xs
xsm
sm
md
lg

ผู้นำทั่วโลกยินดีไบเดนครองทำเนียบขาว หวังกอบกู้สัมพันธ์หลังทรัมป์ย่ำยีพันธมิตร

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอพี – ผู้นำทั่วโลกยินดีที่ไบเดนได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของอเมริกา เนื่องจากมองว่า เป็นโอกาสในการปรับปรุงความร่วมมือด้านไวรัสโคโรนา การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และปัญหาอื่นๆ หลังจากช่วงเวลา 4 ปีที่ทรัมป์นำอเมริกาหันหลังให้นานาชาติ

แม้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ แต่บรรดาชาติพันธมิตรของอเมริกาทั้งในตะวันตกและเอเชียต่างแสดงความหวังว่า ความสัมพันธ์กับวอชิงตันจะเริ่มต้นสู่ยุคใหม่ภายหลังนโยบายการค้า “อเมริกาต้องมาก่อน” ของทรัมป์ รวมทั้งการถอนตัวจากข้อตกลงปารีสเพื่อลดภาวะโลกร้อน การโจมตีองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) และองค์การอนามัยโลก (WHO)

สำหรับเอเชียที่กังวลกับความทะเยอทะยานทางยุทธศาสตร์ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ผู้นำที่มาจากการเลือกตั้งของญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และไต้หวัน ต่างเรียกร้อง “ค่านิยมร่วม” กับวอชิงตันและหวังว่า จะร่วมมืออย่างใกล้ชิดต่อไปเพื่อรับประกันสันติภาพ เสรีภาพ และความมั่งคั่งในอินโด-แปซิฟิก

ทั่วโลกต่างฉลองเมื่อรู้ข่าวชัยชนะในรัฐเพนซิลเวเนียที่ส่งให้โจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีในคณะบริหารบารัค โอบามา ได้คะแนนจากคณะผู้เลือกตั้งเกิน 270 คะแนน ซึ่งจำเป็นสำหรับการเข้าครอบครองทำเนียบขาว

ยังไม่มีปฏิกิริยาอย่างเป็นทางการจากปักกิ่งที่ขัดแย้งกับคณะบริหารทรัมป์อย่างหนักทั้งเรื่องการค้า ความมั่นคง และเทคโนโลยี มีแต่ผู้ใช้โซเชียลมีเดียของจีนที่พากันแสดงความยินดีต่อการเปลี่ยนแปลงนี้

นอกจากนั้น ตอนที่ทรัมป์ประกาศว่า ตัวเองชนะ “ท่วมท้น” หนังสือพิมพ์พีเพิลส์ เดลี่ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ยังทวิตว่า “ฮ่าฮ่า”

ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซียที่มีท่าทีเป็นมิตรกับทรัมป์ ยังไม่มีปฏิกิริยาอย่างเป็นทางการต่อชัยชนะของไบเดนเช่นเดียวกัน

พันธมิตรตะวันตกส่วนใหญ่ยินดีที่จะได้เริ่มต้นใหม่กับวอชิงตัน หลายคนเอือมระอากับทรัมป์ที่วิจารณ์พันธมิตรเก่าแก่ทางทหารและเศรษฐกิจอย่างไม่ไว้หน้า

บางคนแสดงความหวังว่า ไบเดนอาจฟื้นความร่วมมือด้านสาธารณสุข การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และปัญหาอื่นๆ หลังจากที่ทรัมป์ถอนตัวจากข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (ทีพีพี) และกดดันแคนาดา เม็กซิโก เกาหลีใต้ รวมทั้งคู่ค้าอีกมากมายให้เจรจาเงื่อนไขทางการค้าใหม่

นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโดของแคนาดา ที่เป็นเป้าหมายการโจมตีส่วนตัวของทรัมป์ ทวิตว่า เฝ้ารอที่จะได้ร่วมงานกับประธานาธิบดีไบเดน และรองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส คณะบริหาร และรัฐสภาสหรัฐฯ เพื่อจัดการความท้าทายสำคัญที่สุดของโลก

นายกรัฐมนตรีสก็อตต์ มอร์ริสันของออสเตรเลีย กล่าวว่า รอที่จะได้ร่วมเป็นหุ้นส่วนที่ยอดเยี่ยมกับวอชิงตัน พร้อมอ้างอิงความท้าทาย เช่น ไวรัสโคโรนา และการรับประกันว่า อินโด-แปซิฟิกจะเป็นภูมิภาคที่เสรีและเปิดกว้าง ซึ่งพาดพิงถึงข้อพิพาทระหว่างจีนกับเพื่อนบ้านเกี่ยวกับอธิปไตยในน่านน้ำสำคัญ และย้ำว่า ความเป็นผู้นำของอเมริกาเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการรับมือความท้าทายเหล่านี้

ขณะที่ผู้นำที่เคยสนับสนุนทรัมป์อย่างประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เตของฟิลิปปินส์ แสดงความยินดีกับไบเดน และสำทับว่า ไม่เห็นด้วยที่ทรัมป์ประกาศว่า การเลือกตั้งยังไม่จบ

นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดิของอินเดีย ที่แสดงความเป็นมิตรกับทรัมป์อย่างเปิดเผย แชร์ภาพตัวเองที่ถ่ายร่วมกับไบเดนพร้อมข้อความว่า “สำหรับชัยชนะที่น่าประทับใจ!”

บอริส จอห์นสัน ผู้นำอังกฤษและพันธมิตรอีกคนของทรัมป์ กล่าวว่า รอที่จะได้ร่วมมือใกล้ชิดกับคณะบริหารใหม่ของอเมริกาเกี่ยวกับเป้าหมายสำคัญที่มีร่วมกันตั้งแต่ประเด็นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจนถึงการค้าและความมั่นคง

ขณะเดียวกัน มีการแสดงความผิดหวังอย่างเปิดเผยน้อยมาก และผู้นำสำคัญหลายคนที่มีความสัมพันธ์อบอุ่นกับทรัมป์เลือกที่จะงดแสดงความคิดเห็น

ในจำนวนนี้รวมถึงประธานาธิบดีฌาอีร์ โบลโซนารูของบราซิล และมกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซาลมานของซาอุดีอาระเบีย ส่วนประธานาธิบดีแอนเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ของเม็กซิโก บอกว่า จะรอจนกว่าประเด็นปัญหาทั้งหมดได้รับการสะสาง

นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอล ที่ใช้ภาพที่ถ่ายคู่กับทรัมป์เป็นภาพโปรไฟล์ทวิตเตอร์ กล่าวว่า ไบเดนเป็นมิตรของอิสราเอล และเขารอที่จะได้ร่วมงานกับไบเดนและแฮร์ริสเพื่อเสริมสร้างพันธมิตรพิเศษระหว่างสองประเทศ

เนทันยาฮูยังออกแถลงการณ์อีกฉบับขอบคุณทรัมป์ที่ยกระดับความสัมพันธ์อเมริกา-อิสราเอลอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
กำลังโหลดความคิดเห็น