บรรดารัฐมนตรีกลาโหมจากชาติๆ มากกว่า 10 ประเทศ ในวันอาทิตย์ (28 มี.ค.) ออกถ้อยแถลงร่วมประณามเหตุนองเลือดในพม่าหนึ่งวันก่อนหน้านี้ ที่มีผู้เสียชีวิตนับร้อยราย ในนั้นเป็นเด็กหลายคน หลังกองกำลังด้านความมั่นคงเปิดฉากยิงใส่ผู้ประท้วง
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 90 ราย ในปฏิบัติการปราบปรามการชุมนุม ซึ่งเกิดขึ้นในวันกองทัพ ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตตั้งแต่รัฐประหารวันที่ 1 กุมภาพันธ์ เพิ่มเป็นอย่างน้อย 423 ราย อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวยังไม่เป็นที่แน่ชัด ด้วยอีกด้านหนึ่งทางสำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า มีผู้ถูกสังหารมากถึง 119 ศพ ยอดรวมพลเรือนที่เสียชีวิตในหตุความรุนแรงจากการนับของรอยเตอร์ส พุ่งขึ้นเหนือ 440 ราย
พม่าตกอยู่ท่ามกลางสถานการณ์ความยุ่งเหยิงนับตั้งแต่บรรดานายพลก่อรัฐประหารยึดอำนาจและควบคุมตัวนางอองซาน ซูจี ผู้นำพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้ง จุดชนวนการประท้วงใหญ่ทั่วประเทศ เรียกร้องให้คืนสู่ประชาธิปไตย
รัฐมนตรีกลาโหมของ 12 ประเทศ ในนั้นรวมถึงสหรัฐฯ สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น และ ออสเตรเลีย ในวันอาทิตย์ (28 มี.ค.) ประณามการใช้กำลังถึงตายกับพลเรือนของกองทัพพม่า
“ทหารมืออาชีพต้องปฏิบัติตามมาตรฐานสากลและมีหน้าที่รับผิดชอบปกป้อง ไม่ใช่ก่อภัยอันตรายแก่ประชาชนที่พวกเขารับใช้เสียเอง” รัฐมนตรีกลาโหม 12 ชาติ ระบุในถ้อยแถลงร่วมที่ไม่พบเห็นบ่อยครั้งนัก “เราเรียกร้องให้กองทัพพม่าหยุดใช้ความรุนแรง และหันมาทำงานกอบกู้ความน่าเชื่อถือและความเคารพ ร่วมกับประชาชนชาวพม่า ซึ่งพวกเขาสูญเสียมันไปผ่านพฤติกรรมต่างๆ นานาของพวกเขา”
คาดหมายว่า ประชาชนผู้โศกเศร้าจะไหลบ่าออกมาร่วมขบวนแห่ศพทั่วประเทศในวันอาทิตย์ (28 มี.ค.) หนึ่งวันหลังเหตุนองเลือดที่สุดนับตั้งแต่รัฐประหาร
เมื่อวันเสาร์ (27 มี.ค.) ในกรุงเนปิดอว์ ได้มีพิธีสวนสนามใหญ่ของกองทหารและยานยนต์ต่างๆ ของกองทัพ และ พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย หัวหน้าคณะรัฐประหาร กล่าวระหว่างการปราศรัยว่า พฤติกรรมก่อการร้ายเป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้
ความรุนแรงปะทุขึ้นทั่วประเทศ ทหารใช้กระสุนจริงยิงเข้าใส่การประท้วงตามเมืองต่างๆ มากกว่า 40 แห่ง ใน 9 เขต ในนั้นรวมถึงที่เมืองย่างกุ้ง เมืองใหญ่ที่สุดของพม่า อย่างไรก็ตาม พออาทิตย์ตกดิน วันอาทิตย์ (28 มี.ค.) กลายเป็นวันนองเลือดที่สุดนับตั้งแต่กองทัพเข้ายึดอำนาจ
สมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมืองพม่า (AAPP) ระบุว่า “กองกำลังของคณะรัฐประหารใช้ปืนกลกราดยิงเข้าไปยังพื้่นที่ชุมชน ผลก็คือ พลเรือนจำนวนมาก ในนั้นรวมถึงเด็ก 6 คน อายุระหว่าง 10-16 ปี เสียชีวิต ข้อเท็จจริงที่ว่าคณะปกครองทหารผิดกฎหมายเล็งเป้ายิงใส่เด็กๆ เป็นการกระทำไร้มนุษยธรรมที่เลวร้ายอย่างมาก”
(ที่มา: เอเอฟพี/รอยเตอร์)
