เอเจนซีส์ - ‘ไบเดน’ รับปากผู้นำยุโรป อเมริกาจะกลับมาร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อจัดการปัญหาต่างๆ เช่น โรคระบาดและสิ่งแวดล้อม ขณะเดียวกันก็ชี้ว่าการที่ ‘ทรัมป์’ ไม่ยอมรับความพ่ายแพ้เป็นเรื่องน่าละอาย ด้าน ‘พอมเพโอ’ ประกาศว่าทรัมป์จะทำหน้าที่ต่อเป็นสมัยที่ 2 และทีมหาเสียงทรัมป์ยังเดินหน้าฟ้องเพื่อคัดค้านผลการเลือกตั้ง แม้โพลล่าสุดชี้ว่าอเมริกันชน 80% รวมถึงผู้สนับสนุนพรรครีพับลิกันครึ่งหนึ่ง เชื่อว่าไบเดนเป็นผู้ชนะอย่างชอบธรรมก็ตาม
ทีมหาเสียงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยเมื่อวันอังคาร (10 พ.ย.) ว่า เตรียมยื่นฟ้องในรัฐมิชิแกนเพื่อให้ระงับการรับรองผลการเลือกตั้งแบบเดียวกับที่ยื่นฟ้องในรัฐเพนซิลเวเนียเมื่อวันจันทร์ (9)
ก่อนหน้านี้ ผู้พิพากษาในมิชิแกนและจอร์เจียไม่รับคำฟ้องในหลายๆ ประเด็นของทีมหาเสียงทรัมป์มาแล้ว ส่วนผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายต่างลงความเห็นว่า มีโอกาสน้อยมากที่จะเปลี่ยนแปลงผลการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 3 ที่ผ่านมา เนื่องจากทรัมป์มีคะแนนตาม โจ ไบเดน ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต ในหลายรัฐ กระทั่งพวกรัฐสมรภูมิที่คะแนนคู่คี่ก็ยังห่างกันระดับเป็นพันคะแนนหรือกระทั่งเป็นหมื่นคะแนน จึงดูเป็นไปไม่ได้ที่จะหาหลักฐานมาหักล้างลบทิ้งคะแนนนำในหลายๆ รัฐขนาดนี้ได้สำเร็จ
นอกจากนั้นผลสำรวจความคิดเห็นที่จัดทำโดยรอยเตอร์/อิปซอสยังพบว่า อเมริกันชน 80% ซึ่งรวมถึงผู้สนับสนุนพรรครีพับลิกันครึ่งหนึ่งบอกว่าไบเดน เป็นผู้ชนะการเลือกตั้งอย่างชอบธรรม
ทางด้านไบเดนเตรียมประชุมกับที่ปรึกษาในวันพุธ (11) โดยคณะที่ปรึกษาชุดนี้มีหน้าที่เตรียมการสำหรับการเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนต่อไปของอเมริกาในวันที่ 20 มกราคมปีหน้า
สื่อใหญ่อเมริกันแม้กระทั่งสื่อฝ่ายขวาที่ถือหางทรัมป์อย่างโทรทัศน์ ฟ็อกซ์นิวส์ ประกาศขานชื่อให้ไบเดนเป็นผู้ชนะการเลือกตั้งเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (7) หลังจากอดีตรองประธานาธิบดีผู้นี้ได้ชัยชนะในรัฐเพนซิลเวเนียและเนวาดา ซึ่งทำให้มีคะแนนจากคณะผู้เลือกตั้ง 279 คะแนน มากกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำสำหรับการเข้าสู่ทำเนียบขาว 9 คะแนน แล้วยังมีรัฐซึ่งนับคะแนนกันอยู่โดยคะแนนไม่ทิ้งขาด และสื่อยังไม่ฟันธง ที่ไบเดนเป็นฝ่ายนำทรัมป์
ทว่า ทรัมป์ยังคงไม่ยอมรับความพ่ายแพ้โดยกล่าวอ้างทั้งที่ไม่มีหลักฐานว่า มีการโกงการเลือกตั้งอย่างมโหฬาร ขณะที่สมาชิกสำคัญของพรรครีพับลิกันจำนวนมากแสดงทัศนะว่า ทรัมป์ยังมีสิทธิ์สู้ต่อ แม้โดยส่วนตัวแล้วสมาชิกบางคนเห็นว่า ทรัมป์มีเวลาเหลือน้อยมาก
ไบเดนกล่าวว่า การที่ทรัมป์ไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ นอกจากเป็นการละเมิดบรรทัดฐานดั้งเดิมของสหรัฐฯแล้ว ยังถือว่าน่าละอาย แต่ยืนยันว่าเรื่องนี้จะไม่เป็นอุปสรรคต่อแผนการถ่ายโอนอำนาจของตนแต่อย่างใด
ในวันอังคาร ไบเดนยังบอกกับผู้นำชาติพันธมิตรในยุโรป ได้แก่ ฝรั่งเศส อังกฤษ เยอรมนี ที่โทรศัพท์ไปแสดงความยินดีว่า อเมริกาจะกลับเข้าสู่สนามอีกครั้ง ส่วนทีมถ่ายโอนอำนาจของเขาเผยว่า ไบเดนมีแผนร่วมมือกับยุโรปในการต่อสู้กับโควิด-19 และปัญหาการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ หลังจากที่ทรัมป์นำอเมริกาถอนตัวจากองค์การอนามัยโลก (WHO) และข้อตกลงปารีสเพื่อแก้ปัญหาโลกร้อน
ผู้นำในกลุ่มจี7 ทั้งหมดต่างแสดงความยินดีกับไบเดน เช่นเดียวกับพวกพันธมิตรใกล้ชิดบางคนของทรัมป์ อาทิ นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู และมกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมานแห่งซาอุดีอาระเบีย
ทว่า ในการแถลงข่าววันอังคาร ไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ยืนยันว่า จุดยืนของทรัมป์คือนโยบายอย่างเป็นทางการของรัฐบาล และเมื่อถูกถามว่า จะร่วมมือกับทีมถ่ายโอนอำนาจของไบเดนหรือไม่ เขากลับตอบว่า จะมีการถ่ายโอนอำนาจอย่างราบรื่นสู่คณะบริหารทรัมป์สมัยที่สอง
พอมเพโอยังตอกกลับนักข่าวที่ถามว่า อเมริกายังคงเรียกร้องให้ทั่วโลกจัดการเลือกตั้งอย่างเป็นธรรมได้หรือไม่ ว่า คำถามดังกล่าว “น่าขำ” และยืนยันว่า อเมริกาปฏิบัติตามกระบวนการเลือกตั้งมาตรฐาน
ระหว่างให้สัมภาษณ์ฟ็อกซ์ นิวส์ในเวลาต่อมา พอมเพโอแสดงความคิดเห็นเรื่องที่ผู้นำทั่วโลกโทรศัพท์ไปแสดงความยินดีกับไบเดนว่า ถ้าเป็นการทักทายปกติก็คงไม่แปลกนัก แต่ต้องไม่สับสนว่า อเมริกามีประธานาธิบดีได้เพียงครั้งละคนเดียว รัฐมนตรีต่างประเทศคนเดียว และทีมความมั่นคงแห่งชาติทีมเดียว
ทั้งนี้ การแสดงความคิดเห็นครั้งแรกของพอมเพโอเกี่ยวกับผลการเลือกตั้งมีขึ้นหนึ่งวันหลังจากทรัมป์ปลดมาร์ก เอสเปอร์ ที่เขามองว่า จงรักภักดีไม่พอ ออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหม
ชัค ชูเมอร์ วุฒิสมาชิกระดับสูงของเดโมแครต วิจารณ์ว่า พอมเพโอมองข้ามความจริง และย้ำว่าไบเดนคือผู้ชนะการเลือกตั้ง