‘ควีน’ เห็นใจ ‘แฮร์รี-เมแกน’ จะสอบปมเหยียดผิว ขณะผู้รู้ชี้ ‘อาร์ชี’ ไม่ได้ยศเจ้าชาย เป็นไปตามกฎมณเฑียรบาล

พระราชวังบักกิงแฮมออกคำแถลง ชี้ควีนเอลิซาเบธทรงกังวลอย่างยิ่งและเห็นใจเกี่ยวกับปัญหาต่างๆ ที่เจ้าชายแฮร์รีและพระชายาต้องเผชิญช่วงที่ประทับอยู่ในวัง และจะจัดการเกี่ยวกับประเด็นเหยียดเชื้อชาติที่ “เมแกน” ทิ้งระเบิดเอาไว้ระหว่างการให้สัมภาษณ์รายการทีวีของอเมริกาที่มีผู้ติดตามชมทั่วโลกกว่า 49 ล้านคน ขณะเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญแจงเหตุที่บุตรชายของดยุคและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ไม่ได้ยศเจ้าชาย สืบเนื่องจากกฎมณเฑียรบาล หาใช่การวิตกกังวลกับสีผิวของ “อาร์ชี” อย่างที่สะใภ้เจ้าผู้นี้พยายามนำเสนอ

ในวันอังคาร (9 มี.ค.) สำนักพระราชวังบักกิงแฮมได้เผยแพร่คำแถลงของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ซึ่งมีเนื้อความระบุว่า สมาชิกในราชวงศ์ทุกพระองค์มีความเสียพระทัยที่ได้รับรู้เกี่ยวกับความท้าทายที่เจ้าชายแฮร์รี และพระชายาเมแกน ต้องเผชิญในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ส่วนประเด็นต่างๆ ที่ทั้งคู่กล่าวถึงระหว่างการให้สัมภาษณ์กับพิธีกรชื่อดัง โอปราห์ วินฟรีย์ ที่ออกอากาศเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (7) โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องเชื้อชาตินั้น สมาชิกราชวงศ์จะจัดการอย่างจริงจังเป็นการภายใน

ช่วง 2-3 วันมานี้สำนักพระราชวังบักกิงแฮมถูกกดดันอย่างหนักให้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคำกล่าวอ้างต่างๆ ในการให้สัมภาษณ์ของเจ้าชายแฮร์รี และเมแกน หรือดยุคและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ ซึ่งจุดชนวนวิกฤตในราชวงศ์วินด์เซอร์แบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนับตั้งแต่ทศวรรษ 1990

ราชวงศ์อังกฤษกลับมาเป็นที่สนใจของทั่วโลกอีกครั้ง แม้แต่ทำเนียบขาว รวมทั้งฮิลลารี คลินตัน อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศและอดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของอเมริกา ยังเรียกร้องให้มีการตรวจสอบประเด็นการเหยียดเชื้อชาติ

บทสัมภาษณ์นี้ซึ่งมีผู้ชมทั่วโลกกว่า 49 ล้านคน ยังทำให้หลายคนหวนนึกถึงชีวิตสมรสที่พังครืนของพระบิดา และพระมารดาของเจ้าชายแฮร์รี

ปี 1992 เจ้าหญิงไดอานา พระมารดาของดยุคแห่งซัสเซกซ์ เปิดเผยชีวิตส่วนตัวผ่านชีวประวัติที่เขียนโดยแอนดรูว์ มอร์ตัน และทิ้งระเบิดลูกใหญ่ถล่มราชวงศ์ระหว่างการให้สัมภาษณ์สถานีทีวีบีบีซีในอีก 3 ปีต่อมาว่า ทั้งพระองค์ และเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์พระสวามี ต่างไม่ซื่อสัตย์ต่อกันและกัน ทั้งยังบอกว่า เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ไม่เหมาะจะเป็นกษัตริย์ และตัวพระองค์เองมีปัญหาในการทำร้ายตัวเอง และเป็นโรคบูลีเมีย

สำหรับเวลานี้ ผู้คนต่างคาดเดาว่าใครคือสมาชิกราชวงศ์ชั้นสูงที่ตั้งคำถามว่าทายาทของดยุคและดัชเชสแห่งซัสเซ็กจะมีผิวสีอะไรเมื่อประสูติออกมา แต่ที่แน่ๆ วินฟรีย์ยืนยันว่า ไม่ใช่ควีนเอลิซาเบธ และเจ้าชายฟิลิป พระสวามี

เมแกน อดีตนักแสดงอเมริกันที่มีแม่ผิวดำและพ่อผิวขาวยังบอกว่า เคยคิดฆ่าตัวตายหลังจากเคยขอความช่วยเหลือ แต่ได้รับการเพิกเฉยระหว่างใช้ชีวิตในฐานะสะใภ้หลวง

สำนักจัดทำโพล ยูกอฟ สำรวจความคิดเห็นกลุ่มตัวอย่าง 4,656 คนหลังจากสถานีทีวีของอังกฤษแพร่ภาพบทสัมภาษณ์นี้เมื่อวันจันทร์ (8) ซึ่งพบว่า 32% รู้สึกว่า แฮร์รีและเมแกนได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม ส่วนคนที่เห็นตรงกันข้ามมีจำนวนพอๆ กัน

ทว่า โทมัส มาร์เคิล พ่อที่ห่างเหินและมีปัญหากับเมแกน กลับปกป้องราชวงศ์อังกฤษและบอกว่า การถามเรื่องสีผิวอาร์ชีอาจเป็นแค่คำถามโง่ๆ มากกว่าจะเป็นการเหยียดเชื้อชาติ

สำหรับประเด็นที่แฮร์รี และเมแกนซึ่งสละฐานันดรศักดิ์เมื่อปีที่แล้ว และปัจจุบันยกเลิกการปฏิบัติพระราชกรณียกิจในฐานะพระบรมวงศ์นั้น ทิ้งระเบิดว่า สาเหตุที่อาร์ชีไม่ได้รับยศเจ้าชายอาจเนื่องมาจากสีผิว เพราะตนได้รับการบอกกล่าวขณะตั้งครรภ์ว่า “พวกเขา” ซึ่งหมายถึงราชวงศ์ ต้องการเปลี่ยนกฎเพื่อที่อาร์ชีจะไม่ได้มียศเป็นเจ้าชายนั้น บ็อบ มอร์ริส จากคอนสติติวชัน ยูนิคของยูนิเวอร์ซิตี้ คอลเลจ ลอนดอน กล่าวว่า ดยุคและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ต่างรับรู้กฎมณเฑียรบาลเป็นอย่างดี และสิ่งที่เมแกนอ้างถึงอาจหมายถึงแผนการของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์เมื่อเสด็จขึ้นครองราชย์ที่ต้องการลดขอบเขตผู้ที่มีสิทธิให้แคบลง เพราะทรงเล็งเห็นความจำเป็นที่จะต้องลดขนาดราชวงศ์ให้เล็กลง

อาร์ชีที่จะมีอายุ 2 ปีเต็มในเดือนพฤษภาคม ถือเป็นรัชทายาทลำดับที่ 7 ของราชวงศ์อังกฤษ ขณะที่สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธทรงมีพระราชปนัดดา (เหลน) 9 พระองค์ ซึ่งรวมถึงอาร์ชี แต่ทั้งหมดนี้มีเพียงพระโอรสและพระธิดารวม 3 พระองค์ของเจ้าชายวิลเลียม พระเชษฐาของเจ้าชายแฮร์รีเท่านั้น ที่มียศเจ้าชายและเจ้าหญิง

ทั้งนี้ เนื่องจากตามกฎมณเฑียรบาลของอังกฤษที่ออกโดยพระเจ้าจอร์จที่ 5 ในปี 1917 กำหนดว่า พระราชปนัดดาของกษัตริย์จะไม่ได้เป็นเจ้าชายหรือเจ้าหญิง ยกเว้นแต่พระราชปนัดดาที่เป็นโอรสองค์โตของพระโอรสองค์โตของเจ้าชายแห่งเวลส์เท่านั้นที่จะได้มียศเป็นเจ้าชาย

ทว่า ในปี 2012 ควีนเอลิซาเบธทรงใช้พระราชอำนาจแก้ไขกฎนี้ให้พระโอรสและพระธิดาทุกองค์ของเจ้าชายวิลเลียมและแคเทอรีน พระชายา ได้ประดับยศเจ้าชายและเจ้าหญิง

ดังนั้น อาร์ชีจึงไม่ได้รับยศเจ้าชายตามกฎนี้ ไม่ใช่เพราะความคิดเหยียดเชื้อชาติแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม อาร์ชีจะได้ยศเจ้าชายเมื่อเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ขึ้นครองราชย์ หากพระองค์ไม่ทรงให้แก้ไขกฎมณเฑียรบาล

ถึงแม้อาร์ซีไม่ได้เป็นเจ้าชาย แต่ยังสามารถได้รับ “บรรดาศักดิ์อันมีเกียรติ” เมื่อถือกำเนิดได้ เป็นต้นว่า ลอร์ด อาร์ชี เมาต์แบตเทน-วินด์เซอร์ ทว่า ในเวลานั้นมีรายงานว่า เจ้าชายแฮร์รีและเมแกนเป็นฝ่ายปฏิเสธไม่เลือกให้บุตรชายได้บรรดาศักดิ์เช่นนี้ อย่างไรก็ดี ในตอนให้สัมภาษณ์คราวนี้ เมแกนบอกกับวินฟรีย์ว่าตนและเจ้าชายแฮร์รีไม่มีอำนาจตัดสินใจเรื่องดังกล่าว

(ที่มา : รอยเตอร์, เอพี, เอเอฟพี)