เอกอัครราชทูตพม่าประจำลอนดอนเปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่าถูกห้ามเข้าสถานทูตในวันพุธ (7 เม.ย.) ขณะที่แหล่งข่าวเผยว่าผู้ช่วยของเขาคนหนึ่งเป็นคนสั่งล็อกประตูห้ามเอกอัครราชทูตรายนี้เข้าไปในอาคาร และทำหน้าที่แทนในนามของกองทัพ
กองทัพพม่าก่อรัฐประหารยึดอำนาจในเดือนกุมภาพันธ์ และนับตั้งแต่นั้นได้ปราบปรามนองเลือดบรรดาผู้ประท้วงฝักใฝ่ประชาธิปไตย จนมีผู้เสียชีวิตแล้วหลายร้อยคน
ไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา จอ ซา มิน เอกอัครราชทูตพม่าประจำลอนดอน แตกแถวไม่สนับสนุนคณะรัฐประหาร พร้อมเรียกร้องปล่อยตัวนางอองซานซูจี ผู้นำพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย
แต่ล่าสุดเขาเปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ บริเวณด้านนอกสถานทูตในกลางกรุงลอนดอนว่า “ผมถูกปิดประตูไม่ให้เข้าไปภายใน มันเป็นรูปแบบหนึ่งของการรัฐประหารใจกลางกรุงลอนดอน คุณจะเห็นได้ว่าพวกเขายึดอาคารของผม” จอ ซา มินกล่าว พร้อมบอกว่าเขากำลังพูดคุยกับกระทรวงการต่างประเทศของสหราชอาณาจักรเกี่ยวกับสถานการณ์ดังกล่าว
แหล่งข่าวทางการทูต 4 รายที่รับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น เปิดเผยว่า ชิต วิน รองเอกอัครราชทูต เข้าทำหน้าที่แทนในฐานะอุปทูต พร้อมระบุเขาและผู้ช่วยทูตฝ่ายทหาร เป็นคนกันไม่ให้เอกอัครราชทูตเข้ามาในอาคาร
จอ ซา มิน ให้สัมภาษณ์บริเวณด้านนอกของสถานทูตซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนคุ้มกันรักษาความปลอดภัย นอกจากนี้แล้วเขายังพูดคุยกับพวกผู้ประท้วงบนถนนรอบนอกสถานทูตด้วย
“เราทราบว่ามีการประท้วงบริเวณด้านนอกสถานทูตพม่า ในเมย์แฟร์ กรุงลอนดอน เจ้าหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยถูกส่งเข้าไปดูแล ไม่มีการจับกุมใดๆ” ตำรวจระบุในถ้อยแถลง
เมื่อเดือนที่แล้ว เอกอัครราชทูต จอ ซา มิน เรียกร้องปล่อยตัว ซูจี และ วิน มินต์ ประธานาธิบดีผู้ถูกโค่นอำนาจ เรียกเสียงชื่นชมต่อความกล้าหาญของเขา จากโดมินิค ราบ รัฐมนตรีต่างประเทศของสหราชอาณาจักร “นี่คืออาคารของผม ผมต้องการเข้าไปข้างใน นั่นคือเหตุผลว่าทำไมผมถึงมายืนรอที่นี่” จอ ซา มิน บอกกับรอยเตอร์
เจ้าหน้าที่สหราชอาณาจักรอยู่ระหว่างพูดคุยกับตัวแทนจากสองฝ่ายและตำรวจ โดยมีเป้าหมายคลี่คลายเหตุเผชิญหน้า ณ สถานทูต โดยเร็วที่สุดและด้วยความสงบ “เรากำลังรอข้อมูลเพิ่มเติมตามหลังเหตุการณ์ที่สถานทูตพม่าในลอนดอน” โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหราชอาณาจักรระบุในถ้อยแถลง
ก่อนหน้านี้สหราชอาณาจักรคว่ำบาตรสมาชิกคณะรัฐประหารบางส่วนและผลประโยชน์ทางธุรกิจบางอย่างของกองทัพ ตอบโต้การรัฐประหารและเรียกร้องให้ฟื้นฟูประชาธิปไตย
(ที่มา : รอยเตอร์)