ประธานาธิบดีไซริล รามาโฟซา แห่งแอฟริกาใต้ เมื่อวันพุธ(2มิ.ย.) แสดงความยินดีที่องค์การอนามัยโลกอนุมัติใช้ในกรณีฉุกเฉินวัคซีนโควิด-19 ของซิโนแวค แสดงความหวังว่าจะมีวัคซีนเพิ่มเติมสำหรับประชาชนของเขา รวมถึงผู้คนในประเทศยากจนกว่าอื่นๆ
องค์การอนามัยโลกอนุมัติใช้ในกรณีฉุกเฉินวัคซีน 2 โดส "โคโรนาแวค" ของซิโนแวค บริษัทสัญชาติจีน เมื่อวันอังคาร(1มิ.ย.) เปิดประตูให้วัคซีนตัวดังกล่าวเข้าร่วมในโครงการแบ่งปันวัคซีนทั่วโลกหรือโคแว็กซ์(Covax) ซึ่งมีเป้าหมายมอบการเข้าถึงวัคซีนอย่างเท่าเทียมทั่วโลก โดยเฉพาะในบรรดาชาติยากจน
"เรายินดีกับข่าวองค์การอนามัยโลกอนุมัติวัคซีนโควิด-19 ของบริษัทซิโนแวคจากจีน สำหรับใช้ในกรณีฉุกเฉิน" รามาโฟซาบอกกับรัฐสภาในเมืองเคปทาวน์ พร้อมระบุว่ามันเป็นก้าวย่างสำคัญ ที่จะกระตุ้นให้ทางคณะผู้ควบคุมกฎระเบียบแอฟริกาใต้มองถึงความเป็นไปได้ในการจัดซื้อวัคซีนซิโนแวค
องค์การอนามัยโลกระบุว่าเซรุ่มซิโนแวค "จัดเก็บง่าย" และเพราะฉะนั้นมันจึงง่ายต่อการบริหารจัดการ และมีความเหมาะสมอย่างยิ่งกับประเทศทั้งหลายที่มีทรัพยากรอย่างจำกัด
แอฟริกาใต้พบผู้ติดเชื้อแล้วกว่า 1.6 ล้านคน ในนั้นเสียชีวิต 56,601 ราย และจนถึงตอนนี้มีประชากรราว 1,045,104 คนในแอฟริกาใต้ ที่ได้รับวัคซีนไปแล้วอย่างน้อย 1 โดส ส่วนใหญ่เป็นคนชราและเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ภายใต้โครงการที่ใช้วัคซีนของไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค และจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน
รามาโฟซา บอกว่ารัฐบาลของเขา ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางต่อความล่าช้าในโครงการฉีดวัคซีนประชาชน กำลังประสานงานเจรจากับบรรดาผู้ผลิตต่างๆนานา เพื่อรับประกันว่าจะได้รับวัคซีนที่น่าเชื่อถือและหลากหลาย
อย่างไรก็ตามเขาย้ำถึงข้อเรียกร้อง ในความจำเป็นที่ต้องละเว้นสิทธิทรัพย์สินทางปัญญาวัคซีนไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ด้วยเขาเชื่อว่ามันจะช่วยเร่งการแจกจ่ายวัคซีนและส่งเสริมตลาดยาท้องถิ่น
"มันจะเปิดทางสำหรับความก้าวหน้าและการเติบโตของอุตสาหกรรมยาท้องถิ่นในประเทศของเราเอง ในระดับทวีป เช่นเดียวกับในประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ" เขากล่าว
ทั้งนี้แอฟริกาใต้และอินเดีย เป็นแกนนำการรณรงค์ระดับนานาชาติเรียกร้องให้ละเว้นสิทธิทรัพย์สินทางปัญญาวัคซีนโควิด-19 ชั่วคราว ภายใต้การสนับสนุนจากกลุ่มประเทศ BRICS อื่นๆ ทั้งบราซิล รัสเซียและจีน ณ ที่ประชุมกลุ่มประเทศที่มีการพัฒนาทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว ในนิวเดลี ในสัปดาห์นี้
(ที่มา:เอเอฟพี)