กองกำลังความมั่นคงพม่าเข้าสลายการชุมนุมที่เกิดขึ้นกระจัดกระจายในจุดต่างๆ อย่างรวดเร็ว เมื่อวันอังคาร (9 มี.ค.) หลังจากตลอดคืนวันจันทร์ (8) ได้เข้าปิดล้อมนักเคลื่อนไหวหนุ่มสาวหลายร้อยคนในเขตซานชองของเมืองย่างกุ้ง ท่ามกลางเสียงเรียกร้องของยูเอ็นและมหาอำนาจตะวันตกให้กองทัพเมียนมาใช้ความอดกลั้นระดับสูงสุด และผู้คนนับพันฝ่าฝืนคำสั่งเคอร์ฟิวออกไปชุมนุม เพื่อช่วยเหลือสนับสนุนกลุ่มนักเคลื่อนไหวที่ถูกปิดล้อม
ในวันอังคาร ฝูงชนเริ่มรวมตัวประท้วงต่อต้านการรัฐประหารและการจับกุมอองซาน ซจี ผู้นำจากการเลือกตั้ง อีกครั้งในย่างกุ้งและอีกหลายเมืองทั่วประเทศ อย่างไรก็ดี กองกำลังความมั่นคงได้เข้าสลายการชุมนุมอย่างรวดเร็วด้วยแก๊สน้ำตาและระเบิดแสง โดยสื่อท้องถิ่นรายงานว่า มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 2 คน ในเมืองโมญิ่นทางเหนือ ซึ่งหนึ่งในนั้นมีบาดแผลถูกยิง
ทั้งนี้ เมื่อคืนวันจันทร์ผู้คนนับพันพากันฝ่าฝืนคำสั่งเคอร์ฟิวออกไปชุมนุมตามถนนในเขตต่างๆ ของย่างกุ้ง เพื่อแสดงการสนับสนุนช่วยเหลือนักเคลื่อนไหวหนุ่มสาวหลายร้อยคนที่กำลังถูกตำรวจทหารถูกปิดล้อมอยู่ในเขตซานชอง ซึ่งเป็นจุดที่เกิดการชุมนุมประท้วงเป็นประจำทุกวัน พวกเขาพากันตะโกนขณะออกมาที่ถนนว่า “ปล่อยพวกนักศึกษาที่ซานชอง”
ขณะเดียวกัน ตำรวจยิงปืนและใช้ระเบิดแสง เพื่อขับไล่ผู้ประท้วงเหล่านี้
นอกจากนั้น จากวิดีโอไลฟ์สดจากย่านซานชองที่เผยแพร่ทางสื่อสังคม แสดงให้เห็นพวกผู้ประท้วงกำลังวิ่งหนีอยู่ระหว่างบ้านเรือนต่างๆ ในย่านนั้น ขณะที่มีระเบิดแสงตูมตามกันสนั่น
ตำรวจประกาศว่า จะค้นที่พักทุกๆ ห้องในเขตดังกล่าวเพื่อหาผู้ประท้วงต่อต้านการรัฐประหาร โดยเฉพาะห้องที่ติดธงพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) ของซูจี บนระเบียง และพวกที่ช่วยปิดบังหรือให้ที่ซ่อนคนเหล่านั้นจะถูกลงโทษ
ตำรวจเริ่มบุกค้นหลังจากปิดระบบอินเทอร์เน็ตเมื่อเวลา 01.00 น. วันอังคาร และถอนกำลังออกไปในช่วงเช้ามืด ทำให้ผู้ประท้วงบางคนยังสามารถหลบหนีออกไปได้
กลุ่มสิทธิมนุษยชนกลุ่มหนึ่งเผยว่า มีผู้ถูกจับกุมจากการตรวจค้นในเขตซานชองราวๆ 50 คน
ทางด้านโฆษกรัฐบาลทหารพม่าไม่ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ก่อนหน้านั้น สถานีเอ็มอาร์ทีวีของทางการประกาศเสียงกร้าวว่า “ความอดทนของรัฐบาลกำลังหมดสิ้นลง และขณะที่พยายามทำให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายน้อยที่สุดในการหยุดยั้งการจลาจล แต่ประชาชนที่เสาะแสวงหาเสถียรภาพอย่างสมบูรณ์กำลังเรียกร้องให้ใช้มาตรการที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นในการปราบปรามการจลาจล”
ระหว่างที่ตำรวจปิดล้อมเขตดังกล่าวอยู่นั้น แอนโตนิโอ กูเตียร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ สำนักงานข้าหลวงใหญ่ฝ่ายสิทธิมนุษชนของยูเอ็น ตลอดจนสถานเอกอัครราชทูตอเมริกันและอังกฤษในเมียนมา ได้แถลงเรียกร้องให้รัฐบาลทหารพม่าใช้ความอดกลั้นระดับสูงสุดและปล่อยตัวผู้ประท้วงออกมาอย่างปลอดภัย
เน็ด ไพรซ์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอเมริกา ประณามรัฐบาลทหารพม่าที่ปราบปรามผู้ประท้วงอย่างสันติด้วยความรุนแรง ซ้ำยังเพิกถอนใบอนุญาตบริษัทสื่ออิสระ 5 แห่งที่ทำข่าวการประท้วงต่อต้านการยึดอำนาจ
นอกจากนั้น เมื่อวันจันทร์ เอกอัครราชทูตพม่าประจำอังกฤษ ยังตามรอยผู้แทนของพม่าในยูเอ็น ด้วยการเรียกร้องให้ปล่อยตัวซูจี
อังกฤษ อเมริกา และตะวันตกบางชาติกำลังหรือเตรียมที่จะออกมาตรการแซงก์ชันรัฐบาลทหารพม่า และสหภาพยุโรป (อียู) กำลังเตรียมขยายมาตรการแซงก์ชันโดยพุ่งเป้าไปที่ธุรกิจของทหาร
การบุกค้นเขตซานชองมีขึ้นหลังจากมีผู้ถูกยิงตาย 3 คนใน 2 เมือง ระหว่างการประท้วงในวันจันทร์ ซึ่งห้างร้าน โรงงาน และธนาคารหลายแห่งปิดทำการเพื่อตอบสนองข้อเรียกร้องของสหภาพแรงงานในการนัดผละงานครั้งใหญ่เพื่อประท้วงการยึดอำนาจ และทำให้เศรษฐกิจที่เอื้อประโยชน์ให้เฉพาะกองทัพเป็นอัมพาต
กองทัพพม่าปฏิเสธความรับผิดชอบต่อผู้เสียชีวิตในการประท้วง ซึ่งเกิดขึ้นเป็นประจำทุกวันนับจากต้นเดือนกุมภาพันธ์ พร้อมแก้ต่างว่า ที่ต้องยึดอำนาจ เนื่องจากมีการโกงการเลือกตั้งอย่างกว้างขวางในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งพรรคเอ็นแอลดีของซูจีชนะขาดลอย
(ที่มา: เอเอฟพี, รอยเตอร์, เอพี)