xs
xsm
sm
md
lg

ยอดเสียชีวิตจากโควิดในสหรัฐฯ จ่อ 5 แสนคน ขณะแผนฉีดวัคซีน ‘ญี่ปุ่น-โสมขาว’ เริ่มต้นก็ขลุกขลัก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ไปเยี่ยมโรงงานของบริษัทไฟเซอร์ ที่กำลังผลิตวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในเมืองคาลามาซู รัฐมิชิแกน เมื่อวันศุกร์ (19 ก.พ.) ที่ผ่านมา
ยอดผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในอเมริกาจ่อแตะหลักหมาย 500,000 คน รอมร่อ อย่างไรก็ดี ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันลดลงมากจากช่วงพีกเดือนที่แล้ว ด้านอังกฤษเตรียมประกาศปลดล็อกรอบ 3 หลังฉีดวัคซีนให้ประชาชนแล้ว 1 ใน 3 ตรงข้ามกับญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ที่เจอสถานการณ์ขลุกขลักตั้งแต่เริ่มต้นการใช้วัคซีน

ตามตัวเลขออนไลน์บนเว็บไซต์ติดตามสถานการณ์โควิด-19 ของมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ ในสหรัฐฯ ระบุว่า จนถึงเวลาประมาณ 24.00 น.ของวันจันทร์ (22 ก.พ.) ตามเวลาเมืองไทย จำนวนผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาในอเมริกาเพิ่มขึ้นมาเป็น 499,128 คน ขณะที่ทั่วโลกเป็น 2,469,417 คน

ทั้งนี้ หลังจากสหรัฐฯ พบผู้เสียชีวิตจากโควิดรายแรกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว ตัวเลขเพิ่มเป็น 100,000 คน ในเวลาราว 3 เดือน ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับที่ไวรัสโคโรนาโจมตีนิวยอร์กอย่างรุนแรง

แต่ในขณะการระบาดรุนแรงขึ้นทั่วประเทศ จำนวนผู้เสียชีวิตก็สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยที่เพิ่มจาก 400,000 คน จ่อทะลุ 500,000 คน ภายในเวลาเพียงเดือนเดียว หลังจากมีเคสผู้ป่วยพุ่งขึ้นอย่างแรง ส่วนหนึ่งเนื่องจากชาวอเมริกันพบปะชุมนุมกันช่วงวันหยุดเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่

เดือนที่แล้ว ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เตือนเอาไว้ว่า สหรัฐฯอาจมีประชาชนเสียชีวิตจากโควิดสูงกว่า 600,000 คน

ในวันอาทิตย์ (21) นพ.แอนโทนี เฟาซี ประธานที่ปรึกษาด้านการแพทย์ของไบเดน กล่าวในรายการมีต เดอะ เพรส ของเอ็นบีซีว่า ช่วงกว่าร้อยปีที่ผ่านมา อเมริกาไม่เคยต้องเผชิญสถานการณ์ที่แม้กระทั่งแค่ใกล้เคียงสถานการณ์ในขณะนี้ นั่นคือ นับจากไข้หวัดใหญ่สเปนระบาดในปี 1918 เขาย้ำว่า เมื่อดูจากตัวเลข นี่เป็นสถานการณ์ที่น่าตกใจหรือเกือบไม่น่าเชื่อ ทว่า มันเป็นเรื่องจริง

อย่างไรก็ดี เฟาซีตั้งข้อสังเกตว่า เวลานี้จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รายวันได้ลดลงอย่างมาก หลังจากขึ้นถึงระดับสูงสุดในเดือนมกราคม กระนั้น เขาก็เตือนขณะพูดในรายการ “สเตท ออฟ เดอะ ยูเนียน” ของซีเอ็นเอ็น ว่า ประชาชนยังไม่สามารถกลับไปใช้ชีวิตปกติได้ และชาวอเมริกันยังต้องสวมหน้ากากป้องกันไปจนถึงปีหน้า ถึงแม้มาตรการอื่นๆ ที่ใช้หยุดยั้งการระบาดอาจมีการผ่อนคลายมากขึ้นเรื่อยๆ และผู้ได้รับการฉีดวัคซีนก็มีจำนวนเพิ่มขึ้น นอกจากนั้นแล้ว ชาวอเมริกันยังอาจต้องได้รับการฉีดวัคซีนเสริมโดยขึ้นอยู่กับว่าไวรัสกลายพันธุ์จะมีการปะทุขึ้นมาอย่างไรหรือไม่

ตามข้อมูลของศูนย์เพื่อการควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ (ซีดีซี) เวลานี้มีประชาชนกว่า 61 ล้านคน ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 โดส และมี 18 ล้านคนฉีดครบ 2 โดส ขณะที่ไบเดนประกาศแผนการเอาไว้ว่า จะฉีดวัคซีนให้ประชาชนได้ 100 ล้านคน ภายใน 100 วันแรกที่เข้ารับตำแหน่ง

ทางด้านประเทศอังกฤษ นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ประกาศจะฉีดวัคซีนโดสแรกให้ประชาชนวัยผู้ใหญ่ทุกคนภายในสิ้นเดือนกรกฎาคม จากขณะนี้ที่มีผู้ฉีดวัคซีนอย่างน้อยโดสแรกไปแล้วกว่า 17 ล้านคน หรือ 1 ใน 3 ของประชากรทั้งหมด นอกจากนั้น เขายังเตรียมประกาศในวันจันทร์ (22) ที่จะผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ซึ่งใช้อยู่เวลานี้แบบค่อยเป็นค่อยไป พร้อมแสดงความหวังว่าจะไม่ต้องมีการกลับมาล็อกดาวน์กันอีก หากประชาชนได้รับวัคซีนตามแผนการ

สำหรับเอเชียซึ่งมีหลายประเทศเริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโควิดให้ประชาชนแล้ว แต่หลายประเทศดูเหมือนยังเผชิญปัญหาและอุปสรรคต่างๆ

ตัวอย่างเช่น ญี่ปุ่น ทาโร โคโนะ รัฐมนตรีปฏิรูปการบริหาร ตั้งข้อสังเกตระหว่างให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเคเมื่อวันอาทิตย์ว่า ในช่วงเดือนแรกๆ ของการนำวัคซีนออกมาฉีดนี้ ญี่ปุ่นจะได้รับวัคซีนในจำนวนจำกัด เนื่องจากแม้ไฟเซอร์ ผู้ผลิตวัคซีนเพียงรายเดียวที่ได้รับอนุมัติจากญี่ปุ่น เร่งผลิตเพิ่มในยุโรป แต่ไม่มีแนวโน้มว่า ผลผลิตเหล่านั้นจะมาถึงญี่ปุ่นก่อนเดือนกรกฎาคม

โคโนะ เสริมว่า จะค่อยๆ เริ่มฉีดวัคซีนให้กลุ่มผู้สูงวัยในเดือนเมษายน

อย่างไรก็ดี รัฐบาลยืนยันว่าจะจัดหาวัคซีนเพียงพอสำหรับฉีดให้ประชาชนทั้ง 126 ล้านคนภายในเดือนมิถุนายน

ญี่ปุ่นเจรจาขอซื้อวัคซีน 144 ล้านโดสจากไฟเซอร์ในปีนี้ และเพิ่งได้รับส่งมอบล็อตที่ 2 ราว 450,000 โดสเมื่อวันอาทิตย์ ขณะที่การฉีดวัคซีนโดสแรกเริ่มต้นขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วในกลุ่มแพทย์พยาบาล ซึ่งรัฐบาลตั้งเป้าฉีดให้บุคลากรทางการแพทย์ราว 4.7 ล้านคนก่อน หรือมากกว่าตัวเลขคาดการณ์เบื้องต้นราว 1 ล้านคน

ส่วนที่เกาหลีใต้ สมาคมแพทย์เกาหลี (เคเอ็มเอ) ซึ่งเป็นสหภาพของแพทย์ใหญ่ที่สุดของเกาหลีใต้ ด้วยจำนวนสมาชิกเกือบ 140,000 คน ได้ขู่นัดหยุดงานหากรัฐสภาผ่านกฎหมายที่จะยึดใบอนุญาตประกอบโรคศิลปของแพทย์ซึ่งต้องโทษจำคุก โดยสมาคมอ้างว่า กฎหมายดังกล่าวจะทำให้แพทย์ถูกยึดใบอนุญาตในกรณีเกิดอุบัติเหตุที่ไม่เกี่ยวกับงานหรือกรณีขาดความรู้ด้านกฎหมาย

ทางด้านสมาชิกรัฐสภาจากพรรครัฐบาลที่ผลักดันร่างกฎหมายนี้ประณามเคเอ็มเอ ว่า พยายามใช้สุขภาพของประชาชนเป็นตัวประกันเพื่อปกป้องสิทธิของตัวเองในการได้รับยกเว้นการลงโทษจากการก่ออาชญากรรมเลวร้าย และยืนยันว่า การทบทวนกฎหมายบริการทางการแพทย์มีจุดประสงค์เพื่อเล่นงานแพทย์ที่มีความผิดในการก่ออาชญากรรมร้ายแรง เช่น ล่วงละเมิดทางเพศและฆาตกรรม ไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับการดูแลรักษาผู้ป่วย

คำขู่ของเคเอ็มเอทำให้เกิดความกังวลว่า อาจทำให้ความพยายามในการฉีดวัคซีนโควิดที่กำลังจะเริ่มในวันศุกร์นี้ (26) สะดุด และส่งผลต่อเนื่องต่อเป้าหมายในการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ภายในเดือนพฤศจิกายน

ทั้งนี้ บุคลากรทางการแพทย์จะเป็นกลุ่มแรกในแดนโสมขาวที่ได้ฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา และเกาหลีใต้มีแผนฉีดวัคซีนให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยง 10 ล้านคน ภายในเดือนกรกฎาคม

(ที่มา : เอเอฟพี, รอยเตอร์, เอพี, MGR ออนไลน์)

นพ.แอนโทนี เฟาซี ประธานที่ปรึกษาด้านการแพทย์ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน สวมหน้ากากป้องกันธีมเครื่องมือในห้องแล็ป ขณะเดินทางมายังทำเนียบขาว กรุงวอชิงตัน เมื่อวันอาทิตย์ (21 ก.พ.) เขาพูดในรายการทีวีซึ่งแพร่ภาพวันเดียวกันนี้ว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสหรัฐฯเวลานี้ลดลงจากช่วงพีกแล้ว แต่ชาวอเมริกันคงต้องใส่หน้ากากป้องกันกันต่อไปจนถึงปีหน้า
กำลังโหลดความคิดเห็น