ประชาชนหลายพันคนพากันออกมาตามท้องถนนในย่างกุ้ง เมืองใหญ่ที่สุดของพม่าในตอนกลางดึกของวันจันทร์ (8 มี.ค.) ซึ่งเป็นการท้าทายคำสั่งห้ามออกนอกบ้านยามวิกาล พวกเขาพากันร้องตะโกนด้วยความโกรธแค้น ภายหลังตำรวจทหารได้เข้าล้อมผู้ประท้วงต่อต้านรัฐประหารวัยหนุ่มสาวจำนวนหลายร้อยคนเอาไว้ในย่านหนึ่งของเมือง
“ปล่อยพวกนักศึกษาในซานชอง (Sanchaung)” ผู้คนพากันตะโกนตามท้องถนนในเขตต่างๆ ทั่วทั้งเมืองหลวงเก่าของพม่าแห่งนี้ซึ่งเกิดการประท้วงขึ้นมาทุกวันอย่างต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 1 เดือนแล้ว เพื่อคัดค้านการที่ฝ่ายทหารเข้ายึดอำนาจโค่นล้มอองซานซูจี ผู้นำที่มาจากการเลือกตั้ง
ผู้เห็นเหตุการณ์หลายรายเล่าว่า ในบางพื้นที่ตำรวจได้ใช้ระเบิดแสงรวมทั้งยิงปืนเพื่อพยายามขับไล่พวกผู้ประท้วงตอนดึกเหล่านี้
วิดีโอไลฟ์สดจากย่านซานชองที่เผยแพร่ทางสื่อสังคม แสดงให้เห็นพวกผู้ประท้วงกำลังวิ่งหนีอยู่ระหว่างบ้านเรือนต่างๆ ในย่านนั้น ขณะที่มีระเบิดแสงตูมตามกันสนั่น
“ผู้ประท้วงวัยหนุ่มสาวเกือบๆ 200 คนยังถูกตำรวจกับทหารปิดกั้นเอาไว้ที่นั่น ประชาคมท้องถิ่นและประชาคมระหว่างประเทศจำต้องช่วยเหลือพวกเขาเดี๋ยวนี้เลย! ได้โปรดเถิด” หม่อง ซองคา (Maung Saungkha) ผู้นำการประท้วงคนหนึ่งโพสต์ข้อความเช่นนี้ทางทวิตเตอร์
ด้านสถานเอกอัครราชทูตอังกฤษ และสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ได้รบเร้าให้กองกำลังความมั่นคงยินยอมให้พวกพลเรือนออกมาจากพื้นที่ดังกล่าวโดยไม่ใช้ความรุนแรงเข้าเข้าจับกุม
ส่วนที่เจนีวา สำนักงานข้าหลวงใหญ่ฝ่ายสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ มิเชลล์ บาเชเลต โพสต์ข้อความทางทวิตเตอร์ ว่า รู้สึกเป็นกังวลอย่างยิ่งต่อชะตากรรมของผู้ประท้วงอย่างสงบ 200 คน ซึ่งในจำนวนนี้มีผู้หญิงรวมอยู่ด้วย พวกเขากำลังถูกกองกำลังความมั่นคงล้อมเอาไว้ในย่างกุ้ง และอาจเสี่ยงต่อการถูกจับหรือถูกปฏิบัติอย่างเลวร้าย เรารบเร้าทางตำรวจอนุญาตให้พวกเขาออกไปอย่างปลอดภัยและไม่มีการตอบโต้แก้เผ็ด
สำหรับตำรวจแถลงว่า พวกเขาจะเข้าตรวจสอบทะเบียบบ้านของบ้านเรือนในย่านนั้นอย่างละเอียดเพื่อตรวจสอบหาคนภายนอกที่เข้าไป ซึ่งเป็นการข่มขู่จะเล่นงานชาวบ้านแถวนั้นหากพยายามซุกซ่อนผู้ประท้วงเอาไว้
ช่วงกลางวันผู้ประท้วงตายไปอีกอย่างน้อย 3
จากภาพบนเฟซบุ๊กที่เผยแพร่กันในตอนกลางวันของวันจันทร์ (8) เห็นภาพร่างชายสองคนนอนเสียชีวิตบนถนนในเมืองมิตจีนา (Myitkyina) เมืองหลวงของรัฐกะฉิ่น ทางภาคเหนือของพม่า ซึ่งผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ทั้งคู่อยู่ในกลุ่มผู้ประท้วงขณะที่ตำรวจเปิดฉากยิงแก๊สน้ำตาและขว้างระเบิดแสงใส่ฝูงชน และมีหลายคนถูกลอบยิงด้วยกระสุนจริงจากตึกในบริเวณนั้น ซึ่งยังไม่รู้ชัดว่า เป็นฝ่ายไหน
ผู้เห็นเหตุการณ์คนหนึ่งบอกว่า ผู้ตายทั้งคู่ถูกยิงที่ศีรษะและยังมีผู้บาดเจ็บอีก 3 คน
ส่วนที่เมืองพยาโปน (Phyar Pon) ในเขตสามเหลี่ยมปากแม่น้ำอิรวดี ก็มีผู้ถูกฆ่าไปอย่างน้อย 1 คน และบาดเจ็บ 2 คน ระหว่างเกิดการประท้วงที่เมืองนี้ นักเคลื่อนไหวทางการเมืองผู้หนึ่งและสื่อท้องถิ่นรายงาน
ในวันจันทร์ ผู้คนได้หลั่งไหลออกมาต่อต้านการรัฐประหารทั้งที่เมืองย่างกุ้ง มัณฑะเลย์ ทวาย และอีกหลายเมือง รวมทั้งที่เมืองหลวงเนปิดอ
ก่อนหน้านั้น ผู้ประท้วงจำนวนมากในบางพื้นที่ของย่างกุ้ง พากันโบกธงทำจากผ้าโสร่งหรือนำโสร่งสตรีมาขึงบนถนนเพื่อเป็นสัญลักษณ์วันสตรีสากล รวมทั้งขัดขวางตำรวจและทหาร เนื่องจากตามธรรมเนียมพม่าเชื่อว่า การเดินลอดผ้าโสร่งของผู้หญิงจะทำให้ผู้ชายโชคร้าย
เอ็มอาร์ทีวี สถานีโทรทัศน์ของทางการบอกว่า การทำเช่นนั้นถือเป็นการดูหมิ่นศาสนาอย่างร้ายแรง และเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมในเมืองพุทธอย่างพม่า
สถานีโทรทัศน์แห่งนี้สำทับเสียงกร้าวด้วยว่า “ความอดทนของรัฐบาลกำลังหมดสิ้นลง และขณะที่พยายามทำให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายน้อยที่สุดในการหยุดยั้งการจลาจล แต่ประชาชนที่เสาะแสวงหาเสถียรภาพอย่างสมบูรณ์กำลังเรีกยร้องให้ใช้มาตรการที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นในการปราบปรามการจลาจล”
กลุ่มสหภาพแรงงานเรียกร้องให้ชาวพม่านัดหยุดงาน
สหภาพแรงงาน 18 แห่งในพม่า ซึ่งครอบคลุมภาคก่อสร้าง เกษตรกรรม และการผลิต ฯลฯ เรียกร้องให้ชาวพม่าทุกคนหยุดงานเพื่อล้มล้างการรัฐประหารและคืนอำนาจให้รัฐบาลที่ได้รับเลือกตั้งของอองซานซูจี โดยระบุว่า กิจกรรมเศรษฐกิจและธุรกิจทั้งหมดสร้างผลประโยชน์ให้กองทัพที่กดขี่แรงงานประชาชน
สหภาพแรงงานเหล่านี้ต้องการต่อยอดการอารยะขัดขืนที่เรียกร้องให้ข้าราชการเลิกทำงานให้รัฐบาลทหาร ซึ่งขณะนี้ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างพื้นฐานของพม่าในทุกระดับ เช่น การให้บริการของโรงพยาบาล ขณะที่หน่วยงานในกระทรวงต่างๆ อยู่ในสภาพว่างเปล่า และธนาคารไม่สามารถดำเนินการได้
ผู้อยู่ในเหตุการณ์เผยว่า มีร้านน้ำชาไม่กี่แห่งยังคงเปิดให้บริการในย่างกุ้ง ขณะที่ห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ ปิดเช่นเดียวกับโรงงาน
ทางด้านรัฐบาลทหารได้ออกมาขู่ว่าจะปลดข้าราชการที่ผละงานโดยมีผลทันทีตั้งแต่วันจันทร์
นอกจากนั้นยังมีรายงานว่า กองกำลังความมั่นคงเข้ายึดโรงพยาบาลของรัฐหลายแห่งในย่างกุ้งเมื่อคืนวันอาทิตย์ สอดคล้องกับรายงานของสื่อของรัฐว่า กองกำลังความมั่นคงเข้าควบคุมโรงพยาบาลและมหาวิทยาลัยหลายแห่ง และกองทัพแถลงว่ามีผู้ถูกจับกุม 41 คนในวันอาทิตย์
ทั้งนี้ ข้อมูลของสมาคมให้ความช่วยเหลือนักโทษการเมืองเผยว่า นับจากการรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์จนถึงวันอาทิตย์มีผู้ถูกควบคุมตัวเกือบ 1,800 คน ขณะที่สหประชาชาติ (ยูเอ็น) ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตกว่า 50 คน
กองทัพยังออกคำประกาศที่เผยแพร่บนหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์โกลบัล นิว ไลฟ์ ออฟ เมียนมาร์ของรัฐบาลฉบับวันจันทร์ขู่ว่า จะ “ดำเนินการ” กับผู้ที่ทำงานทั้งโดยตรงหรือโดยอ้อมให้กลุ่มสมาชิกรัฐสภาที่ถูกปลดแต่ยังอ้างความชอบธรรม พร้อมระบุว่า กลุ่มดังกล่าวผิดกฎหมายและเป็นกบฏ
การปราบปรามและสังหารผู้ประท้วงทำให้รัฐบาลทหารพม่าถูกประณามจากนานาชาติ รวมถึงเพื่อนบ้านในเอเชีย อีกทั้งถูกอเมริกาและตะวันตกบางชาติแซงก์ชันแบบจำกัด
คืนวันอาทิตย์ มาริส เพย์น รัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรเลีย แถลงว่า แคนเบอร์ราตัดสินใจระงับความร่วมมือทางทหารกับพม่า ซึ่งรวมถึงโครงการฝึกภาษาอังกฤษ และกำลังพิจารณาโยกเงินช่วยเหลือที่เคยให้รัฐบาลพม่าไปให้องค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรแทน
ด้านจีนแถลงในวันเดียวกันว่า ได้พูดจากับทุกฝ่ายเพื่อทำให้วิกฤตการณ์ในพม่าคลี่คลาย โดยที่ตนเองจะไม่เลือกข้าง
(ที่มา : รอยเตอร์, เอเอฟพี)