xs
xsm
sm
md
lg

ดรามาบทสัมภาษณ์เจ้าชายแฮร์รี-เมแกน จุดชนวน ‘สงครามวัฒนธรรมข้ามแอตแลนติก’ ระหว่างคนดังอังกฤษ-อเมริกา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


หนังสือพิมพ์รายวันฉบับต่างๆ ของสหราชอาณาจักรพากันเสนอข่าวพาดหัวหน้าหนึ่งในฉบับวันอังคาร (9 มี.ค.) เกี่ยวกับปฏิกิริยาที่ติดตามการให้สัมภาษณ์แบบ “ทิ้งระเบิดครั้งใหญ่” ของ เจ้าชายแฮร์รี และพระชายา เมแกน ดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์
การให้สัมภาษณ์เปิดอกของ เจ้าชายแฮร์รี และพระชายา เมแกน ดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ ถึงความคับข้องใจและแรงกดดันภายในราชวงศ์ ที่เพิ่งออกอากาศทางเครือข่ายโทรทัศน์อเมริกัน จุดชนวนให้เกิดสงครามวัฒนธรรมขนาดย่อมๆ ระหว่างสองฟากฝั่งแอตแลนติกขึ้นมาเมื่อวันจันทร์ (8 มี.ค.) โดยมีทั้งเสียงสนับสนุนเห็นใจ และคำวิจารณ์รุนแรง โดยเฉพาะกับ เมแกน มาร์เคิล

เจ้าชายแฮร์รี และพระชายา เมแกน อดีตนักแสดงอเมริกัน ที่มีแม่เป็นคนผิวดำและพ่อผิวขาว ถูกสับเละจากคอมเมนเตเตอร์และผู้ดำเนินการรายการทางทีวีในแดนยูเนียนแจ็ก ที่รู้สึกมานานแล้วว่า การอภิเษกสมรสของทั้งคู่เป็นเรื่องเลวร้ายที่สุดที่เกิดขึ้นกับราชวงศ์อังกฤษ นับตั้งแต่การตรากฎบัตรแมคนาคาร์ตาในปี 1758

แต่อีกฟากหนึ่งของแอตแลนติกซึ่งหลายคนเป็นผู้หญิงผิวดำ กลับแสดงความชื่นชมว่า การตัดสินใจของดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ โดยเฉพาะ เมแกน ในการเปิดเผยเรื่องราวการเหยียดเชื้อชาติและการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมในวังนั้น คือ สิ่งที่จำเป็นต้องทำ และบางคนถึงขั้นยกย่องให้ทั้งคู่เป็นฮีโร่

จากการสำรวจความคิดเห็นของสำนักทำโพล “ยูกอฟ” พบว่า ผู้สนับสนุนเบร็กซิต 71% มองว่า การให้สัมภาษณ์ของดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ กับพิธีกรชื่อดัง โอปราห์ วินฟรีย์ เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม ขณะที่ในบรรดาผู้สนับสนุนให้อังกฤษคงอยู่ในสหภาพยุโรป ที่คิดแบบเดียวกันนี้มีแค่ 37% และหนุ่มสาวมีแนวโน้มสนับสนุนแฮร์รีและเมแกนมากกว่า

แน่นอนว่า การโจมตีดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ เกิดขึ้นในสหราชอาณาจักรมากกว่าอเมริกา โดยเฉพาะการวิพากษ์วิจารณ์เมแกน ทั้งนี้ คนที่ออกมาอย่างชัดเจนที่สุด คือ เพียร์ส มอร์แกน พิธีกรปากกล้าชื่อดัง ที่ด่าอดีตนักแสดงหญิงผู้นี้ว่า ปลิ้นปล้อน สมเพชตัวเอง และน่ารังเกียจ

ชาร์ลส์ มัวร์ อดีตบรรณาธิการเดลี่ เทเลกราฟ และผู้เขียนชีวประวัติของอดีตนายกรัฐมนตรี มาร์กาเร็ต แทชเชอร์ ก็โจมตีว่า แฮร์รี และ เมแกน เป็นพวกหมกมุ่นกับตัวเองและไม่ได้มีความสำคัญใดๆ

แซค โกลด์สมิธ รัฐมนตรีกิจการต่างประเทศด้านแปซิฟิกและสิ่งแวดล้อม วิจารณ์ว่า แฮร์รีกำลังทำลายครอบครัวตัวเอง ขณะที่ไนเจล ฟาราจ ผู้นำพรรคยูคิป รับลูกว่า ดยุกแห่งซัสเซกซ์ต้องรับผิดชอบการทรยศราชวงศ์จากการกระทำที่น่ารังเกียจนี้

อย่างไรก็ดี ไม่ใช่ว่านักการเมืองอังกฤษทุกคนจะก่นด่าเมแกน และ แฮร์รี ตัวอย่างเช่น นาเดีย วิตทัม จากพรรคแรงงาน เป็นหนึ่งในกลุ่มที่เรียกร้องให้พระราชวังบักกิงแฮมสอบสวนเรื่องการเหยียดเชื้อชาติที่เมแกนบอกกับวินฟรีย์

อเล็กซานดรา เบิร์ก นักร้องสาวผิวดำ บอกว่า ประสบการณ์ของเมแกนเป็นสิ่งที่ปวดใจและน่าผิดหวังมาก

เหล่าผู้สนับสนุนและปกป้องแฮร์รี และ เมแกน ส่วนใหญ่อยู่ในอเมริกา เช่น เซเรนา วิลเลียมส์ นักเทนนิสดังระดับโลก ที่ชื่นชมเมแกน ว่า เป็นเพื่อนที่ไม่เคยเห็นแก่ตัว รู้จักการใช้ชีวิต เป็นผู้นำด้วยการทำเป็นตัวอย่าง และเข้าใจความรู้สึกของคนอื่น

อแมนดา กอร์แมน เจ้าของบทกวีที่อ่านในพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ทวีตว่า เมแกนคือโอกาสอันยิ่งใหญ่สำหรับการเปลี่ยนแปลง การฟื้นฟู และการประนีประนอมของราชวงศ์ในยุคใหม่

ขณะที่ เจน ซากี โฆษกทำเนียบขาว ชื่นชมความกล้าหาญของเจ้าชายแฮร์รี และพระชายา ในการเปิดเผยชีวิตส่วนตัวและปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพจิตใจในรายการของวินฟรีย์ แต่ย้ำว่า ทั้งคู่ขณะนี้เป็น “พลเมืองเอกชน” และทำเนียบขาวไม่มีความคิดเห็นใดๆ เพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ในนามของประธานาธิบดีสหรัฐฯ

ด้าน นายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ ที่ถูกผู้สื่อข่าวซักถามเกี่ยวกับบทสัมภาษณ์ดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ เลี่ยงที่จะตอบคำถามดังกล่าวโดยตรง โดยหันไปแสดงความยกย่องชื่นชมพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจของอังกฤษและประเทศในเครือจักรภพทั้งหมด และสำทับว่า ไม่เคยวิพากษ์วิจารณ์เรื่องราชวงศ์มานานแล้วและไม่คิดว่า จะเปลี่ยนใจในตอนนี้

(ที่มา: เดอะการ์เดียน, รอยเตอร์, เอพี)




กำลังโหลดความคิดเห็น