เอเอฟพี/เอเจนซีส์ – เมื่อวานนี้(27 ต.ค)ตุรกีออกมากล่าวหานิตยสารเสียดสีรายสัปดาห์ ชาร์ลี เอ็ปโด ว่าเป็นการก่อการร้ายทางวัฒนธรรมหลังลงปกภาพล้อเลียนประธานาธิบดีตุรกี เรเจป ไตยิป แอร์โดอัน ฉบับล่าสุด
เอเอฟพีรายงานเมื่อวานนี้(27 ต.ค)ว่า ฟาห์เรตติน อัลตุน(Fahrettin Altun) ผู้ช่วยระดับสูงด้านการสื่อสารของผู้นำตุรกี ออกมาประณามผ่านทางทวิตเตอร์ว่า “เราขอประณามในความพยายามน่ารังเกียจมากที่สุดจากฝีมือของสื่อฉบับนี้ในการเผยแพร่การก่อการร้ายทางวัฒนธรรมและความเกลียดชัง”
และในทวิตเตอร์ยังชี้ว่า นโยบายการต่อต้านมุสลิมของประธานาธิบดีมาครงกำลังบังเกิดผล! ชาร์ลี เอ็ปโด เพิ่งตีพิมพ์การ์ตูนที่เต็มไปด้วยภาพที่น่ารังเกียจที่ต้องการสื่อไปถึงประธานาธิบดีของพวกเรา”
ภาพปกนิตยสารชาร์ลี เอ็ปโดฉบับวันพุธ(27)ที่เผยแพร่ทางออนไลน์ก่อนหน้าคืนวันอังคาร(26) เป็นภาพแอร์โดอันอยู่ในชุดเสื้อยืดและมีแค่กางเกงในตัวเดียว ดื่มเบียร์กระปิองและใช้มือเลิกกระโปงของสตรีที่สวมผ้าคลุมศรีษะฮิญาบที่เปิดให้เห้นบั้นท้ายที่เปลือยเปล่า
ขณะที่ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานุแอล มาครง ประกศว่าเขาจะยังคงยึดถือการแบ่งแยกศาสนาออกจากรัฐและเสรีภาพของการแสดงความคิดเห็นที่อนุญาตให้ชาร์ลี เอ็ปโดยังคงสามารถเผยแพร่การ์ตูนที่ล่อแหลมต่อความขัดแย้งทางศาสนาต่อไปได้
ทั้งนี้ในวันจันทร์(26) แอร์โดอันกลายเป็นผู้นำชาติแรกที่ออกมาเรียกร้องให้บอยคอตสินค้าฝรั่งเศสหลังจากที่สินค้าสัญชาติแดนน้ำหอมถูกนำออกจากชั้นวางในกาตาร์และคูเวตรวมไปถึงชาติอ่าวอาหรับอื่นๆ
โดยในแถลงการณ์ผ่านทางโทรทัศน์ แอร์โดอันประกาศระหว่างการออกมาวิพากษ์วิจารณ์มาครงที่มีนโยบายต่อต้านมุสลิมว่า "ไม่ต้องไปให้เครตดิตสินค้าที่ติดฉลากฝรั่งเศส ไม่ต้องซื้อมัน" พร้อมกับพูดอีกว่าชายคนนี้จำเป็นต้องพบแพทย์เพื่อหาทางรักษาหลังผู้นำฝรั่งเศสออกมากล่าววาจาซ้ำซากในเรื่องการปกป้องเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของฝรั่งเศส
DW ชี้ว่าการบอยคอตสินค้าฝรั่งเศสกลายเป็นเครื่องวัดความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างตุรกีและฝรั่งเศสไปโดยปริยาย โดยมีมูลค่าการซื้อขายต่อการสูงถึง 14 พันล้านยูโร/ปี (16.6 พันล้านดอลลาร์) ซึ่งปารีสชี้ว่ายังไม่คิดตอบโต้มาตรการบอยคอตสินค้าฝรั่งเศสจากตุรกี
ซึ่งปัญญาจากการที่ครูชาวฝรั่งเศสถูกตัดหัวเนื่องมาจากแสดงภาพวาดศาสดาศาสนาอิวลามในชั้นเรียนนั้นส่งผลทำให้โลกมุสลิมแสดงความไม่พอใจและโดยเฉพาะต่อตัวผู้นำฝรั่งเศส ไฟแนนเชียลไทม์สรายงานว่า ในวันอาทิตย์(25)กระทรวงต่างประเทศฝรั่งเศสได้เรียกเอกอัครราชทูตตัวเองที่ประจำอยู่ในตุรกีกลับ หลังแอร์โดอันออกมาชี้ว่า "มาครง" จำเป็นต้องพบแพทย์เพื่อทำการรักษาทางจิตจากทัศนคติของเขามี่มีต่อชาวมุสลิม
สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาร้านสหกรณ์ใหญ่ๆจำนวนหลายสิบแห่งในคูเวตได้นำสินค้าฝรั่งเศสออกไปจากชั้นวางจำหน่าย นอกจากนี้ยังมีการประท้วงย่อยๆที่ด้านหน้ารัฐสภาคูเวต
และในกาตาร์ซึ่งเป็นพันธมิตรใกล้ชิดฝรั่งเศส มีการประกาศแบนสินค้าฝรั่งเศสเกิดขึ้นจากซุปเปอร์มาร์เก็ตยักษ์ใหญ่เช่น อัล มีรา( Al Meera )และ ซุค อัล บาลาดี(Souq Al Baladi) เป็นต้น
และกระแสการบอยคอตสินค้าฝรั่งเศสกลายเป็นเทรนด์ฮิตในซาอุดีอาระเบียไปในวันอาทิตย์(25) ซึ่งเป็นวันเดียวกันกับที่กระทรวงต่างประเทศฝรั่งเศสชี้ว่า การประกาศบอยคอตสินค้าเมดอินฟรานซ์นั้นปิดเบือนจุดยืนที่ฝรั่งเศสปกป้อง และกล่าวต่อว่า การบิดเบือนเหล่านี้ถูกใช้เพื่อจุดประสงค์ทางการเมือง พร้อมกับยืนยันว่า การบอยคอตเหล่านี้ไม่มีคุณค่าในตัวเองและเห็นสมควรต้องให้ยุติลงในทันที รวมไปถึงการโจมตีต่อฝรั่งเศสที่ออกมาจากชนกลุ่มน้อยหัวรุนแรง หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทม์สรายงานวันอาทิตย์(25)