ได้ข่าวอะไรมา! กลุ่มอดีต รมว.กลาโหมสหรัฐฯ เตือนทหารอย่ายุ่ง หลังทรัมป์หาทางขวางไบเดนเข้าสู่อำนาจ

บรรดาอดีตรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ เมื่อวันอาทิตย์ (3 ม.ค.) แสดงความเห็นในบทความชิ้นหนึ่งที่เผยแพร่ในหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ ระบุทหารไม่ควรมีบทบาทในความพยายามของโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ต้องการขัดขวางการถ่ายโอนอำนาจสู่ว่าที่ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ชี้ ความเกี่ยวข้องใดๆ ในข้อพิพาทศึกเลือกตั้ง จะลากอเมริกาเข้าสู่อันตราย

กลุ่มอดีตรัฐมนตรีกลาโหม 10 คน ทั้งจากรัฐบาลรีพับลิกันและเดโมแครต ในนั้นรวมถึง มาร์ค เอสเปอร์ ซึ่งเพิ่งถูกทรัมป์ไล่ออกในเดือนพฤศจิกายน และ เจมส์ แมตทิส ที่ลาออกในเดือนกุมภาพันธ์ปีก่อน ท่ามกลางปมขัดแย้งต่างๆ นานากับทรัมป์ ระบุว่า ถึงเวลาแล้วที่ต้องยอมรับว่า ประธานาธิบดีรีพับลิกันเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในศึกเลือกตั้งเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน และ ไบเดน จะสืบทอดอำนาจต่อจากเขาในวันที่ 20 มกราคม

“การเลือกตั้งของเราเกิดขึ้นแล้ว มีการนับคะแนนใหม่และตรวจสอบ การคัดค้านต่างๆ ได้รับการพิจารณาอย่างเหมาะสมโดยศาล พวกผู้ว่าการรัฐรับรองผล และคณะผู้เลือกตั้งก็โหวตเลือกประธานาธิบดีแล้ว” กลุ่มอดีตรัฐมนตรีกลาโหม 10 คนระบุในบทความ “เวลาของการตั้งคำถามเกี่ยวกับผลการเลือกตั้งผ่านพ้นไปแล้ว”

ทางกลุ่ม ยังรวมไปถึง ดิก เชนีย์ อดีตรัฐมนตรีกลาโหม ซึ่งเคยดำรงตำแหร่งรองประธานาธิบดีในสมัยประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู.บุช และ โดนัลด์ รัมส์เฟลด์ ซึ่งนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมครั้งแรกในสมัยประธานาธิบดี เจอรัลด์ ฟอร์ด และอีกครั้งในสมัยของประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู.บุช

ในบทความ ทางกลุ่มเรียกร้อง คริสโตเฟอร์ มิลเลอร์ รักษาการรัฐมนตรีกลาโหมในปัจจุบัน อดทนอดกลั้นจากการเข้าไปมีบทบาทใดๆ ในความพยายามของทรัมป์ที่ต้องการยึดครองเก้าอี้ประธานาธิบดีไว้ต่อไป และขอให้เขาช่วยเหลือกระบวนการเปลี่ยนถ่ายอำนาจของว่าที่รัฐบาลจากพรรคเดโมแครต

“ความพยายามดึงกองทัพสหรัฐฯเข้าพัวพันในการแก้ปัญหาข้อพิพาทของศึกเลือกตั้งจะนำพาเราสู่อาณาเขตที่อันตราย ไม่ชอบด้วยกฎหมายและไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ” พวกเขาเขียน “เจ้าหน้าที่พลเรือนและเจ้าหน้าที่ทหาร ผู้ที่สั่งการหรือดำเนินการต่างๆดังกล่าวจะต้องรับผิดชอบ ในนั้นรวมถึงความเป็นไปได้ที่ต้องเผชิญบทลงโทษทางอาญา”

ทั้งนี้ อดีตรัฐมนตรีกลาโหมคนอื่นๆ ที่ร่วมลงชื่อในบทความดังกล่าว ยังประกอบไปด้วย แอชตัน คาร์เตอร์, วิลเลียม โคเฮน, โรเบิร์ต เกตส์, ชัค ฮาเกล, ลีออน พาเนตตา และ วิลเลียม เพอร์รี

ไบเดน ระบุในช่วงกลางเดือนธันวาคม ว่า เจ้าหน้าที่เพนตากอนบางราย เพิกเฉยไม่ยอมให้ข้อมูลที่จำเป็นเพื่อรับประกันว่าการเปลี่ยนผ่านอำนาจจะเป็นไปอย่างราบรื่น แต่ทางรักษาการ มิลเลอร์ ปฏิเสธว่าไม่ได้มีปัญหาใดๆ

ก่อนหน้านี้ ทั้งนิวยอร์กไทมส์, ซีเอ็นเอ็น และวอลล์สตรีทเจอร์นัล เคยรายงานว่า ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ที่เก็บตัวเงียบเชียบผิดวิสัยนับตั้งแต่โจ ไบเดน คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต ได้รับการประกาศจากสื่อใหญ่ๆ ทุกสำนักว่าชนะการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน ได้นัดหมายเหล่าที่ปรึกษาไปหารือกันในห้องทำงานรูปไข่ของทำเนียบขาวเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม ที่ผ่านมา เกี่ยวกับวิธีการใหม่ๆ ในการยื้อหรือเปลี่ยนผลการเลือกตั้ง

รายงานหลายชิ้นระบุว่า ในการประชุมดังกล่าวมีการนำเสนอไอเดียสุดโต่งต่างๆ เช่น ประกาศกฎอัยการศึก ส่งทหารคุมรัฐสมรภูมิสำคัญๆ และจัดการเลือกตั้งใหม่ แต่ถูกคัดค้าน

(ที่มา:รอยเตอร์)