เอเจนซีส์ - ยอดผู้ติดโรคโควิด-19 ในอเมริกาทะลุ 11 ล้านคนแล้ว โดยจำนวน 1 ล้านล่าสุดใช้เวลาเพียง 6 วัน นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่หน่วยอารักขาผู้นำกว่า 130 คนติดเชื้อไวรัสโคโรนาหรือถูกกักกันโรค โดยหลายคนในจำนวนนี้ติดตามทรัมป์ระหว่างการหาเสียงและการจัดงานในทำเนียบขาวที่ผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่ไม่สวมหน้ากาก ขณะเดียวกัน WHO เผยว่า ตัวเลขทั้งผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตทั่วโลก ต่างพุ่งพรวดทำสถิติใหม่
สหรัฐฯมีผู้ติดโรคโควิด-19 แตะ 10 ล้านคนเมื่อวันจันทร์ที่แล้ว (8 พ.ย.) และจากข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์นส์ ฮอปกินส์ระบุว่า เมื่อเวลา 20.30 น. วันอาทิตย์ (15) หรือ 6 วันต่อมา จำนวนผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันเพิ่มเป็น 11,025,046 คน ส่วนผู้เสียชีวิต 246,108 คน สูงที่สุดในโลกในทั้งสองหมวด
จำนวนผู้ติดเชื้อในอเมริกากำลังเพิ่มขึ้นอย่างน่ากังวลตั้งแต่ต้นเดือนนี้ บีบให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นและรัฐต่างๆ ต้องยกระดับมาตรการสกัดการแพร่ระบาด ขณะที่โรงพยาบาลหลายแห่งเตือนว่า ทรัพยากรใกล้หมด
ชิคาโก เมืองใหญ่อันดับ 3 ของสหรัฐฯ เริ่มประกาศแนะนำให้ประชาชนอยู่บ้านตั้งแต่วันจันทร์ (16) ส่วนเมืองใหญ่อันดับ 1 อย่าง นิวยอร์ก ซึ่งเคยเป็นศูนย์กลางการระบาดระลอกแรกในอเมริกา ก็ออกมาตรการควบคุมใช้กับบาร์และร้านอาหารอีกครั้งเพื่อป้องกันการระบาดรอบสอง โดยที่ บิลล์ เดอ บลาสิโอ นายกเทศมนตรี เตือนว่า อาจต้องปิดโรงเรียน และกลับไปใช้ระบบเรียนทางไกลอีกครั้ง
ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังคงให้สัญญาเมื่อวันศุกร์ (13) ว่า ชาวอเมริกันจะได้รับวัคซีนต้านไวรัสโคโรนาในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า และย้ำว่า ไม่เห็นด้วยกับมาตรการล็อกดาวน์
ขณะที่ รอน เคลน ประธานคณะเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวของว่าที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เตือนว่า การที่ทรัมป์ไม่ยอมให้ความร่วมมือในการถ่ายโอนอำนาจ จะส่งผลต่อความสามารถของคณะบริหารไบเดนในการรับมือความท้าทายจากวิกฤตโรคระบาด
เวลานี้ ไบเดนและทีมงานไม่ได้รับอนุญาตให้หารือกับผู้เชี่ยวชาญของรัฐบาล อาทิ แอนโทนี ฟาวซี ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อ ขณะที่ฟาวซีเห็นด้วยว่า จะเป็นการดีกว่า ถ้าสามารถเริ่มหารือกับทีมงานของไบเดนได้ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า อาจมีคนอเมริกันตายอีกนับหมื่นกว่าที่ไบเดนจะเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม
ขณะเดียวกัน หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์รายงานเมื่อวันศุกร์ว่า หน่วยอารักขาผู้นำและบุคคลสำคัญของสหรัฐฯ (ซีเคร็ต เซอร์วิส) ที่รักษาความปลอดภัยให้ทรัมป์ ไบเดน และทำเนียบขาว มีเจ้าหน้าที่ถึงกว่า 130 คนติดโควิดหรือถูกกักตัวเนื่องจากสัมผัสผู้ติดเชื้อ
การติดเชื้อกันเป็นจำนวนมากเช่นนี้เกิดขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่หลายคนเดินทางไปอารักขาทรัมป์ขณะออกรณรงค์หาเสียงซึ่งเจ้าหน้าที่ทีมทรัมป์จำนวนมากและผู้ฟังการปราศรัยส่วนใหญ่ไม่สวมหน้ากากป้องกัน ตลอดจนหลังจากพวกเขาต้องปฏิบัติหน้าที่ในงานต่างๆ ที่ทรัมป์จัดในทำเนียบขาวในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งก็รวมถึงงานเลี้ยงคืนวันเลือกตั้ง 3 พฤศจิกายน ที่แขกส่วนใหญ่ก็ไม่สวมหน้ากากเช่นเดียวกัน
หลังจากงานเหล่านั้น เจ้าหน้าที่ของทรัมป์หลายคน ซึ่งรวมถึง มาร์ก มิโดว์ส ประธานเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวของทรัมป์ ถูกตรวจพบว่าติดโควิด
ทางด้านหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์รายงานว่า เจ้าหน้าที่หน่วยอารักขาในเครื่องแบบอย่างน้อย 30 คนติดโควิดในระหว่างการระบาด “ต่อเนื่อง” ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา และอีก 60 คนได้รับคำสั่งให้กักตัว นับเป็นการระบาดระลอกล่าสุดในหมู่เจ้าหน้าที่หน่วยอารักขาตั้งแต่ที่โควิด-19 ระบาดในอเมริกา
เมื่อเดือนมิถุนายน เจ้าหน้าที่หน่วยอารักขาหลายคนก็ต้องกักตัวหลังจากทรัมป์หาเสียงในเมืองทัลซา รัฐโอกลาโฮมา และเกิดเหตุการณ์เดียวกันอีกครั้งหลังทรัมป์ปราศรัยในเมืองแทมปา รัฐฟลอริดาในเดือนถัดมา และพบผู้ติดเชื้อ 19 คน นอกจากนี้ยังมีการระบาดในศูนย์ฝึกเจ้าหน้าที่หน่วยอารักขาในรัฐแมริแลนด์
อย่างไรก็ดี เมื่อถูกสอบถามเกี่ยวกับรายงานล่าสุด จูลี แมคเมอร์เรย์ โฆษกหน่วยอารักขาเผยว่า จะไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเรื่องการติดโควิดเนื่องจากเหตุผลทั้งด้านความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยในการปฏิบัติภารกิจ
นอกจากผู้ติดเชื้อรายใหม่ในอเมริกากำลังทะยานทำสถิติแล้ว องค์การอนามัยโลก (WHO) ยังเปิดเผยว่า ผู้ติดเชื้อรายวันในทั่วโลกก็ขึ้นทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่ด้วยจำนวน 660,905 คนเมื่อวันเสาร์ (14) เพิ่มขึ้นจาก 645,410 คนในวันศุกร์ โดยที่สถิติเดิมก่อน 2 วันดังกล่าวนี้ ทำไว้เมื่อวันที่ 7 ที่ผ่านมาที่ 614,013 คน
เฉพาะวันเสาร์ อเมริกาเป็นภูมิภาคที่พบเคสใหม่เพิ่มขึ้นมากที่สุดคือ 269,225 คน
นอกจากนั้นฮูยังได้รับรายงานจำนวนผู้เสียชีวิตทั่วโลก 9,928 คนในวันพฤหัสฯ (12), 9,567 คนในวันศุกร์ และ 9,924 คนในวันเสาร์ นับเป็นครั้งแรกที่มีผู้เสียชีวิตเกิน 9,500 คนติดต่อกัน 3 วัน
สถิติผู้เสียชีวิตในวันพฤหัสฯ ยังถือเป็นตัวเลขสูงสุดนับจากวันที่ 15 สิงหาคมที่มีผู้เสียชีวิต 10,012 คน และเป็นสถิติรายวันสูงสุดอันดับ 3 นับจากไวรัสโคโรนาเริ่มระบาดเมื่อปลายปีที่แล้ว แม้ว่าสถิติก่อนหน้านี้ดูเหมือนเป็นการเพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติก็ตาม
WHO สำทับว่า ขณะนี้ทั่วโลกมีผู้ได้รับการยืนยันติดเชื้อแล้วกว่า 53.7 ล้านคน และเสียชีวิตกว่า 1.3 ล้านคน
เทดรอส แอดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการ WHO ยังเตือนไว้เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า ยังต้องใช้เวลาอีกนานกว่าที่จะสามารถควบคุมการระบาดได้
