เอเอฟพี/รอยเตอร์ - วันนี้ (29 ต.ค.) อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย มหาเธร์ โมฮัมหมัด แถลงวันพฤหัสบดี (29 ต.ค.) ออกโรงปกป้องชาวมุสลิม ว่า มุสลิมมีสิทธิ์สังหารชาวฝรั่งเศส หลังเกิดเหตุก่อการร้ายมือมีดโจมตีฆ่าตัดหัวถึงในวิหารนอร์ทเทอดาม ที่เมืองนีซ เช้านี้ ต่างจากชาติมุสลิมอื่นรวมถึงตุรกีและซาอุดีอาระเบียที่ออกมาประณาม
เอเอฟพีรายงานวันนี้ (29 ต.ค.) ว่า อดีตผู้นำมาเลเซีย มหาเธร์ โมฮัมหมัด ที่ในอดีตเคยออกมาวิพากษ์วิจารณ์และโจมตีต่อชาวยิวและกลุ่มรักข้ามเพศ LGBT มาแล้ว ล่าสุด หลังฝรั่งเศสเกิดเหตุสะเทือนขวัญ คนร้ายก่อเหตุบุกฆ่าตัดหัวภายในวิหารนอร์ทเทอดาม (Basilica of Notre-Dame) เวลาราว 09.00 น.ของวันอังคาร (29 ต.ค.) ที่เมืองนีซ มหาเธร์ได้แสดงความเห็นผ่านทางทวิตเตอร์ โดยโยงไปถึงคดีฆ่าตัดศีรษะครูฝรั่งเศสที่แสดงภาพการ์ตูนของศาสดา นบี มูฮัมหมัด และผู้นำในวัย 95 ปีย้ำว่า เขาไม่ได้เห็นด้วยในการสังหารผู้อื่น แต่ทว่าเสรีภาพการแสดงความคิดเห็นนั้น ไม่ได้รวมไปถึงการดูหมิ่นผู้อื่น
“การไม่เคารพในศาสดาของคนอื่น ทำให้คนที่โกรธแค้นลุกขึ้นมาสังหาร” มหาเธร์กล่าว และชี้ไปถึงประวัติศาสตร์ที่ยาวนานของฝรั่งเศส ว่า “ฝรั่งเศสในอดีตตามประวัติศาสตร์ได้สังหารผู้คนไปร่วมหลายล้าน และส่วนมากเป็นชาวมุสลิม ดังนั้น ชาวมุสลิมมีสิทธิ์ที่จะโกรธแค้นและสามารถสังหารชาวฝรั่งเศสหลายล้านคนได้เช่นกัน สำหรับการสังหารหมู่ที่เกิดขึ้นในอดีต”
และเขากล่าวต่อว่า “ฝรั่งเศสสมควรสั่งสอนคนของตัวให้เคารพความรู้สึกคนอื่น จากการที่คุณได้ประณามมุสลิมทั้งหมดและศาสนาของชาวมุสลิมต่อในสิ่งที่เกิดขึ้นจากฝีมือของคนๆ หนึ่งที่โกรธแค้น ดังนั้น มุสลิมมีสิทธิ์ที่จะลงโทษชาวฝรั่งเศส”
มหาเธร์กล่าวอีกว่า “การบอยคอตไม่สามารถตอบโต้ต่อการกระทำผิดทั้งปวงที่เกิดขึ้นจากฝรั่งเศสในช่วงเวลาเหล่านี้”
เอเอฟพีรายงานว่า ทั้งนี้ ในการทวีตของมหาเธร์ เขาไม่ได้เอ่ยถึงการโจมตีที่เกิดที่เมืองนีซออกมาโดยตรง
ซึ่งการออกมาแสดงความเห็นของอดีตผู้นำมาเลเซียต่างจากชาติมุสลิมอื่นๆ เป็นต้นว่า ซาอุดีอาระเบีย หรือ ตุรกี ที่ออกแถลงการณ์ประณามการโจมตีนี้ ส่วนชาติตะวันตก เป็นต้นว่า อังกฤษ และเนเธอร์แลนด์ รวมไปถึงสหภาพยุโรปแถลงจุดยืนเคียงข้างฝรั่งเศส
ส่วนสำนักวาติกันออกแถลงการณ์ประณามการโจมตีที่ป่าเถื่อน ซึ่งเกิดขึ้นในวิหารที่ศักดิ์สิทธิ์ และชี้ว่า การก่อการร้ายและความรุนแรงจะไม่มีวันเป็นที่ยอมรับ พร้อมเรียกร้องให้พลเมืองฝรั่งเศสร่วมเป็นหนึ่งเดียว
รอยเตอร์รายงานว่า ประธานาธิบดี เอ็มมานูแอล มาครง เตรียมส่งกำลังทหารเข้าคุ้มครองสถานที่สำคัญต่างๆ ในฝรั่งเศส เป็นต้นว่า สถานสำคัญทางศาสนาและโรงเรียน