ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ อ้างบนทวิตเตอร์ เมื่อวันอาทิตย์ (15 พ.ย.) ว่าเขาจะยื่นฟ้อง “คดีใหญ่” เร็วๆ นี้ คัดค้านผลเลือกตั้งประธานาธิบดีที่ ไบเดน เป็นฝ่ายคว้าชัย คำประกาศกร้าวที่มีขึ้นแม้ว่าทีมหาเสียงของเขาจะพ่ายแพ้ในความพยายามคัดค้านผลการเลือกตั้งไปแล้วในหลายศาล
ทรัมป์ ระบุบนทวิตเตอร์หลังออกรอบเล่นกอล์ฟที่สนามของตนเองในเวอร์จิเนียว่า “คดีใหญ่ๆ ของเรากำลังแสดงให้เห็นถึงความไม่ชอบธรรมตามรัฐธรรมนูญของศึกเลือกตั้ง 2020 และมีการทำสิ่งชั่วร้ายหลายๆ อย่างเพื่อเปลี่ยนแปลงผลเลือกตั้ง จะมีการยื่นฟ้องเร็วๆ นี้”
ความเคลื่อนไหวของทรัมป์ มีขึ้นหลังจากไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้ เขาเผลอยอมรับความพ่ายแพ้ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี บนทวิตเตอร์ช่วงสั้นๆ ก่อนแก้ตัวในเวลาต่อมา พร้อมเน้นย้ำคำกล่าวหาว่ามีการโกงคะแนนโหวตอย่างกว้างขวาง
“เขาชนะเพราะการเลือกตั้งมีการโกง ไม่มีผู้เฝ้าดูหรือผู้สังเกตการณ์ได้รับอนุญาตแม้แต่รายเดียว ผลคะแนนถูกนับโดยบริษัทที่พวกซ้ายหัวรุนแรงเป็นเจ้าของอย่างลับ” ทรัมป์ทวีตเมื่อเช้าวันอาทิตย์ที่ 15 พฤศจิกายน แสดงท่าทียอมรับความพ่ายแพ้อย่างชัดเจนที่สุดจนถึงขณะนี้
ไบเดน เอาชนะ ทรัมป์ ในศึกเลือกตั้งวันที่ 3 พฤศจิกายน ด้วยคะแนนคณะผู้เลือกตั้ง 360 ต่อ 232 เสียง เท่ากับครั้งที่ ทรัมป์ เคยอ้างว่ามีชัยชนะถล่มทลายเหนือ ฮิลลารี คลินตัน ตัวแทนพรรคเดโมแครตเมื่อปี 2016 นอกจากนี้แล้ว ไบเดน ยังมีคะแนนป็อปปูลาร์โหวตทั่วประเทศ มากกว่า ทรัมป์ ถึงกว่า 5.5 ล้านเสียง หรือ 3.6% แม้การนับคะแนนยังไม่แล้วเสร็จก็ตาม
ภายหลังรู้ตัวว่าพลั้งเผลอ ทรัมป์ทวีตแก้ใหม่ว่า ไบเดนชนะเลือกตั้งในสายตาของสื่อข่าวปลอมเท่านั้น ตัวเขาไม่เคยยอมรับความพ่ายแพ้อะไรเลย ยังมีหนทางอีกยาวไกล พร้อมประกาศจะเดินหน้าต่อสู้ในศาล แม้พวกผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายเลือกตั้ง มีความเห็นว่ามันไม่น่าจะประสบผลสำเร็จก็ตาม
ทีมหาเสียงของทรัมป์ยื่นฟ้องร้องทางกฎหมายหลายคดีในความพยายามล้มผลการเลือกตั้งในหลายรัฐ แต่ที่ผ่านมาส่วนใหญ่ประสบความล้มเหลว
บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายระบุว่าการฟ้องร้องดำเนินคดีของทรัมป์มีโอกาสเพียงเล็กน้อยที่จะเปลี่ยนผลเลือกตั้ง และเจ้าหน้าที่เลือกตั้งของทั้งสองพรรคก็บอกเองว่าไม่พบหลักฐานความผิดปกติสำคัญๆใดๆ
เพื่อที่จะได้นั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีเป็นสมัย 2 ทรัมป์จำเป็นต้องลบล้างคะแนนเสียงที่ไบเดน นำอยู่อย่างน้อยๆ 3 รัฐ แต่จนถึงตอนนี้เขาล้มเหลวในการหาหลักฐานใดๆ มาประกอบคำกล่าวหาโกงเลือกตั้ง ในขณะที่รัฐต่างๆ ถูกเส้นตายกำหนดไว้ให้รับรองผลเลือกตั้งและคณะผู้เลือกตั้งในวันที่ 8 ธันวาคม โดยที่คณะผู้เลือกตั้งจะเป็นผู้ลงคะแนนเลือกประธานาธิบดีใหม่อย่างเป็นทางการในวันที่ 17 ธันวาคม
การปฏิเสธยอมรับความพ่ายแพ้ของทรัมป์ส่งผลให้การถ่ายโอนอำนาจอย่างเป็นทางการต้องหยุดชะงัก สำนักบริหารงานบริการทั่วไปของสหรัฐฯ (General Services Administration - GSA) ซึ่งมีหน้าที่จัดสรรงบประมาณสำหรับว่าที่ประธานาธิบดี ยังไม่รับรองชัยชนะของไบเดน ทำให้ไบเดนไม่สามารถเข้าถึงพื้นที่และทรัพยากรต่างๆ ของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การเปลี่ยนผ่านคณะบริหารของทำเนียบขาวเป็นไปอย่างราบรื่น
ทรัมป์ เขียนในทวิตเตอร์ ยกย่อง เอมิลี เมอร์ฟีย์ ผู้บริหารสำนักบริหารงานบริการทั่วไปของสหรัฐฯ ซึ่งเขาเป็นผู้แต่งตั้งว่า “ทำงานได้ยอดเยี่ยมมาก เอมิลี” โดยไม่ได้พาดพิงถึงการเปลี่ยนผ่านอำนาจใดๆ
(ที่มา : รอยเตอร์)