เอเจนซีส์ - เฟซบุ๊กกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย รายงานกลุ่มนักการทูตรัสเซียที่อยู่ในชุดเสื้อโค้ตฤดูหนาวต้องใช้กำลังเพื่อผลักรถโยกบนรางรถไฟที่มีสัมภาระส่วนตัวอยู่ พร้อมครอบครัว โดยเดินเท้าเป็นระยะทาง 1 กิโลเมตร เพื่อข้ามพรมแดนจากเกาหลีเหนือกลับไปรัสเซีย เนื่องมาจากมาตรการโควิด-19 ของประธานาธิบดี คิม จองอึน
บีบีซี สื่ออังกฤษ รายงานวันนี้ (26 ก.พ.) ว่า กลุ่มนักการทูตรัสเซียพร้อมครอบครัวจำนวนทั้งหมด 8 คน เดินทางด้วยรถบัสและรถไฟก่อนที่จะต้องเดินเท้าไปตามรางรถไฟระยะ 1 กิโลเมตร พร้อมกับขนสัมภาระที่มีกระเป๋าเดินทางมากมาย และเด็กๆ บนรถโยกบนรางรถไฟเพื่อข้ามพรมแดนจากเกาหลีเหนือกลับรัสเซีย
ซึ่งที่ผ่านมา ผู้นำเกาหลีเหนือได้ออกคำสั่งห้ามการเดินทางสาธารณะเป็นส่วนใหญ่เพื่อป้องกันโรคโควิด-19 ระบาด
เปียงยางที่ผ่านมายังคงยืนยันไม่พบผู้ป่วยโควิด-19 ในประเทศ แต่ทว่าผู้สังเกตการณ์ต่างสงสัยในข้อนี้
นับตั้งแต่เกิดการระบาดเมื่อต้นปี 2020 พบว่า การเดินทางด้วยรถและรถไฟในการเข้าออกนอกประเทศนั้น ถูกสั่งห้าม รวมไปถึงการเดินทางอากาศส่วนใหญ่
ส่งผลทำให้กลุ่มนักการทูตรัสเซียมีทางเลือกน้อยมาก กระทรวงต่างประเทศรัสเซีย กล่าวผ่านแถลงการณ์ในเรื่องการอพยพของกลุ่มนักการทูตรัสเซียกลับประเทศ ว่า “นับตั้งแต่พรมแดนถูกปิดมาเป็นเวลานานกว่า 1 ปี และได้มีการสัญจรของผู้โดยสารได้หยุดไป ส่งผลทำให้การกลับบ้านกลายเป็นการเดินทางที่ยาวรนานและยากลำบาก”
ซึ่งภาพที่ถูกโพสต์ขึ้นบนเฟซบุ๊กโดยกระทรวงต่างประเทศรัสเซียแสดงให้เห็นกลุ่มเจ้าหน้าที่นักการทูตรัสเซียต่างต้องใช้กำลังดันรถโยกให้ไปตามรางรถไฟ และขณะที่พวกเขากำลังเดินทางข้ามสะพานกลับเข้ารัสเซียได้นั้นในวิดีโอคลิปแสดงให้เห็นว่า พวกเขาแสดงความดีใจออกมาให้เห็น
ผู้ที่เป็นกำลังหลักในการใช้กำลังดันรถโยกเคลื่อนตัว คือ เลขานุการทูตคนที่ 3 วลาดิสลาฟ โซโรคิน (Vladislav Sorokin) เพื่อข้ามสะพานรางรถไฟเหนือแม่น้ำตูเมน (Tumen River) กลับเข้ารัสเซีย
กระทรวงต่างประเทศรัสเซียชี้ว่า ในกลุ่มประกอบไปด้วย วาร์ยา (Varya) บุตรสาววัย 3 ปี ของโซโรคินที่ต้องเดินทางอย่างสมบุกสมบันนาน 32 ชั่วโมง ด้วยรถไฟ 2 ชั่วโมง รถบัสจากกรุงเปียงยางเพื่อที่จะให้ถึงพรมแดนรัสเซีย
บีบีซีรายงานว่า มีกลุ่มเจ้าหน้าที่รัสเซียจากกระทรวงยืนรอต้อนรับที่สถานีรถไฟฝั่งของรัสเซีย และคนทั้ง 8 คน เดินทางต่อด้วยรถบัสเพื่อไปยังสนามบินเมืองวลาดิวอสต็อก
ทั้งนี้ จากการที่เปียงยางใช้มาตรการแข็งกร้าวต่อการระบาดโรคโควิด-19 ส่งผลทำให้การสัญจรเกือบหยุดเคลื่อนไหว มีกองกำลังทหารจำนวนมากถูกประจำบริเวณพรมแดน
ซึ่งกว่าหนึ่งปีที่ผ่านมา บรรดานักการทูตต่างชาติจำนวนมากที่ประจำอยู่ในเกาหลีเหนือต่างเดินทางออกนอกประเทศและสถานทูตชาติตะวันตกปิด