เอเจนซีส์ - “ทรัมป์” หลุดยอมรับ “ไบเดน” ชนะ ก่อนกลับลำแก้เกี้ยวว่ามีแต่สื่อขายข่าวปลอมเท่านั้น ที่ยอมรับชัยชนะดังกล่าว พร้อมโวตามฟอร์มเดิมว่าเตรียมฟ้องคดีใหญ่พลิกคะแนนเลือกตั้งเร็วๆ นี้ รวมทั้งทวิตชมลิ่วล้อที่ยังเตะถ่วงการถ่ายโอนอำนาจ
เช้าวันอาทิตย์ (15 พ.ย.) ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เผลอยอมรับชัยชนะของ โจ ไบเดน คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต ด้วยการทวีตว่า “เขาชนะเพราะโกงการเลือกตั้ง” ก่อนรู้สึกตัวและทวีตใหม่ว่า “เขาชนะในสายตาสื่อที่ขายข่าวปลอมเท่านั้น ผมไม่ยอมรับอะไรทั้งสิ้น! เรายังต้องสู้กันอีกยาว”
คืนวันเดียวกัน ทรัมป์ยังทวีตว่า “ผมชนะการเลือกตั้ง” และถูกทวิตเตอร์ขึ้นเครื่องหมายเตือนอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ ถึงแม้การนับคะแนนยังไม่เสร็จสิ้นและผ่านการรับรองอย่างเป็นทางการ แต่สื่อใหญ่ๆ อเมริกันได้ทำตามธรรมเนียมที่ปฏิบัติและยอมรับกันมาอย่างยาวนานในสหรัฐฯ กล่าวคือ เมื่อเห็นว่าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดมีคะแนนนำในแบบที่คู่แข่งไม่มีโอกาสพลิกกลับมาชนะแล้ว ก็จะฟันธงขานชื่อให้ฝ่ายนั้นเป็นผู้ชนะไป โดยปรากฏว่า พวกเขาต่างพากันฟันธงให้ไบเดนเป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง ภายหลังได้คะแนนคณะผู้เลือกตั้งไปเกินกว่าครึ่งหนึ่งแล้วตั้งแต่วันที่ 7 ที่ผ่านมา ยิ่งมาถึงเวลานี้เมื่อผู้สมัครของพรรคเดโมแครตผู้นี้ ยังมีชัยเพิ่มขึ้นอีกในหลายรัฐที่คะแนนค่อนข้างคู่คี่ ทำให้ตอนนี้สื่อระบุว่าเขาได้คะแนนจากคณะผู้เลือกตั้งในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 3 ไปแล้วรวม 306 เสียง เกินเกณฑ์ที่ต้องการสำหรับตำแหน่งประธานาธิบดีถึง 36 เสียง
นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่เลือกตั้งทั้งของรัฐบาลกลางและรัฐต่างๆ รวมถึงหน่วยงานด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ และอัยการรัฐบาล 16 คน ที่ได้รับมอบหมายให้ติดตามการเลือกตั้ง ตลอดจนถึงเจ้าหน้าที่การเลือกตั้งทั้งของรีพับลิกันและเดโมแครต ต่างลงความเห็นว่า ไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่า มีการโกงการเลือกตั้งอย่างมโหฬารตามที่ทีมหาเสียงของทรัมป์กล่าวหา
ขณะเดียวกัน ผู้นำเกือบทุกประเทศทั่วโลกต่างแสดงความยินดีกับชัยชนะของไบเดน ตอกย้ำว่า แทบจะไม่มีใครเลยทั้งในอเมริกาและประเทศอื่นๆ ที่เห็นว่า การฟ้องร้องของทรัมป์มีความเป็นไปได้ที่จะพลิกเกม
แต่แม้การยื่นฟ้องในคดีต่างๆ ที่ทีมทรัมป์กระทำมา ต่างถูกยกฟ้องโดยผู้พิพากษาเกือบทุกคนระบุว่าเป็นคำฟ้องที่ไม่มีมูล กระนั้นเมื่อวันอาทิตย์ ทรัมป์ยังคงโวว่า ทีมหาเสียงของเขาจะฟ้องคดีใหญ่เร็วๆ นี้
รอน เคลน ซึ่งไบเดนแต่งตั้งให้เป็นประธานเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวของเขา ให้สัมภาษณ์รายการมีต เดอะ เพรสส์ ของเครือข่ายโทรทัศน์เอ็นบีซี เมื่อวันอาทิตย์ (15) ว่า “ทวีตหลุด” ของทรัมป์ตอกย้ำความจริงว่า ไบเดนชนะการเลือกตั้ง และเสริมว่า ไบเดนกำลังจะขึ้นเป็นประธานาธิบดีขณะที่อเมริกาอยู่ท่ามกลางวิกฤต ดังนั้น การถ่ายโอนอำนาจควรเป็นไปอย่างราบรื่น
เคลนยกตัวอย่างว่า ไบเดนและทีมงานไม่ได้รับอนุญาตให้หารือกับ นพ.แอนโทนี ฟาวซี ผู้เชี่ยวชาญระดับสูงด้านโรคติดเชื้อของรัฐบาล ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในอเมริกาล่าสุดพุ่งทะลุ 11 ล้านคนแล้ว
ด้านฟาวซีให้สัมภาษณ์ซีเอ็นเอ็นในวันเดียวกัน โดยเห็นด้วยว่า จะเป็นการดีกว่า ถ้าสามารถเริ่มหารือกับทีมงานของไบเดนได้ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า อาจมีคนอเมริกันตายอีกนับหมื่นกว่าที่ไบเดนจะเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม
ทั้งนี้ จนถึงขณะนี้ ทรัมป์ยังไม่ยอมร่วมมือในการถ่ายโอนอำนาจให้ทีมงานไบเดน ขณะที่สำนักบริหารงานบริการทั่วไป (จีเอสเอ) ของคณะบริหารของเขา ไม่ให้การยอมรับไบเดนในฐานะประธานาธิบดีที่ได้รับการเลือกตั้ง ทำให้ทีมงานของไบเดนไม่สามารถเข้าถึงสถานที่ทำงานและเงินสนับสนุนของรัฐบาลสำหรับการถ่ายโอนอำนาจ รวมทั้งการได้รับบรรยายสรุปข้อมูลข่าวกรองลับ แม้เดโมแครตและผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากเตือนว่า การขัดขวางของทรัมป์จะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศและการรับมือความท้าทายจากวิกฤตโรคระบาดก็ตาม
ล่าสุด ทรัมป์ทวีตโดยไม่พาดพิงการผ่องถ่ายอำนาจโดยตรง แต่ชม เอมิลี เมอร์ฟี ที่เขาแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการจีเอสเอว่า “ทำดีมาก เอมิลี!”
สมาชิกพรรครีพับลิกันในรัฐสภาบางคน และอดีตสมาชิกคณะบริหารของทรัมป์ ซึ่งรวมถึง จอห์น โบลตัน อดีตที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติที่ตั้งป้อมวิจารณ์ทรัมป์นับจากถูกทรัมป์สั่งปลด เรียกร้องให้ทำเนียบขาวยอมให้ทีมถ่ายโอนอำนาจของไบเดนเข้าถึงข้อมูลมากขึ้นเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการบริหารประเทศ
ทางด้านเคลนได้สำทับว่า วิกฤตสาธารณสุขในเวลานี้เป็นประเด็นที่ไบเดนกังวลอย่างมาก โดยทีมที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์จะพบหารือกับไฟเซอร์และบริษัทยาอื่นๆ ในสัปดาห์นี้เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับโครงการโลจิสติกส์ขนาดใหญ่ในการแจกจ่ายวัคซีนป้องกันไวรัสโคโรนา ซึ่งกลายเป็นเชื้อมรณะที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตในอเมริกากว่า 245,000 ล้านคน ทั้งยังทำให้คนนับล้านตกงาน
นอกจากนั้น ไบเดนยังมีกำหนดปราศรัยเกี่ยวกับการฟื้นเศรษฐกิจในวันจันทร์ (16)