xs
xsm
sm
md
lg

อับอายขายหน้า! โลกรุมประณามม็อบหนุนทรัมป์โจมตีประชาธิปไตยฮือบุก “สภา” กดดันเปลี่ยนผลเลือกตั้ง ไบเดนสับเป็นการ “ก่อกบฏ” (ชมคลิป)

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์





พันธมิตรของสหรัฐฯในยุโรป ออกคำแถลงด่วนในวันพุธ (6 ม.ค.) ประณามสถานการณ์ความยุ่งเหยิงในสหรัฐฯ หลังพวกผู้ประท้วงฝ่ายสนับสนุนทรัมป์ ฮือบุกอาคารรัฐสภา กดดันสภาคองเกรสไม่ให้รับรองชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีของ โจ ไบเดน ระบุ มันเป็นการโจมตีต่อระบอบประชาธิปไตย

บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรในวันพุธ (6 ม.ค.) ประณาม “สถานการณ์แห่งความอับอาย” ที่สภาคองเกรส จากฝีมือของพวกผู้สนับสนุนของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ส่วนรัฐบาลไอร์แลนด์ ตำหนิประธานาธิบดีผู้กำลังพ้นจากตำแหน่ง ว่ากำลังโจมตีประชาธิปไตย

“ฉากแห่งความอับอายในสภาคองเกรส สหรัฐฯยืนหยัดเพื่อประชาธิปไตยทั่วโลก และตอนนี้มันสำคัญยิ่งที่ต้องเปลี่ยนผ่านอำนาจอย่างสันติและเป็นระเบียบเรียบร้อย” จอห์นสันเขียนบนทวิตเตอร์

ด้าน โดมินิก ราบ รัฐมนตรีต่างประเทศของสหราชอาณาจักร ระบุในทวิตเตอร์ว่า “สหรัฐฯมีสิทธิ์ภาคภูมิใจในประชาธิปไตยของพวกเขา ไม่มีข้ออ้างใดในการใช้ความรุนแรง ในความพยายามกัดกร่อนกระบวนการถ่ายโอนอำนาจที่เหมาะสมและชอบด้วยกฎหมาย”

ไฮโก มาสส์ รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนีในวันพุธ (6 ม.ค.) เรียกผู้สนับสนุนประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ให้หยุดเหยียบย่ำประชาธิปไตย หลังจากพวกเขาบุกเข้าไปในอาคารรัฐสภา แสดงความโกรธแค้นที่ ทรัมป์ พ่ายแพ้ในศึกเลือกตั้ง


“ท้ายที่สุดแล้ว ทรัมป์และพวกผู้สนับสนุนควรยอมรับเสียงโหวตของชาวอเมริกาและหยุดเหยียบย่ำประชาธิปไตย ศัตรูของประชาธิปไตยคงยินดีที่เห็นภาพที่ไม่น่าเชื่อนี้เกิดขึ้นในวอชิงตัน ดี.ซี.” เขากล่าว พร้อมระบุว่า “คำพูดยั่วยุเปลี่ยนเข้าสู่พฤติกรรมรุนแรง”

โจเซฟ บอร์เรลล์ ประธานนโยบายต่างประเทศสหภาพยุโรปประณามเหตุการณ์นี้ว่า เป็น “การโจมตีประชาธิปไตย” พร้อมเขียนบนทวิตเตอร์ว่า “ในสายตาของโลก ดูเหมือนว่าในคืนนี้ประชาธิปไตยของสหรัฐฯถูกโจมตี มันเป็นฉากการโจมตีประชาธิปไตยของสหรัฐฯ สถาบันและหลักนิติธรรมของสหรัฐฯ แบบที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน มันไม่ใช่อเมริกา ต้องเคารพผลเลือกตั้งเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน”

ส่วนรัฐมนตรีต่างประเทศของฝรั่งเศส ประณาม “การโจมตีอย่างรุนแรงต่อประชาธิปไตย” ในสหรัฐฯ “ความรุนแรงต่อสถาบันต่างๆของอเมริกา คือ การโจมตีอย่างรุนแรงต่อระบอบประชาธิปไตย ผมขอประณาม ควรต้องเคารพคะแนนเสียงของประชาชนอเมริกา”

ทำเนียบขาวและเพนตากอน เปิดเผยว่า กำลังระดมกำลังกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิในวอชิงตันและรัฐเพื่อนบ้านทั้งหลาย หลังพวกผู้ประท้วงฝ่ายสนับสนุนทรัมป์บุกเข้าไปในอาคารรัฐสภา โดยโฆษกทำเนียบขาวระบุผ่านทวิตเตอร์ว่า ทรัมป์ สั่งการให้เรียกกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ เช่นเดียวกับหน่วยป้องกันรัฐบาลกลางอื่นๆ เข้าจัดการกับสถานการณ์ความไม่สงบ


ด้านโฆษกของเพนตากอน ระบุว่า กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิวอชิงตัน ดี.ซี. 1,100 นาย ถูกเรียกเข้าสนับสนุนเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายของรัฐบาลกลาง ส่วนเวอร์จิเนียและแมริแลนด์ ก็แถลงกำลังส่งกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิและตำรวจของทางรัฐ เข้าประจำการเช่นกัน

เสียงประณามจากทั่วโลกและความเคลื่อนไหวระดมกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิมีขึ้นหลังจากเกิดสถานการณ์ความตึงเครียดที่อาคารรัฐสภา พวกผู้ชุมนุมฝ่ายสนับสนุนประธานาธิบดี ทรัมป์ บุกเข้าไปภายใน มีภาพ ตำรวจในห้องประชุมเตรียมชักปืนยิง บรรดา ส.ส.สวมหน้ากากป้องกันแก๊ส พวกผู้ประท้วงทุบกระจกหน้าต่าง ในความพยายามกดดันไม่ให้สภาคองเกรสโหวตรับรองชัยชนะศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีของ โจ ไบเดน

ภาพสถานการณ์ภายในอาคารรัฐสภา ดูคล้ายกับฉากแห่งการรัฐประหารยึดอำนาจ พวกผู้สนับสนุนทรัมป์โบกธงสีน้ำเงินและสวมหมวกสีแดง บุกเข้าไปภายใน มุ่งตรงไปยังห้องประชุมกำลังเปิดอภิปรายก่อนการโหวตรับรอง ไบเดน และภาพในทวิตเตอร์ที่ส่งต่ออย่างกว้างขวาง พบเห็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยรายหนึ่งเล็งปืนสั้นออกไปนอกหน้าต่างที่แตก คอยหยุดยั้งใครก็ตามที่พยายามบุกเข้ามา

พวกสมาชิกรัฐสภาได้รับมอบหน้ากากแก๊สสำหรับป้องกันตนเองจากแก๊สน้ำตา ในระหว่างที่พวกเขารุดหนีไปยังจุดปลอดภัย


สำหรับพวกที่กำลังหลบหนี ต้องเร่งรีบแข่งกับเวลา เพราะพวกผู้ประท้วงบุกเข้าไปภายในอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ พวกผู้ประท้วงบางส่วนยังถึงขั้นบุกเข้าไปในสำนักงานของ แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎร พร้อมกับนั่งทำท่าล้อเลียนเธอบนโต๊ะ “ผมไม่เคยพบเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน นับตั้งแต่ผมไปประจำการในอิรัก” ไมค์ กัลลาเกอร์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากรีพับลิกันบอกกับซีเอ็นเอ็น

ทรัมป์ เคยพูดมาตลอดว่าเขาอยากสกัดไม่ให้สภาคองเกรสรับรองอย่างเป็นทางการต่อชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีของไจ ไบเดน ในวันพุธ (6 ม.ค.) แต่ไม่มีทางที่เขาจะทำได้อย่างถูกกฎหมาย

ประธานาธิบดี ทรัมป์ พยายามข่มขู่ ไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีของเขา แต่ เพนซ์ ตอกกลับว่าเขาไม่มีอำนาจตามรัฐธรรมนูญ และกฎระเบียบระบุไว้อย่างชัดเจน ดังนั้นพวกผู้สนับสนุนทรัมป์จึงเข้าแทรกแซง อย่างน้อยๆ ก็ทำให้กระบวนการหยุดชะงักชั่วคราว แต่ขณะเดียวกัน มันก็ทำให้ประชาธิปไตยสั่นคลอน

ทรัมป์ ปราศรัยกับพวกผู้ชุมนุมนานกว่า 1 ชั่วโมง ที่อุทยานเนชั่นแนล มอลล์ ตอกย้ำคำกล่าวอ้างโกงเลือกตั้งและผุดทฤษฎีสมคบคิดต่างๆ นานา ว่า ทำไมเขาควรยังคงเป็นประธานาธิบดี แม้พ่ายแพ้ศึกเลือกตั้งเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน จากนั้น ทรัมป์ ก็ยุให้พวกเขาเดินขบวนไปสภาคองเกรส


ไม่กี่นาที ม็อบได้ไหลบ่าไปเต็มขั้นบันไดหน้าอาคารรัฐสภา จากนั้นฝูงชนหัวรุนแรงกลุ่มเล็กๆ เกิดการกระทบกระทั่งกับตำรวจ ผลักดันเจ้าหน้าที่จนล่าถอยไป และท้ายที่สุดแล้วก็บุกเข้าไปภายในได้สำเร็จ

หลังเกิดเหตุบุกจู่โจมเข้าไปในอาคารรัฐสภา ทรัมป์ ได้แพร่คลิปวิดีโอความยาว 1 นาที บนทวิตเตอร์ เรียกร้องผู้สนับสนุน “กลับบ้าน” แม้ขณะเดียวกัน ก็ตอกย้ำคำกล่าวหาว่าชัยชนะในศึกเลือกตั้งของไบเดนนั้น เป็นการปล้นชัย

“ผมรู้ความเจ็บปวดของคุณ เรามีการเลือกตั้งที่ขโมยผลการเลือกตั้งไปจากเรา แต่คุณต้องกลับบ้านในตอนนี้ เราจำเป็นต้องมีสันติภาพ เราจำเป็นต้องมีความสงบเรียบร้อย”

ด้านว่าที่ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ประณามการจู่โจมอาคารรัฐสภา ว่า เป็นการก่อกบฏและเรียกร้องทรัมป์ ออกโทรทัศน์ เรียกร้องผู้สนับสนุนยุติการปิดล้อม “ในตอนนี้ ประชาธิปไตยของเราถูกโจมตีอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน” เขากล่าวในวิลมิงตัน

“ผมเรียกร้องให้ประธานาธิบดี ทรัมป์ ออกสถานีโทรทัศน์แห่งชาติในตอนนี้ เพื่อเรียกร้องขอยุติการปิดล้อม ยุติการบุกอาคารรัฐสภา ทุบตีกระจก ยุติบุกยึดสำนักงานต่างๆ ห้องประชุมวุฒิสภา การคุกความความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ที่ได้รับเลือกตั้ง มันไม่ใช่การประท้วง แต่มันเป็นกบฏ”

(ที่มา:เอเอฟพี)




กำลังโหลดความคิดเห็น