ชาวพม่าตามเมืองต่างๆ ยังคงออกมาประท้วงต่อเนื่องเป็นวันที่ 6 ในวันพฤหัสบดี (11 ก.พ.) หลังจากไบเดนเซ็นคำสั่งฝ่ายบริหารแซงก์ชันเหล่านายพลเมียนมาล็อตแรก เรียกร้องให้ยอมสละอำนาจ ขณะเดียวกันมีข่าวว่า ผู้ช่วยของซูจีและนักการเมืองถูกรวบตัวเพิ่มอีกหลายคน และกองทัพเตรียมบล็อกอินเทอร์เน็ตและเว็บไซต์อีกรอบ
ผู้คนในพม่ายังคงพากันหลั่งไหลออกมาแสดงความโกรธเกรี้ยวและท้าทายอย่างต่อเนื่องตั้งแต่สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ภายหลังฝ่ายทหารเข้ายึดอำนาจโค่นล้มรัฐบาลพลเรือนที่นำโดยนางอองซานซูจีเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ รวมทั้งจับกุมคุมขังเธอตลอดจนบุคคลระดับอาวุโสคนอื่นๆ ของพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) ของเธอ
มีอยู่หลายวันซึ่งกองกำลังความมั่นคงได้ใช้แก๊สน้ำตา, เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง และยิงด้วยกระสุนยางเพื่อขับไล่ผู้ประท้วง โดยที่มีรายงานข่าวด้วยว่ามีการยิงด้วยกระสุนจริง ซึ่งทำให้ผู้ประท้วงหลายคนบาดเจ็บ คนหนึ่งซึ่งเป็นสาวอายุ 19 ปีถูกยิงที่ศีรษะอาการสาหัสมากจนแพทย์เกรงว่าคงจะไม่รอด
ในวันพฤหัสบดี ประชาชนยังคงออกไปชุมนุมเดินขบวนอย่างสันติ ทั้งในกรุงเนปิดอว์ ย่างกุ้ง มัณฑะเลย์ ทวาย และอีกหลายเมือง โดยเฉพาะที่ย่างกุ้งนั้น มีคนเข้าร่วมเป็นเรือนหมื่น
วันเดียวกันนั้นมีรายงานว่า ทหารเข้าจับกุมนักการเมืองเพิ่มอีกหลายคน ในจำนวนนี้รวมถึงรองประธานสภาผู้แทนราษฎร และผู้ช่วยสำคัญของซูจีที่รับตำแหน่งรัฐมนตรีสำนักงานที่ปรึกษาแห่งรัฐ โดยสมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมืองเผยว่า มีผู้ถูกจับกุมซึ่งเกี่ยวข้องกับการรัฐประหารกว่า 200 คน
ผู้ประท้วงกำลังพยายามเรียกร้องให้ข้าราชการและพนักงานทั่วไปหยุดงานเพื่อกดดันรัฐบาลทหาร นอกจากนี้ยังมีกลุ่มชาติพันธุ์ เช่น กะเหรี่ยง อาระกัน คะฉิ่น หลายสิบคน ร่วมประท้วงในย่างกุ้ง ตลอดจนมีการจัดการชุมนุมประท้วงที่ทะเลสาบอินเล ในรัฐชาน และที่เมืองพุกาม เมืองโบราณที่ยูเนสโกขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลก
ชาวพม่าหลายร้อยคนไปชุมนุมประท้วงหน้าสถานเอกอัครราชทูตจีนในเมืองย่างกุ้ง กล่าวหาปักกิ่งให้การสนับสนุนกองทัพพม่า ซึ่งจีนยืนกรานปฏิเสธ
เมื่อคืนวันพุธ สถานเอกอัครราชทูตจีนได้โพสต์คำแถลงบนเฟซบุ๊กปฏิเสธรายงานบนอินเทอร์เน็ตที่ว่า เครื่องบินหลายลำของจีนนำเจ้าหน้าที่เทคนิคไปยังพม่า โดยยืนยันว่า เที่ยวบินจากจีนที่ไปยังพม่ามีเพียงเที่ยวบินขนส่งสินค้าตามปกติเท่านั้น
ผู้ประท้วงยังไปชุมนุมใกล้สถานเอกอัครราชทูตอเมริกัน รัสเซีย และฝรั่งเศส ตลอดจนถึงสำนักงานของสหประชาชาติ โดยเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสได้ออกมาพบปะพูดคุยกับผู้ประท้วง และยืนยันให้การสนับสนุนประชาธิปไตย พร้อมเรียกร้องให้ปล่อยผู้ที่ถูกควบคุมตัว
ขณะเดียวกัน เมื่อวันพุธ (10) ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ ได้ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหาร ซึ่งมีเนื้อหามุ่งป้องกันไม่ให้พวกนายทหารพม่าเข้าถึงกองทุนมูลค่า 1,000 ล้านดอลลาร์ของรัฐบาลพม่าในอเมริกา พร้อมเรียกร้องให้กองทัพพม่าปล่อยตัวผู้นำทางการเมืองและนักเคลื่อนไหวทันที รวมถึงคืนอำนาจให้รัฐบาลพลเรือน
ไบเดนสำทับว่า ในสัปดาห์นี้วอชิงตันจะระบุเป้าหมายการแซงก์ชันล็อตแรก รวมทั้งจะออกมาตรการควบคุมการส่งออก ควบคู่กับการคงการสนับสนุนด้านสุขอนามัย แก่กลุ่มประชาสังคม และส่วนอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนพม่าโดยตรง
กองทัพพม่านั้นอ้างว่า ที่ต้องยึดอำนาจเนื่องจากมีการโกงการเลือกตั้งอย่างกว้างขวางเมื่อเดือนพฤศจิกายน ซึ่งพรรคของซูจีชนะถล่มทลาย เวลานี้กองทัพยังแต่งตั้งคนของตัวเองเข้าดำรงตำแหน่งในศาลและหน่วยงานการเมืองต่างๆ อย่างรวดเร็ว ซึ่งเท่ากับเป็นการยุติการปกครองของพลเรือนโดยสิ้นเชิง
ขณะนี้ยังมีความกังวลมากขึ้นว่า รัฐบาลทหารจะอดทนกับการประท้วงได้นานแค่ไหน หลังจากในสัปดาห์นี้มีการใช้กระสุนจริงในเนปิดอ ซึ่งทำให้มีผู้บาดเจ็บสาหัสหลายคน รวมทั้งหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งถูกยิงที่ศีรษะจนอาการสาหัสมาก
ทางการทหารยังดำเนนการปิดกั้นข้อมูลข่าวสารด้วยการปิดการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตและเว็บไซต์สื่อสังคมหลายแห่งอยู่เป็นระยะๆ ทำให้ถูกวิจารณ์อย่างกว้างขวาง และชาวพม่าเริ่มกลัวกันมากขึ้นว่า กองทัพกำลังวางแผนใช้มาตรการแข็งกร้าวและยาวนานมากขึ้นในการบล็อกอินเทอร์เน็ต
มิโด องค์กรประชาสังคมด้านเทคโนโลยีในพม่า ทวิตว่า รัฐบาลทหารได้ส่งร่างกฎหมายความมั่นคงทางไซเบอร์ไปยังบริษัทโทรคมนาคมต่างๆ โดยร่างกฎหมายนี้จะอนุญาตให้กองทัพสั่งปิดอินเทอร์เน็ตและเว็บไซต์ รวมทั้งบังคับให้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียส่งมอบข้อมูลเมตาดาตาของผู้ใช้ให้กองทัพ
ทางด้านเทเลนอร์ บริษัทโทรคมนาคมสัญชาตินอร์เวย์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการสำคัญรายหนึ่งในพม่า เผยว่า กำลังตรวจสอบร่างกฎหมายดังกล่าว
(ที่มา : เอเอฟพี, รอยเตอร์, เอพี)
