เกาหลีเหนืออาจเริ่มยิงทดสอบซึ่งออกแบบมาเพื่อปรับปรุงขีปนาวุธข้ามทวีปใหม่ของพวกเขาในอนาคตอันใกล้นี้ จากความเห็นของผู้บัญชาการกองบัญชาการทหารส่วนเหนือ (Northern Command) ในวันอังคาร (16 มี.ค.) ความเคลื่อนไหวที่จะโหมกระพือความตึงเครียดอย่างรุนแรงระหว่างเปียงยางกับวอชิงตัน
คำเตือนของ พล.อ.อ.เกล็น แวนเฮิร์ก ดูเหมือนจะอยู่บนพื้นฐานการเปิดตัวสิ่งที่น่าจะเป็นขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาของเกาหลีเหนือ ณ ขบวนสวนสนามหนึ่งเมื่อเดือนตุลาคมปีก่อน แต่ไม่มีข่าวกรองอย่างเจาะจงว่าการยิงทดสอบจวนจะเกิดขึ้นแล้วหรือไม่
ความคิดเห็นของ แวนเฮิร์ก มีขึ้น 1 วันก่อนหน้าทูตสูงสุดของประธานาธิบดีโจ ไบเดน และรัฐมนตรีกลาโหม มีกำหนดเดินทางไปเกาหลีใต้ และตอกย้ำความกังวลของสหรัฐฯ ที่ว่าเปียงยางอาจกลับมาทดสอบขีปนาวุธและอาวุธนิวเคลียร์ หลังหยุดชะงักมานานกว่า 3 ปี
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาดังกล่าว คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ เร่งเร้าให้ประเทศของเขาเดินหน้าผลิตอาวุธนิวเคลียร์เพื่อยกระดับคลังแสง ทำการยิงขีปนาวุธขนาดเล็กเป็นพักๆ และเปิดตัวขีปนาวุธข้ามทวีป
แวนเฮิร์ก บอกกับคณะกรรมาธิการด้านอาวุธของวุฒิสภาว่า ขีปนาวุธข้ามทวีปของเกาหลีเหนือ ที่มีขนาดใหญ่กว่าเดิมอย่างมากและสันนิษฐานว่าน่าจะมีแสนยานุภาพมากกว่าเดิม เพิ่มความเสี่ยงต่อสหรัฐฯ แต่เขายังคงแสดงความเชื่อมั่นในระบบป้องกันขีปนาวุธของอเมริกา
นายพลรายนี้ยังเน้นด้วยว่า คิม จองอึน ได้ประกาศยุติการระงับทดสอบนิวเคลียร์และขีปนาวุธข้ามทวีปเมื่อ 1 ปีก่อน “รัฐบาลเกาหลีเหนือยังบ่งชี้ว่าไม่อยู่ในพันธสัญญา ประกาศระงับทดสอบนิวเคลียร์และขีปนาวุธข้ามทวีปฝ่ายเดียว ตามที่เคยแถลงไว้ในปี 2018 อีกต่อไป”
“มันบ่งชี้ว่า คิม จองอึน อาจเริ่มการยิงทดสอบที่ออกแบบมาเพื่อปรับปรุงขีนาวุธข้ามทวีปในอนาคนอันใกล้นี้” แวนเฮิร์ก เขียนเป็นลายลักษณ์อักษรให้ปากคำต่อคณะกรรมาธิการด้านอาวุธของวุฒิสภา
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ รายหนึ่งซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนามระบุว่า แม้มีสิ่งบ่งชี้ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ว่าเกาหลีเหนืออาจกำลังเตรียมการสำหรับยิงขีปนาวุธ แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่เกิดขึ้นแบบทันทีทันใด
ทำเนียบขาวยืนยันเมื่อวันจันทร์ (15 มี.ค.) ว่ารัฐบาลของประธานาธิบดีไบเดน พยายามใช้ช่องทางการทูตติดต่อเกาหลีเหนือในทางลับมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ แต่ไม่ได้รับการตอบสนอง ท่าทีที่ซ้ำเติมความสัมพันธ์อันมึนตึงซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ช่วงท้ายยุครัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์
ความล้มเหลวในการพูดคุยก่อให้เกิดคำถามทันทีว่า หลังจากนี้รัฐบาล ไบเดน จะใช้กลยุทธ์ใดจัดการกับปัญหาโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธเกาหลีเหนือที่ทำท่าจะร้อนระอุขึ้นอีก และยังเพิ่มความท้าทายให้กับภารกิจการเยือนเกาหลีใต้และญี่ปุ่นของรัฐมนตรีต่างประเทศและรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ในสัปดาห์หน้า
คิม โยจอง น้องสาวผู้นำเกาหลีเหนือ ออกมาวิจารณ์ปฏิบัติการซ้อมรบในเกาหลีใต้ พร้อมฝากคำเตือนถึงรัฐบาลสหรัฐฯ ว่าถ้าต้องการความสงบสุขก็ “อย่าทำให้เสียบรรยากาศ”
“เราขอถือโอกาสนี้เตือนรัฐบาลใหม่ของสหรัฐฯ... ถ้าอยากนอนหลับอย่างเป็นสุขไปตลอด 4 ปีข้างหน้า ก็อย่าทำให้เสียบรรยากาศตั้งแต่ต้น” คิม โยจอง ระบุ
กองทัพสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ เริ่มภารกิจซ้อมรบร่วมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการจำลองสถานการณ์ด้วยระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อโควิด-19 รวมถึงรักษาโอกาสในการพูดคุยกับเกาหลีเหนือ
(ที่มา : รอยเตอร์)