ตำรวจทหารพม่าเปิดฉากยิงใส่ผู้ประท้วงในรัฐกะเหรี่ยงและรัฐฉาน ขณะที่ประชาชนในเมืองอื่นๆ ทั่วประเทศพากันลงถนนเรียกร้องให้คืนประชาธิปไตยกันตั้งแต่เช้าตรู่วันพฤหัสบดี (25 มี.ค.) นอกจากนี้ยังมีข่าวว่า อเมริกาเตรียมกดดันคณะปกครองทหารหม่องรอบใหม่ด้วยการขึ้นบัญชีดำกิจการยักษ์ใหญ่ 2 แห่งของกองทัพ
แม้เผชิญการปราบปรามอย่างเหี้ยมโหด แต่ชาวพม่ายังคงออกไปประท้วงขับไล่คณะปกครองทหาร รวมทั้งท้าทายคำสั่งเคอร์ฟิวโดยออกไปจุดเทียนรำลึกผู้ประท้วงที่เสียชีวิต และชุมนุมกันตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกกองกำลังความมั่นคงยกกำลังเข้าโจมตี
สำนักข่าวเมียนมาร์ นาว รายงานว่ามีผู้ชุมนุมถูกยิงเสียชีวิตอย่างน้อย 4 คนในเมืองตองยี รัฐฉาน ทางภาคกลางของประเทศ นอกจากนี้ กองกำลังความมั่นคงยังเปิดฉากยิงผู้ชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐประหารในรัฐกะเหรี่ยง ทางภาคตะวันออกของประเทศด้วย
ทั้งนี้ที่เมืองผาอัน รัฐกะเหรี่ยง ผู้ประท้วงออกไปเตรียมถุงทรายกันตั้งแต่ 6.00 น. แต่ไม่นานทหารและตำรวจพม่าก็บุกเข้าไปและใช้ระเบิดแสงเพื่อเคลียร์ฝูงชนออกจากถนน หลังจากนั้นมีการยิงกระสุนยางและกระสุนจริงราว 50 นัด ทำให้นักศึกษาคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บ
กระนั้น ประชาชนในเมืองดังกล่าวยังปักหลักชุมนุมต่อตลอดทั้งวัน บางคนขับรถไปทั่วเมืองพร้อมชูสัญลักษณ์ 3 นิ้วต่อต้านรัฐบาลทหาร
ส่วนที่ย่างกุ้ง ผู้ประท้วงไปรวมตัวกันแต่เช้าตรู่เช่นเดียวกัน โดยมีการเดินขบวนพร้อมชูลูกโป่งสีแดงมีข้อความขับไล่เผด็จการ สำหรับที่มัณฑะเลย์ บุคลากรทางการแพทย์จำนวนมากเดินขบวนไปตามถนน
ก่อนหน้านี้เมื่อวันพุธ (24) ผู้ประท้วงได้นัด “สไตรก์เงียบ” ด้วยการให้ประชาชน ทุกภาคส่วนในประเทศหยุดอยู่กับบ้าน ไม่มีการออกไปเดินขบวนประท้วงตามท้องถนน คนไม่ออกไปทำงาน บริษัทห้างร้านทุกแห่งปิด รถราทั้งหลายไม่ออกมาวิ่ง ส่งผลให้ถนนในย่างกุ้งและเมืองใหญ่อื่นๆ อยู่ในสภาพเหมือนเป็นเมืองร้าง
ในคืนวันพุธ ผู้ประท้วงกลุ่มหนึ่งไปรวมตัวกันที่หมู่บ้านทางใต้ของมัณฑะเลย์โดยมีการจุดเทียนเพื่อแสดงการสนับสนุนกลุ่มสมาชิกรัฐสภาที่ถูกปลดออกและขณะนี้ลักลอบเคลื่อนไหวใต้ดิน โดยใช้ชื่อว่า คณะกรรมาธิการตัวแทนรัฐสภาพม่า (CRPH) ทำให้รัฐบาลทหารขู่ว่า ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบุคคลเหล่านี้จะถือเป็น “กบฏต่อแผ่นดิน”
สำนักข่าวเมียนมาร์ นาวรายงานว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 5 คนในมัณฑะเลย์เมื่อคืนวันพุธ และ 1 ในนั้นคือ เด็กชายวัยรุ่นอายุ 16 ปี ได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา จากบาดแผลถูกยิงที่หลัง
นานาชาตินำโดยสหประชาชาติ อเมริกา และอังกฤษ ประณามรัฐบาลทหารพม่าที่ปราบปรามผู้ประท้วงอย่างป่าเถื่อน โดยมีความกังวลกันว่า วันเสาร์นี้ (27) ซึ่งจะเป็นวันกองทัพพม่า อาจเกิดเหตุการณ์รุนแรงมากขึ้น
ในวันพุธ คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งยูเอ็นแสดงความกังวลต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนในพม่า และย้ำว่า ผู้กระทำผิดจะต้องรับโทษ
มติของคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนยังเรียกร้องให้พม่ายอมให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบของยูเอ็นเข้าตรวจสอบอย่างไม่มีข้อจำกัดเพื่อประเมินสถานการณ์ รวมทั้งปล่อยผู้ที่ถูกควบคุมตัวโดยพลการ ซึ่งรวมถึงอองซานซูจี ผู้นำพลเรือน และประธานาธิบดีวิน มิ้น
ทว่า จอ มโย ทุต รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศของคณะผู้ปกครองทหาร ตอบโต้ผ่านวิดีโอที่บันทึกไว้ล่วงหน้าว่า ต่างชาติต้องเคารพอธิปไตยของพม่า และการแทรกแซงของยูเอ็นอาจกลายเป็นอุปสรรคร้ายแรงต่อความพยายามฟื้นความสงบสุข
ขณะเดียวกัน แหล่งข่าววงในเผยว่า อเมริกากำลังเตรียมลงดาบพม่ารอบใหม่ด้วยการขึ้นบัญชีดำกลุ่มกิจการ 2 แห่งของกองทัพ ได้แก่ เมียนมาร์ อิโคโนมิก คอร์เปอเรชัน และเมียนมาร์ อิโคโนมิก โฮลดิ้งส์ รวมทั้งอายัดทรัพย์สินที่อยู่ในอเมริกา และอาจมีการประกาศอย่างเร็วที่สุดในวันพฤหัสฯ
นอกจากนั้นยังมีรายงานว่า วิเวียน บาลากริชนัน รัฐมนตรีต่างประเทศของสิงคโปร์ มีกำหนดพบหารือกับ เร็ตโน มาร์ซูดี รัฐมนตรีต่างประเทศของอินโดนีเซีย ที่กรุงจาการ์ตาในวันพฤหัสฯ ซึ่งหนึ่งในประเด็นหารือคือสถานการณ์ในพม่า
อินโดนีเซียยังร่วมกับมาเลเซียผลักดันให้อาเซียนจัดประชุมฉุกเฉินเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในพม่า
(ที่มา:เอเอฟพี,รอยเตอร์,เอพี)