สหรัฐฯ ในวันพุธ (12 พ.ค.) ส่งทูตระดับสูงรายหนึ่งไปเรียกร้องขอความสงบจากอิสราเอลและปาเลสไตน์ หลังสองฝ่ายเปิดศึกปะทะกันครั้งรุนแรงที่สุดในรอบหลายปี แต่ขณะเดียวกันก็แสดงท่าทียืนหยัดเคียงข้างรัฐยิว ประณามการยิงจรวดของพวกฮามาส
ในความเห็นที่สร้างความยินดีแก่เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล นายแอนโธนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวปกป้องสิทธิในการป้องกันตนเองของอิสราเอลและประณามการยิงจรวดของพวกฮามาส กลุ่มอิสลามิสต์ที่ควบคุมฉนวนกาซา นอกจากนี้แล้วเขายังบอกด้วยว่าอิสราเอลมีภาระหน้าที่โดยเฉพาะในการป้องกันพลเรือนจากการได้รับบาดเจ็บล้มตาย
อิสราเอลระบุว่า ได้สั่งหารสมาชิกฝ่ายติดอาวุธของพวกฮามาสไป 16 ศพ ในเหตุปูพรมถล่มเมื่อวันพุธ (12 พ.ค.) ขณะที่ทางกระทรวงสาธารณสุขของกาซาเผยว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 56 คนในฉนวนแห่งนี้ นับตั้งแต่ความรุนแรงขยายวงขึ้นในวันจันทร์ (10 พ.ค.) ส่วนฝั่งอิสราเอลมีผู้เสียชีวิต 6 ราย ตามการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่แพทย์
ความรุนแรงระลอกล่าสุด เกิดขึ้นหลังจากเกิดสถานการณ์ตึงเครียดในนครเยรูซาเลมนานหลายสัปดาห์ ระหว่างเดือนรอมฎอนซึ่งเป็นช่วงถือศีลอดของชาวมุสลิม โดยมีการปะทะระหว่างตำรวจอิสราเอลกับผู้ประท้วงทั้งภายในและรอบๆ มัสยิดอัล-อักซอในเขตเมืองเก่าทางตะวันออกของนครเยรูซาเลม และเกิดขึ้นไม่กี่วันก่อนที่จะมีการไต่สวนในคดีที่อาจจบลงด้วยการที่ครอบครัวชาวปาเลสไตน์ต้องอพยพออกจากเยรูซาเลมตะวันออกที่ผู้ตั้งถิ่นฐานชาวยิวอ้างสิทธิ์ครอบครอง
เหตุการณ์นี้ถือเป็นการปะทะครั้งรุนแรงที่สุดระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์นับจากสงครามในดินแดนในปกครองของฮามาสเมื่อปี 2014 และสร้างความกังวลให้นานาชาติว่า สถานการณ์อาจบานปลายจนเกินควบคุม
บลินเคน ซึ่งพูดคุยทางโทรศัพท์กับเนทันยาฮู เผยว่า เขาได้ส่ง Hady Amr รองผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไปพบปะพูดคุยกับทั้งสองฝ่าย “เขาจะเรียกร้อง ในนามของผมและในนามของประธานาธิบดีไบเดน ขอให้ลดความรุนแรง”
จนถึงขณะนี้ ไบเดน ยังไม่ได้แต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำอิสราเอล ผิดกับอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เสนอชื่อบุคคลมาทำหน้าที่ดังกล่าว ตั้งแต่ก่อนที่เขาสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดี ขณะที่เหล่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงการต่างประเทศรายอื่นๆ ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบดูแลภูมิภาคดังกล่าวก็ยังคงรอการรับรองจากวุฒิสภาอยู่
การหันเหความสนใจไปจากภูมิภาคแห่งนี้ บ่งชี้ว่าความขัดแย้งที่ยืดเยื้อมานานระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ไม่ได้มีความสำคัญลำดับต้นๆ อีกต่อไป อย่างไรก็ตาม ทาง บลินเคน เน้นย้ำจุดยืนของรัฐบาลสหรัฐฯ เกี่ยวกับการมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่
“เราพัวพันอย่างลึกซึ้งทั่วทุกภาคส่วน ทั้งกระทรวงการต่างประเทศ ทำเนียบขาว เจ้าหน้าที่ระดับสูง กับ อิสราเอล ปาเลสไตสน์ และประเทศอื่นๆ และพันธมิตรในภูมิภาค ทั้งเรียกร้องและผลักดันลดสถานการณ์ความรุนแรง” บลินเคนกล่าว
เมื่อถูกถามว่า ไบเดน จะพูดอะไรกับ เนทันยาฮู เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ รายหนึ่ง ตอบกลับว่าวอชิงตันคาดหมายว่าจะมีส่วนร่วมในระดับสูงมากยิ่งขึ้น
ในความเห็นของบลินเคน เขาพูดถึงความแตกต่างระหว่าง “องค์กรก่อการร้าย ฮามาส ที่ยิงจรวดถล่มเป้าหมายพลเรือนไม่เลือกหน้า กับการตอบโต้ของอิสราเล ซึ่งเป็นการปกป้องตนเอง” อย่างไรก็ตาม เขากล่าวต่อว่า “ผมคิดว่าอิสราเอลมีภาระหน้าที่พิเศษในการพยายามทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้เพื่อหลีกเลี่ยงความสูญเสียทางพลเรือน แม้ว่าพวกเขามีความชอบธรรมในการตอบโต้เพื่อปกป้องประชาชน”
ทำเนียบนายกรัฐมนตรีของเนทันยาฮู กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “ท่านนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮู ขอบคุณบลิงเคน ต่อกรณีที่สหรัฐฯ ให้การสนับสนุนสิทธิในการป้องกันตนเองของอิสราเอล สิทธิที่ทางท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเน้นย้ำระหว่างพูดคุยทางโทรศัพท์”
(ที่มา : รอยเตอร์)