โจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯในวันจันทร์ (16 พ.ย.) แสดงความผิดหวังที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ปฏิเสธให้ความร่วมมือในกระบวนการถ่ายโอนอำนาจทำเนียบขาว ระบุ “จะมีคนตายจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่มากขึ้นไปอีก” หากไม่ยอมร่วมมือในทันทีทันใดในการต่อสู้กับโรคระบาดใหญ่ที่กำลังแพร่ระบาดอย่างหนัก
ไบเดน ประกาศเป็นผู้ชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีวันที่ 3 พฤศจิกายน แต่ ทรัมป์ ปฏิเสธความพ่ายแพ้ และจนถึงตอนนี้ รัฐบาลของเขายังไม่ยอมรับอย่างเป็นทางการว่าตัวแทนจากพรรคเดโมแครตเป็นว่าที่ประธานาธิบดี นั่นทำให้ ไบเดนและคณะทำงานของเขา ไม่สามารถประสานงานกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลในประเด็นต่างๆ ที่มีความสำคัญยิ่ง อาทิ ด้านความมั่นคงแห่งชาติ รวมไปถึงสถานการณ์ฉุกเฉินต่างๆ อย่างเช่นแผนแจกจ่ายวัคซีนโควิด-19 แก่ประชาชนชาวอเมริกาหลาย 10 ล้านคน
เมื่อถูกถามระหว่างการแถลงข่าว เกี่ยวกับภัยคุกคามใหญ่หลวงที่สุดจากกรณีที่ทรัมป์ขัดขวางการถ่ายโอนอำนาจอย่างราบรื่น ไบเดน ตอบว่า “จะมีคนตายมากยิ่งขึ้น หากว่าเราไม่ร่วมมือกัน” ในการแจกจ่ายวัคซีนอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
“หากเราว่าต้องรอจนถึงวันที่ 20 มกราคม (วันสาบานตน) สำหรับเริ่มแผน มันจะทำให้เราล่าช้าเป็นเดือน ราวๆ เดือนครึ่ง” ไบเดนบอกกับผู้สื่อข่าวจากวิลมิงตัน เมืองบ้านเกิด ในรัฐเดลาแวร์ “ดังนั้น มันจึงสำคัญยิ่งที่ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จ และต้องมีการประสานงานความร่วมมือในตอนนี้เลย”
พวกผู้เชี่ยวชาญหลายคน ในนั้นรวมถึงอดีตเจ้าหน้าที่ในรัฐบาลของทรัมป์ ต่างส่งเสียงเตือนว่าการที่ประธานาธิบดีผู้ซึ่งกำลังพ้นจากตำแหน่ง ปฏิเสธให้ความร่วมมือในกระบวนการเปลี่ยนถ่ายอำนาจ อาจก่อผลลัพธ์หายนะเลวร้ายต่อประเทศ ที่กำลังเผชิญกับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่เขายังคงเดินหน้ายื่นคัดค้านผลการเลือกตั้งในศาล
สหรัฐฯพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มอีก 1 ล้านคน ภายในไม่ถึง 1 สัปดาห์ ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมในเวลานี้เพิ่มเป็นมากกว่า 11 ล้านคน ในนั้นเสียชีวิต 246,000 ราย สูงที่สุดในโลกทั้ง 2 กรณี
สถานการณ์ในสหรัฐฯดูท่าจะเลวร้ายลงไปอีก เมื่อ สกอตต์ อัตลาส ที่ปรึกษาด้านสาธารณสุขของทรัมป์ ซึ่งไม่มีคุณสมบัติหรือประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับงานด้านสาธารณสุขหรือโรคติดต่อใดๆ ได้ยุประชาชนในมิชิแกน ลุกฮือต่อต้านมาตรการสกัดโควิด-19 แทนที่จะให้ความร่วมมือกับทุกความพยายามที่กำลังต่อสู้เพื่อเอาชนะโรคระบาดใหญ่นี้ให้ได้
“เกิดอะไรขึ้นกับคนพวกนี้?” ไบเดนกล่าว “มันไร้ความรับผิดชอบสิ้นดี”
คำแถลงของ ไบเดน มีขึ้นหลังจาก โมเดอร์นา ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพของสหรัฐฯ เปิดเผยว่าผลการทดลองวัคซีนต้านไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ในเฟสที่ 3 พบว่า วัคซีนดังกล่าวมีประสิทธิภาพในการป้องกันโควิด-19 มากกว่า 94%
ไบเดน บอกว่า เขาเองจะรับวัคซีนดังกล่าว เช่นเดียวกับอีกตัวที่พัฒนาโดยไฟเซอร์ หากว่านายแทพย์แอนโธนี เฟาซี ผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติสหรัฐฯ ประกาศว่า มันมีความปลอดภัย “ผมจะไม่รีรอเข้ารับวัคซีน หากว่านายแพทย์เฟาซี และ 2 บริษัทเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็น โมเดอร์นา หรือ ไฟเซอร์ ซึ่งมีความรับผิดชอบอย่างที่สุด สรุปว่ามันมีความปลอดภัยและสามารถใช้การได้”
“ในเวลานี้เหตุผลเดียวที่ผู้คนตั้งคำถามเกี่ยวกับวัคซีน ก็เพราะโดนัลด์ ทรัมป์” ไบเดน วัย 78 ปีกล่าว
(ที่มา: เอเอฟพี)