สหรัฐฯ เมื่อวันอังคาร (18 พ.ค.) วิพากษ์วิจารณ์ประธานาธิบดี เรเจป ตัยยิบ แอร์โดอัน อย่างรุนแรง ต่อสิ่งที่พวกเขาระบุว่าผู้นำตุรกีใช้คำพูดเหยียดคนยิวระหว่างแถลงประณามปฏิบัติการของอิสราเอลในการโจมตีถล่มฉนวนกาซา
เนด ไพรซ์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุในถ้อยแถลงว่า "สหรัฐฯ ขอประณามอย่างรุนแรงต่อความเห็นต่อต้านคนยิวของประธานาธิบดีแอร์โดอันเมื่อเร็วๆ นี้ในเรื่องเกี่ยวกับคนยิวและมันเป็นสิ่งที่ควรถูกตำหนิ"
"เราเรียกร้องประธานาธิบดีแอร์โดอันและพวกผู้นำตุรกีคนอื่นๆ ระงับแสดงความคิดเห็นก่อกวน ซึ่งอาจปลุกปั่นสถานการณ์ความรุนแรงเพิ่มเติม" เขากล่าว
แอร์โดอัน ซึ่งเป็นรากเหง้าทางการเมืองอิสลามนิยม สนับสนุนเหตุผลของปาเลสไตน์มาตลอด 18 ปีที่อยู่ในอำนาจ แม้อีกด้านหนึ่งตุรกียังคงเป็นหนึ่งในชาติซึ่งมีประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมไม่กี่ประเทศที่ยังคงความสัมพันธ์กับอิสราเอล
เขากล่าวหาอิสราเอล "ก่อการร้ายกับปาเลสไตน์" และเมื่อเร็วๆ นี้เคยพูดจาถากถางว่า "มันอยู่ในสันดานของพวกเขา"
"พวกเขาคือฆาตกร พวกเขาฆ่าเด็กๆ อายุแค่ 5 หรือ 6 ขวบ พวกเขาจะเปรมปรีดิ์ก็ต่อเมื่อมีเลือดเปื้อนมือ" แอร์โดอันกล่าว
นอกจากนี้แล้ว แอร์โดอันยังวิพากษ์วิจารณ์ดุเดือดประธานาธิบดี โจ ไบเดน ต่อกรณีที่ผู้นำสหรัฐฯ ให้การสนับสนุนทางการทูตกับอิสราเอล โดยบอกว่าผู้นำอเมริกา "มือเปื้อนเลือด"
เสียงประณามล่าสุดนี้น่าจะกัดกร่อนความสัมพันธ์อันตึงเครียดระหว่างตุรกีกับสหรัฐฯ ให้เลวร้ายลงไปอีก
ไบเดนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ พร้อมคำประกาศใช้ท่าทีแข็งกร้าวกับแอร์โดอัน บุคคลที่เขาให้คำจำกัดความว่าเป็น "เผด็จการ" และเมื่อเดือนที่แล้วได้เดินหน้าก้าวย่างอันสำคัญ ด้วยการรับรองเหตุสังหารหมู่ชาวอาร์เมเนียโดยจักรวรรดิออตโตมัน ช่วงปี 1915-1917 ว่าเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
กระนั้น ท่ามกลางความตึงเครียด ไบเดนและแอร์โดอันตกลงที่จะพบปะหารือกันเป็นครั้งแรก รอบนอกการประชุมซัมมิตนาโต้ในบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ในเดือนหน้า
(ที่มา : เอเอฟพี)