
“เราจะพัฒนาขีปนาวุธที่มีอานุภาพสูงขึ้น เดินทางได้ไกลขึ้น และโจมตีเป้าหมายได้แม่นยำยิ่งขึ้น เพื่อป้องปรามและธำรงไว้ซึ่งความมั่นคงและสันติภาพบนคาบสมุทรเกาหลี” กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ระบุในถ้อยแถลง
สำนักข่าวยอนฮัปอ้างแหล่งข่าวซึ่งระบุว่า หนึ่งในอาวุธรุ่นใหม่ที่กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้เอ่ยถึงคือ ขีปนาวุธซึ่งมีพิสัยการยิงระหว่าง 350-400 กิโลเมตร และติดตั้งหัวรบได้หนักสุดถึง 3 ตัน โดยมันถูกออกแบบให้สามารถทำลายเป้าหมายที่อยู่ใต้ดิน อย่างเช่นคลังเก็บอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ เป็นต้น
เดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ และประธานาธิบดีมุน แจอิน แห่งเกาหลีใต้ ได้บรรลุข้อตกลงยกเลิกการจำกัดขีดความสามารถด้านขีปนาวุธของเกาหลีใต้ที่ใช้มานานหลายสิบปี เพื่อเปิดโอกาสให้โซลสามารถพัฒนาอาวุธรุ่นใหม่ๆ โดยไม่มีข้อจำกัดด้านพิสัยเดินทาง
ข่าวการพัฒนาขีปนาวุธรุ่นใหม่ของเกาหลีใต้คาดว่าจะทำให้การแข่งขันด้านอาวุธกับโสมแดงยิ่งร้อนระอุขึ้น
เมื่อปี 2020 เกาหลีใต้เปิดตัวขีปนาวุธทิ้งตัวพิสัยใกล้ ‘ฮยุนมู-4’ (Hyunmoo-4) ที่ติดตั้งหัวรบได้หนักสุด 2 ตัน โดยปัจจุบัน ฮยุนมู-4 ยังคงเป็นขีปนาวุธขนาดใหญ่ที่สุดที่เกาหลีใต้มี
ต่อมาใน มี.ค.ปีนี้ เกาหลีเหนือก็ได้ทดสอบขีปนาวุธพิสัยใกล้ที่อ้างว่ารับน้ำหนักหัวรบได้ถึง 2.5 ตัน
ที่มา : รอยเตอร์