รอยเตอร์ – ตำรวจพม่าเปิดฉากยิงใส่ผู้ประท้วงเป็นวันที่ 2 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 คนและได้รับบาดเจ็บอีกจำนวนมากเมื่อวันอาทิตย์ (28 ก.พ.) ขณะที่ประชาชนยังคงออกไปชุมนุมต่อต้านการปกครองของกองทัพทั่วประเทศ นอกจากนั้นรัฐบาลทหารยังสั่งปลดเอกอัครราชทูตประจำยูเอ็นที่เรียกร้องให้นานาชาติทำทุกวิถีทางที่จำเป็นเพื่อล้มล้างการรัฐประหาร
พม่าเผชิญความโกลาหลวุ่นวายนับจากที่กองทัพเข้ายึดอำนาจ พร้อมควบคุมตัวอองซาน ซูจี ผู้นำรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งและสมาชิกชั้นนำอีกหลายคนของพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ โดยกล่าวหาว่า การเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายนที่พรรคเอ็นแอลดีของซูจีชนะถล่มทลายมีการโกงขนานใหญ่
การรัฐประหารทำให้กระบวนการผ่องถ่ายประชาธิปไตยภายหลังยุคเผด็จการทหารนานเกือบครึ่งศตวรรษหยุดชะงัก และผลักดันประชาชนนับแสนลงสู่ท้องถนน อีกทั้งเรียกเสียงประณามจากประเทศตะวันตก
ชาร์ลส์ หม่อง โบ พระราชาคณะศาสนาคริสต์นิกายแคทอลิกในพม่า ทวิตว่า เมียนมาร์มีสภาพราวกับสนามรบ
แพทย์คนหนึ่งเล่าว่า ตำรวจเปิดฉากยิงใส่กลุ่มผู้ประท้วงในหลายจุดในเมืองย่างกุ้ง หลังจากใช้ระเบิดแสงและแก๊สน้ำตาแต่ไม่สามารถสลายฝูงชนได้ และมีชายคนหนึ่งถูกยิงที่หน้าอกเสียชีวิต
ตำรวจยังใช้ระเบิดแสงสลายการชุมนุมของกลุ่มครู และทำให้ครูผู้หญิงคนหนึ่งเสียชีวิตซึ่งอาจเกิดจากหัวใจวาย
จอ มิน ไท่ นักการเมืองท้องถิ่นเผยว่า ตำรวจยิงใส่ผู้ชุมนุมในเมืองทวาย ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 คนและบาดเจ็บอีกหลายคน
ขณะเดียวกัน เว็บไซต์ข่าวอิระวดีรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตหนึ่งคนในเมืองมัณฑะเลย์จากการปราบปรามของตำรวจ และมูลนิธิแห่งหนึ่งเผยว่า มีผู้เสียชีวิต 2 คนในเมืองพะโคตอนกลางของประเทศ นอกจากนั้นยังมีรายงานการกวาดล้างของตำรวจในเมืองล่าเสี้ยวทางตะวันออกเฉียงเหนือและมะริดทางใต้สุด
สัปดาห์ที่แล้ว พลเอกมิน อ่อง หลาย ผู้นำรัฐบาลทหาร ประกาศว่า รัฐบาลใช้กำลังน้อยที่สุดในการจัดการการประท้วง กระนั้นก็ตาม มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 คน และกองทัพเผยว่า ตำรวจเสียชีวิต 1 นาย
การใช้กำลังปราบปรามครั้งล่าสุดต่อเนื่องสองวันในช่วงสุดสัปดาห์ดูเหมือนเป็นการตัดสินใจขั้นเด็ดขาดของกองทัพเพื่อจัดการการขัดขืนของประชาชนทั่วประเทศ ไม่ใช่เฉพาะผู้ชุมนุมบนถนนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงข้าราชการ หน่วยงานปกครองระดับท้องถิ่น ภาคตุลาการ การศึกษา สาธารณสุข และสื่อ
กลุ่มพันธมิตรเสื้อกาวน์ขาวเผยว่า มีบุคลากรทางการแพทย์กว่า 50 คนถูกจับกุม ขณะที่สถานีเอ็มอาร์ทีวีของรัฐบาลรายงานว่า มีผู้ถูกจับกุมกว่า 470 คนเมื่อวันเสาร์หลังจากตำรวจเริ่มการกวาดล้างทั่วประเทศ
ปฏิบัติการดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากสถานีทีวีของรัฐประกาศข่าวการปลดจอ โม ตุน เอกอัครราชทูตประจำสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ข้อหาทรยศประเทศ หลังจากทูตพม่าผู้นี้เรียกร้องให้ยูเอ็นใช้ “วิธีการใดๆ ที่จำเป็น” ล้มล้างการรัฐประหาร
แม้ชาติตะวันตกประณามการรัฐประหารและบางประเทศประกาศแซงก์ชัน ทว่า บรรดานายพลของพม่าหาได้สนใจการกดดันทางการทูตไม่ โดยกองทัพให้สัญญาจะจัดการเลือกตั้งใหม่แต่ไม่ได้ระบุกรอบเวลา
ด้านพรรคเอ็นแอลดีและผู้สนับสนุนเรียกร้องให้ทหารเคารพผลการเลือกตั้งเมื่อปลายปีที่แล้ว
ทั้งนี้ ซูจีที่เคยถูกควบคุมตัวภายในบ้านพักนาน 15 ปีระหว่างช่วงที่ทหารปกครองประเทศ ถูกตั้งข้อหาลักลอบนำเข้าวิทยุสื่อสาร 6 เครื่อง และละเมิดกฎหมายภัยพิบัติธรรมชาติจากการละเมิดกฎป้องกันการระบาดของไวรัสโคโรนา โดยมีกำหนดขึ้นศาลอีกครั้งในวันจันทร์ (1)