xs
xsm
sm
md
lg

บลิงเคนควงบิ๊กเพนตากอนทัวร์เอเชีย เสริมสร้างแนวร่วมรับมือจีน-เปียงยาง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอพี - ภัยคุกคามจากจีนและเกาหลีเหนือจะเป็นประเด็นสำคัญระหว่างการเดินทางเยือนเอเชียครั้งแรกของคณะรัฐมนตรีของไบเดน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามเสริมสร้างอิทธิพลของอเมริกาและคลายกังวลเกี่ยวกับบทบาทของวอชิงตันในภูมิภาคนี้

แอนโทนี บลิงเคน และ ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีต่างประเทศและรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ตามลำดับ มีกำหนดออกเดินทางสู่ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ในวันจันทร์ (15 มี.ค.) ขณะที่คณะบริหารของประธานาธิบดี โจ ไบเดน พยายามกระชับความร่วมมือกับสองพันธมิตรสำคัญแห่งเอเชีย หลังจากช่วงเวลา 4 ปี ที่ความสัมพันธ์ลุ่มๆ ดอนๆ แถมอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ยังแหวกบรรทัดฐานทางการทูตด้วยการนัดพบกับคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือถึง 3 รอบ

นอกจากย้ำความมุ่งมั่นในด้านความมั่นคงกับญี่ปุ่นและเกาหลีใต้แล้ว บลิงเคน และ ออสติน ยังมีแผนโฟกัสที่การร่วมมือในการเผชิญความก้าวร้าวของจีน ความท้าทายด้านนิวเคลียร์จากเกาหลีเหนือ และวิกฤตโรคระบาด

ทั้งนี้ นับจากเข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคม ไบเดนส่งสัญญาณว่า ต้องการให้เอเชีย-แปซิฟิก กลับมาเป็นเป้าหมายสำคัญอันดับต้นๆ ในนโยบายต่างประเทศของอเมริกา

วันศุกร์ที่ผ่านมา (12 มี.ค.) ไบเดนร่วมประชุมเสมือนกับผู้นำชาติสมาชิกกลุ่มควอด ได้แก่ อินเดีย ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย โดยเน้นย้ำความสำคัญของอินโด-แปซิฟิก ที่เปิดกว้างและเสรี พร้อมให้สัญญาว่า อเมริกาจะร่วมกับพันธมิตรเพื่อรักษาเสถียรภาพของภูมิภาคนี้และลดความเสี่ยงที่จะเกิดสถานการณ์รุนแรง

เจ้าหน้าที่อาวุโสคนหนึ่งในคณะบริหาร เผยว่า พยายามติดต่อเกาหลีเหนือตั้งแต่กลางเดือนที่แล้ว แต่ไม่ได้รับการตอบกลับจนถึงตอนนี้ ดังนั้น เพื่อกำหนดกลยุทธ์เกี่ยวกับเปียงยาง อเมริกาจึงจะเดินหน้าหารือกับญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ตลอดจนถึงจีน รวมทั้งยังติดต่อเจ้าหน้าที่หลายคนในคณะบริหารของทรัมป์ที่เกี่ยวข้องกับนโยบายต่อเกาหลีเหนือ

สัปดาห์ที่แล้ว อเมริกายังตกลงกันได้กับเกาหลีใต้เรื่องค่าใช้จ่ายในการประจำการของกองกำลังอเมริกันในเกาหลีใต้ หลังจากเจรจากันมาตั้งแต่สมัยทรัมป์ที่มักขู่พันธมิตรประเทศต่างๆ รวมถึงในยุโรปว่า จะลดความร่วมมือด้านความมั่นคงเว้นแต่ประเทศเจ้าบ้านยอมจ่ายมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม แม้แสดงท่าทีว่า จะล้มเลิกนโยบายการเป็นปฏิปักษ์กับจีนของทรัมป์ แต่ก็มีหลายส่วนที่ไบเดนยังคงสานต่อ เช่น การแซงก์ชันเพื่อตอบโต้การละเมิดสิทธิมนุษยชนในซินเจียงและฮ่องกง และการคัดค้านการอ้างสิทธิ์ของจีนเหนือทะเลจีนใต้เกือบทั้งหมด

และแม้สถานการณ์ขณะนี้เปลี่ยนแปลงไปมากนับจากปี 2009 แต่การเยือนของบลิงเคนและออสตินสะท้อนแนวทางหลายอย่างของฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศคนแรกของอดีตประธานาธิบดี บารัค โอบามา จากพรรคเดโมแครตเช่นเดียวกับไบเดน ที่เลือกเดินทางไปญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินโดนีเซีย และจีน เพื่อย้ำผลประโยชน์ของอเมริกาในเอเชีย-แปซิฟิก แม้ว่าการปฏิสัมพันธ์กับจีนของโอบามาจะไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ และภัยคุกคามของเกาหลีเหนือแผ่ขยายมากขึ้นก็ตาม

นอกจากนั้น บลิงเคน และ เจ็ค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของไบเดน ยังมีนัดพบกับเจ้าหน้าที่อาวุโสของจีนที่เมืองแองเคอเรจ รัฐอลาสกา วันพฤหัสบดีนี้ (18 มี.ค.) ขณะที่ออสตินจะบินจากโซลไปนิวเดลีเพื่อหารือกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของอินเดีย

คณะบริหารของอเมริกายังเชื่อว่า ความพยายามในการฟื้นเศรษฐกิจและต่อสู้กับโควิด-19 ทำให้อเมริกามีสถานะแข็งแกร่งขึ้นและสามารถโจมตีความทะเยอทะยานของจีนโดยตรง รวมทั้งใช้ประโยชน์จากการร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อบรรลุเป้าหมายเดียวกันนี้

ซัลลิแวนกล่าวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า หลังจากทำงานมาตลอด 50 วันที่ผ่านมา ตนและบลิงเคนจะเริ่มต้นการเจรจากับผู้แทนอาวุโสของจีนด้วยจุดแข็งดังกล่าว

แต่จุดแข็งที่ว่าจะส่งผลอย่างไรกับศัตรูอย่างจีนและเกาหลีเหนือ รวมถึงพันธมิตรอย่างญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ เป็นสิ่งที่ยังต้องรอลุ้นกันต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น