สหรัฐฯ เมื่อวันศุกร์ (9 เม.ย.) เรียกร้องคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ดำเนินการอย่างรวดเร็วในพม่า ในความพยายามกดดันให้ผ่านมติหนึ่งเพื่อกดดันคณะรัฐประหารคืนสู่ประชาธิปไตย ความเคลื่อนไหวที่มีขึ้นในวันเดียวกับที่กองทัพยังเดินหน้าปราบปรามผู้ชุมนุม ท่ามกลางรายงานข่าวว่ามีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีกกว่า 80 ราย
“ทหารจำเป็นต้องรู้สึกถึงความเสียหายอันเกี่ยวเนื่องกับพฤติกรรมอันน่าขยะแขยงของพวกเขา เสถียรภาพและความรุ่นเรืองของภูมิภาคขึ้นอยู่กับการลงมือที่รวดเร็ว” ลินดา โธมัส-กรีนฟิลด์ ผู้แทนทูตสหรัฐฯ บอกกับที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ “ทหารเพิกเฉยต่อเสียงประณามของเรา ก่อบททดสอบแก่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาติ”
“คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติจะออกถ้อยแถลงในภาษาที่คลุมเครืออีกรอบ หรือเราจะดำเนินการเพื่อปกป้องชีวิตประชาชนชาวพม่า” เธอกล่าว
รัสเซียและจีนต่างมีอำนาจวีโต้ และที่ผ่านมาคัดค้านมาตรการคว่ำบาตรนานาชาติมาตลอด แม้ว่าปักกิ่ง ซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญของกองทัพพม่า เริ่มส่งเสียงแสดงความกังวลยิ่งขึ้นเกี่ยวกับเสถียรภาพในประเทศเพื่อนบ้านแห่งนี้
กองทัพก่อรัฐประหารยึดอำนาจอองซานซูจี ผู้นำที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ และนับตั้งแต่นั้นได้ปราบปรามรุนแรงพวกผู้ประท้วงฝ่ายประชาธิปไตย ซึ่งสหประชาชาติบอกว่ามีประชาชนเสียชีวิตแล้วมากกว่า 600 ราย
ในเหตุความรุนแรงล่าสุด สมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมืองพม่าและสำนักข่าวท้องถิ่น รายงานว่ากองกำลังด้านความมั่นคงยิงเครื่องยิงลูกระเบิดใส่ผู้ชุมนุมในเมืองแห่งหนึ่ง ใกล้ย่างกุ้งในวันศุกร์ (9 เม.ย.) คร่าชีวิตผู้ประท้วงอีกกว่า 80 ราย
พวกผู้เห็นเหตุการณ์และสื่อมวลชนท้องถิ่น อ้างว่ารายละเอียดของยอดเสียชีวิตในเมืองพะโค ห่างจากย่างกุ้งไปทางตะวันออกเฉียงเหนือราว 90 กิโลเมตร เบื้องต้นไม่สามารถหาได้ สืบเนื่องจากกองกำลังด้านความมั่นคงนำศพไปกองไว้ที่เขตวัดซยาร์มุนี และปิดกั้นพื้นที่
อยางไรก็ตาม ทางสมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมืองพม่าและเมียนมาร์นาว ระบุในวันเสาร์ (10 เม.ย.) ว่ามีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 82 ราย ระหว่างการประท้วงต่อต้านรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ โดยเหตุยิงเริ่มขึ้นก่อนรุ่งสางของวันศุกร์ (9 เม.ย.) และลากยาวจนถึงช่วงบ่าย
“มันราวกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” เมียนมาร์นาวรรายงานโดยอ้างคำพูดของแกนนำการชุมนุมรายหนึ่ง “พวกเขายิงใส่กระจกทุกบาน” ขณะที่บัญชีต่างๆ บนสื่อสังคมออนไลน์เขียนเล่าว่าชาวบ้านจำนวนมากต่างพากันหลบหนีออกจากเมือง
ก่อนหน้านี้สมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมืองพม่า ระบุว่ามีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 618 คนนับตั้งแต่รัฐประหาร แต่ไม่ชัดเจนว่ามันรวมกับจำนวนผู้เสียชีวิตในวันศุกร์ (9 เม.ย.) หรือไม่
ตัวเลขดังกล่าวถูกโต้แย้งโดยกองทัพ โดยโฆษกรัฐประหารกล่าวระหว่างแถลงข่าวในวันศุกร์ (9 เม.ย.) ว่ามีผู้พลเรือนเสียชีวิต 248 ราย และตำรวจเสียชีวิต 16 นาย พร้อมยืนยันว่ากองกำลังด้านความมั่นคงไม่ได้ใช้อาวุธอัตโนมัติปราบปรามผู้ชุมนุมแต่อย่างใด
รัฐบาลทหารพม่ากล่าวว่า การชุมนุมประท้วงต่อต้านการปกครองของรัฐบาลทหารกำลังลดน้อยลงเรื่อยๆ เนื่องจากประชาชนต้องการความสงบสุข และว่ารัฐบาลจะจัดการเลือกตั้งภายใน 2 ปี นับเป็นกรอบเวลาครั้งแรกที่รัฐบาลทหารกำหนดขึ้นเพื่อกลับคืนสู่ประชาธิปไตยนับตั้งแต่รัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์
(ที่มา : รอยเตอร์)