มาเลเซียในวันจันทร์ (10 พ.ค.) กำหนดมาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศรอบใหม่ ในขณะที่พวกเขากำลังเผชิญกับเคสผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่เพิ่มขึ้น และตัวกลายพันธุ์ที่แพร่เชื้อได้ง่าย สถานการณ์ที่ทางรัฐบาลบอกว่ากำลังเป็นบททดสอบระบบสาธารณสุขของประเทศ
มาตรการใหม่นี้ถูกประกาศออกมาไม่กี่วันก่อนถึงเทศกาลอีดิล-อัฎฮาในสัปดาห์นี้ ซึ่งนั่นหมายความว่าชาวมาเลเซียหลายล้านคนจะต้องละทิ้งธรรมเนียมกลับสู่บ้านเกิดเมืองหลวงในช่วงสิ้นสุดเดือนรอมฎอนของชาวมุสลิม เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน
นายกรัฐมนตรี มูห์ยิดดิน ยัสซิน แห่งมาเลเซีย บอกว่า การเดินทางระหว่างรัฐและระหว่างเขตจะถูกห้าม เช่นเดียวกับการรวมตัวทางสังคม สถาบันการศึกษาจะหยุดการเรียนการสอน แต่ภาคเศรษฐกิจต่างๆ จะได้รับอนุญาตให้เดินหน้าต่อไป อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม
“มาเลเซียกำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดระลอก 3 ของโควิด-19 ที่อาจกระพือวิกฤตรระดับชาติ” มูห์ยิดดินกล่าวในถ้อยแถลง พร้อมระบุว่ามาตรการล็อกดาวน์จะมีอายุไปจนถึงวันที่ 7 มิถุนายน
ผู้นำรายนี้บอกว่ามาตรการล็อกดาวน์เป็นสิ่งจำเป็น สืบเนื่องจากการปรากฏตัวของตัวกลายพันธุ์ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ประกอบกับอัตราการติดเชื้อระดับสูงและระบบสาธารณสุขใกล้ถึงขีดจำกัด
มาเลเซียเผชิญกับการแพร่ระบาดไม่รุนแรงมากนักหากเทียบกับประเทศอื่นๆ แต่จำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในระยะหลัง และการหลุดเข้ามาของตัวกลายพันธุ์ต่างๆ อย่างเช่นจากแอฟริกาใต้และอินเดีย ได้ก่อความกังวลอย่างมากแก่เจ้าหน้าที่สาธารณสุข เนื่องจากจำนวนเตียงว่างและเครื่องช่วยหายใจเริ่มร่อยหรอแล้ว
ทั้งนี้ มาเลเซียพบเห็นจำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา และประเทศแห่งนี้รายงานพบผู้ติดเชื้อใหม่รายวัน 3,807 คนในวันจันทร์ (10 พ.ค.) ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 444,484 คน ในนั้นเสียชีวิต 1,700 ราย
ปัจจุบันมาเลเซียอยู่ภายใต้ประกาศภาวะฉุกเฉิน ซึ่งมูห์ยิดดินบังคับใช้มาตั้งแต่เดือนมกราคมเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
นอกเหนือจากความวุ่นวายด้านการเดินทางและชีวิตสังคมแล้ว มาตรการล็อกดาวน์อีกรอบกลายเป็นภัยคุกคามต่อวิถีชีวิตของผู้คนจำนวนมากในมาเลเซีย เนื่องจากปกติแล้วเทศกาลรอมฎอนจะเป็นตัวเสริมสภาพคล่องทางธุรกิจแก่ร้านอาหารต่างๆ และพ่อค้าแม่ค้าทั้งหลายในตลาดสดที่เตรียมอาหารสำหรับชาวมุสลิมหลายล้านคนที่จะรับประทานหลังจากพระอาทิตย์ตกดิน
ทั้งนี้ จากประชากรทั้งหมด 32 ล้านคนของมาเลเซีย มีถึงราวๆ 60% ที่เป็นชาวมาเลเซีย
“ผมทำงานอยู่ในอุตสาหกรรมอาหาร เดี๋ยวก็เปิด เดี๋ยวก็ปิด” โมห์ด เรซูอาน พนักงานร้านอาหารให้สัมภาษณ์จากร้านอาหารในย่านหนึ่งแถบชานกรุงกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งปกติแล้วเป็นย่านที่ผู้คนพลุกพล่าน แต่เวลานี้ค่อนข้างเงียบเชียบผิดปกติ
(ที่มา : รอยเตอร์ส/เอเอฟพี)