xs
xsm
sm
md
lg

การเมืองส่อซ้ำเติมวิกฤต สหรัฐฯ สาหัสติดเชื้อโควิดทะลุ 11 ล้านคน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ยอดติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ทะลุ 11 ล้านคนในวันอาทิตย์ (15 พ.ย.) จากตัวเลขของมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์ หลังพบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 1 ล้านคนภายในเวลาไม่ถึงสัปดาห์ ทั้งนี้ มีรายงานว่าโรงพยาบาลหลายแห่งเริ่มขาดแคลนทรัพยากรในการรับมือกับโรคระบาดใหญ่ ขณะที่ปัญหาชะงักงันเกี่ยวกับการถ่ายโอนอำนาจ ส่อส่งผลกับการบริหารจัดการวิกฤตของประธานาธิบดีคนใหม่

การเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ เกิดขึ้นในขณะที่เมืองและรัฐต่างๆ ทั่วสหรัฐฯ ต้องหันมาบังคับใช้ข้อจำกัดต่างๆ รอบใหม่ในความพยายามสกัดการแพร่ระบาดของไวรัส โดยในนั้นรวมถึงที่ชิคาโก ที่ได้ออกคำสั่งหยุดอยู่บ้านตั้งแต่วันจันทร์ (16 พ.ย.) เป็นต้นไป

สหรัฐฯ เพิ่งมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เกิน 10 ล้านคนไปเมื่อวันจันทร์ที่ 9 พฤศจิกายนที่ผ่านมา แต่จนถึง 20.30 น.ของวันอาทิตย์ (15 พ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น หรืออีก 6 วันต่อมา การติดตามแบบเรียลไทม์ของมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์ ยืนยันว่าจำนวนผู้ติดเชื้อทั่วประเทศ อยู่ที่ 11,025,046 คน

นอกจากผู้ติดเชื้อแล้ว ยังมีผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในสหรัฐฯ 246,108 คน สูงที่สุดในโลกทั้งสองกรณี

อเมริกาพบเห็นการเพิ่มขึ้นอย่างน่ากังวลของเคสผู้ติดเชื้อโควิด-19 นับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน กดดันให้เจ้าหน้าที่ระดับท้องถิ่นและระดับรัฐ ต้องใช้มาตรการเข้มข้นขึ้นเพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส ในขณะที่โรงพยาบาลหลายแห่งเตือนว่าทรัพยากรของพวกเขาเริ่มขาดแคลนแล้ว

นอกเหนือจากคำสั่งหยุดอยู่บ้านในชิคาโก เมืองใหญ่สุดอันดับ 3 ของสหรัฐฯ แล้ว ในนิวยอร์กซึ่งเป็นเมืองใหญสุดของประเทศและเคยเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงฤดูใบไม้ผลิก็ต้องเร่งรีบสกัดการแพร่ระบาดระลอกสองเช่นกัน โดยมีการออกข้อจำกัดใหม่กับบาร์และร้านอาหารต่างๆ

สถาบันการศึกษาในนิวยอร์กจะยังคงเปิดการเรียนการสอนตามปกติในวันจันทร์ (16 พ.ย.) แม้ บิล เดอ บราซิโอ นายกเทศมนตรีของเมือง เคยเตือนว่าอาจมีการปรับเปลี่ยนเป็นการเลียนแบบทางไกลแทนก็ตาม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ให้สัญญาในวันศุกร์ (13 พ.ย.) ว่าอเมริกันกลุ่มแรกๆ จะเริ่มได้รับวัคซีนโควิด-19 ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า แต่เขายังคงต่อต้านอย่างแข็งกร้าวต่อการล็อกดาวน์รอบใหม่ มาตรการที่บังคับใช้ในยุโรป ทวีปที่จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นไม่หยุดเช่นกัน

ประเด็นบริหารจัดการวิกฤตโควิด-19 ในสหรัฐฯ ต้องเจอปัญหาแทรกซ้อนเพิ่มเติม เมื่อ ทรัมป์ ไม่ยอมให้ความร่วมมือในการถ่ายโอนอำนาจแก่คณะบริหารของว่าที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ทำให้ ไบเดน ไม่สามารถเข้าถึงพื้นที่และทรัพยากรต่างๆ ของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การเปลี่ยนผ่านคณะบริหารของทำเนียบขาวเป็นไปอย่างราบรื่น

สมาชิกเดโมแครตและหัวหน้าคณะทำงานของไบเดน บอกว่าปัญหาดังกล่าว อาจก่อผลกระทบต่อศักยภาพของไบเดน ในการรับมือกับความท้าทายอันเลวร้ายและหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ จากโรคระบาดใหญ่โควิด-19 เมื่อครั้งที่เขาเข้ารับตำแหน่ง

ปัจจุบัน ไบเดนและคณะทำงานของเขา ไม่ได้รับอนุญาตแม้กระทั่งปรึกษาหารือกับคณะผู้เชี่ยวชาญทั้งหลาย อาทิ นพ.แอนโธนี เฟาซี ผู้อำนวยการสถาบันภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งชาติสหรัฐฯ ซึ่งยังคงเป็นส่วนหนึ่งของคณะทำงานเฉพาะกิจด้านการควบคุมโควิด-19 ของทำเนียบขาว

“แน่นอน มันคงดีกว่า หากว่าการพูดคุยสามารถเริ่มขึ้นได้” เฟาซีบอกกับซีเอ็นเอ็นเมื่อวันอาทิตย์ (15 พ.ย.) พร้อมชี้ว่าไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่อาจคร่าชีวิตอเมริกันอีกหลายหมื่นคน ก่อนที่ ไบเดน จะเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 มกราคม

(ที่มา : เอเอฟพี)


กำลังโหลดความคิดเห็น