xs
xsm
sm
md
lg

‘ไบเดน’ เปิดแผนสู้โรคระบาดแนะสวมหน้ากาก ‘ทรัมป์’ ขวางทีมถ่ายโอนอำนาจ-ยันถูกปล้นชัยชนะ

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน  และว่าที่รองประธานาธิบดี คามาลา แฮร์ริส จัดการประชุมแบบทางไกลกับคณะที่ปรึกษาด้านโควิด-19 เมื่อวันจันทร์ (9 พ.ย.)
เอเอฟพี - “ไบเดน” เดินหน้าแผนการควบคุมโรคระบาด จัดประชุมทีมผู้เชี่ยวชาญก่อนแนะนำประชาชนสวมหน้ากากป้องกัน ด้านทรัมป์ยังดึงดันประกาศว่า ตนเองถูกปล้นชัยชนะในการเลือกตั้ง คณะบริหารของเขายังไม่ยอมให้ความร่วมมือกับทีมถ่ายโอนอำนาจของไบเดน ขณะที่รัฐมนตรียุติธรรมสั่งอัยการทั่วประเทศเปิดการสอบสวนหากพบความผิดปกติในการเลือกตั้งที่ชัดเจนซึ่งอาจส่งผลต่อผลการเลือกตั้ง

แม้เริ่มมีการจัดสถานที่สำหรับพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 46 ซึ่งจะมีขึ้นในกรุงวอชิงตันวันที่ 20 มกราคมปีหน้าแล้ว แต่ขั้นตอนการถ่ายโอนอำนาจกลับสะดุดขลุกขลัก เนื่องจากโดนัลด์ ทรัมป์ แหวกธรรมเนียมประธานาธิบดีสหรัฐฯ ด้วยการปฏิเสธไม่ยอมรับความพ่ายแพ้และยืนกรานว่า ตนเองถูกปล้นชัยชนะในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 3 ที่ผ่านมา

เคย์ลีห์ แม็กเอนานี เลขานุการฝ่ายสื่อสารมวลชนของทำเนียบขาว ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวเมื่อวันจันทร์ (9 พ.ย.) ว่า การเลือกตั้งยังไม่จบง่ายๆ

ทว่า ทีมทนายความของทรัมป์ยังไม่สามารถหาหลักฐานที่หนักแน่นมาสนับสนุนการไปยื่นฟ้องร้องต่อศาลในหลายๆ รัฐได้ ขณะที่สื่อคาดว่า ผลการนับคะแนนอย่างเป็นทางการที่ใกล้เสร็จสิ้น จะยิ่งตอกย้ำชัยชนะของโจ ไบเดน ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต

คณะบริหารของทรัมป์ยังไม่ยอมให้ความร่วมมือกับทีมถ่ายโอนอำนาจของไบเดน ซึ่งรวมถึงการจัดหาสถานที่ทำงาน งบประมาณ และความเชี่ยวชาญ เพื่อจัดเตรียมสำหรับการเข้ารับตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ คนต่อไป

ขณะเดียวกัน ทรัมป์ยังสร้างความปั่นป่วนภายในคณะบริหารของตัวเองด้วยการปลดมาร์ก เอสเปอร์ จากตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหม โดยสื่อรายงานว่า ทั้งคู่ขัดแย้งกันเรื่องที่ทรัมป์ต้องการให้ส่งทหารของรัฐบาลไปปราบปรามผู้ประท้วงในประเทศ

ถึงตอนนี้ สมาชิกทรงอิทธิพลของพรรครีพับลิกันส่วนใหญ่ เช่น มิตช์ แมคคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภา ยังคงประกาศสนับสนุนทรัมป์

ในวันจันทร์ บิลล์ บาร์ รัฐมนตรียุติธรรม ให้อำนาจแก่อัยการทั่วประเทศในการเปิดการสอบสวน หากพบความผิดปกติในการเลือกตั้งอย่างชัดเจน ซึ่งหากเป็นจริงอาจส่งผลต่อผลการเลือกตั้ง

อย่างไรก็ตาม ทางด้านไบเดนเดินหน้าแผนการที่วางไว้โดยเริ่มจากคำสัญญาข้อแรกระหว่างการหาเสียงคือ การหาทางควบคุมสถานการณ์โรคระบาด โดยจัดการประชุมครั้งแรกกับทีมเฉพาะกิจไวรัสโคโรนาของตนเองก่อนที่รองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ จะเริ่มประชุมทีมรับมือโรคระบาดไม่กี่ชั่วโมง

หลังจากนั้น ไบเดนปราศรัยถ่ายทอดทางทีวีเกี่ยวกับวิกฤตโรคระบาดซึ่งส่งสัญญาณการสิ้นสุดแนวทางรับมือแบบเอาแน่เอานอนไม่ได้ของทรัมป์ โดยประกาศว่า การสวมหน้ากากป้องกันเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการให้สถานการณ์โรคระบาดอยู่ภายใต้การควบคุม ซึ่งตรงข้ามกับทรัมป์ที่มักเย้ยหยันคนที่สวมหน้ากาก ซ้ำยังบอกว่า ไวรัสโคโรนาจะหายไปเอง

การปราศรัยของไบเดนมีขึ้นขณะที่ไฟเซอร์และไบโอเอ็นเทค ประกาศว่า วัคซีนที่ทั้งคู่ร่วมกันพัฒนา มีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนาถึง 90% ระหว่างการทดลองทางคลินิกกับอาสาสมัครนับหมื่นคน

ไบเดนยินดีกับข่าวดังกล่าว แต่ตั้งข้อสังเกตว่า อาจใช้เวลาอีกหลายเดือนกว่าจะสามารถแจกจ่ายวัคซีนให้คนจำนวนมากได้

ทางด้านทรัมป์ที่มีแนวทางการรับมือโรคระบาดที่มักสวนทางกับคำแนะนำของนักวิจัย ยินดีกับข่าวดังกล่าวเช่นเดียวกัน และสำทับว่า ตลาดหุ้นดีดขึ้นคึกคัก ก่อนตั้งข้อสังเกตว่า การประกาศข่าวความคืบหน้าของวัคซีนถูกยับยั้งไว้ให้ผ่านวันเลือกตั้งไปก่อน เพื่อมุ่งบ่อนทำลายตน

ขณะเดียวกัน ไวรัสโคโรนาระบาดในทำเนียบขาวอีกครั้ง โดยเอบีซีนิวส์รายงานว่า เบน คาร์สัน รัฐมนตรีการเคหะและการพัฒนาเมือง รวมทั้งเดวิด บอสซี ผู้ช่วยใกล้ชิดของทรัมป์ ติดโควิด หลังจากก่อนหน้านี้ไม่กี่วันเพิ่งมีข่าวมาร์ก มีโดว์ส ประธานคณะเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว ติดโควิดเช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่อีกหลายคนรวมถึงทรัมป์เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน

ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ขณะปราศรัยเมื่อวันจันทร์ (9 พ.ย.) ที่เมืองวิลมิงตัน รัฐเดลาแวร์ ซึ่งเป็นเมืองที่พำนักในปัจจุบันของเขา และใช้เป็นที่ตั้งสำนักงานว่าที่ประธานาบดี (Office of the President Elect)


กำลังโหลดความคิดเห็น