รอยเตอร์/เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - มือมีดเป็นชายตะโกน อัลเลาะห์ อัคบาร์ ตัดศรีษะหญิงรายหนึ่ง และทำให้มีผู้เสียชีวิตอีก 2 ราย เกิดขึ้นในวิหารนอร์ทเทอดาม (Basilica of Notre-Dame) เวลาราว 09.00 น.ของวันอังคาร (29 ต.ค.) มือมีดถูกตำรวจยิงก่อนถูกจับ ชี้ เป็นคดีก่อการร้าย เกิดขึ้นวันเดียวกันที่ทางการซาอุฯประกาศสามารถจับกุมพลเมืองชายมือมีดทำร้ายเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสถานกงสุลฝรั่งเศสในเมืองเจดดา จนได้รับบาดเจ็บ
รอยเตอร์ (29 ต.ค.) ว่า ฝรั่งเศสตกเป็นเป้าโจมตีก่อการร้ายเหยื่อผู้เสียชีวิต 1 คน จากทั้งหมด 2 ราย ถูกตัดศีรษะ ในการก่อเหตุที่เมืองนีซ ในวิหารนอร์ทเทอดาม (Basilica of Notre-Dame) ศูนย์กลางของเมือง เมื่อเวลา 09.00 น.ของวันพฤหัสบดี(29) ก่อนที่มือมีดที่เป็นชายจะถูกเจ้าหน้าที่หน่วยต่อต้านก่อการร้ายฝรั่งเศสยิง
ทั้งนี้ พบว่า เหยื่อที่ถูกตัดศีรษะเป็นหญิงสูงวัยที่เดินทางไปโบสถ์ พบว่า คนร้ายที่มีรายงานว่าตะโกนคำว่า อัลเลาะห์ อัคบาร์ โดยนายกเทศมนตรีเมืองนีซ คริสเตียน เอสโตรซี (Christian Estrosi) ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวในที่เกิดเหตุว่า คนร้ายยังคงประกาศคำนี้ออกมาถึงแม้เขากำลังได้รับการรักษาพยาบาลจากการถูกยิงระหว่างการจับกุม
ทั้งนี้ พบว่า ในช่วงเกิดเหตุยังไม่มีคนจำนวนมากที่วิหารรนอร์ทเทอดาม ซึ่งเปิดในเวลา 08.00 น. และประชาชนเดินทางเข้ามาเพื่อสักการะบูชา
เอเอฟพีรายงานว่า เหยื่อ 2 คนที่เป็นหญิงสูงวัยและเป็นชายเสียชีวิตภายในวิหาร ขณะที่เหยื่อรายที่ 3 เสียชีวิตในเวลาต่อมาเนื่องมาจากทนพิษบาดแผลไม่ไหวหลังจากพยายามหลบภัยที่บาร์ใกล้เคียง แหล่งข่าวตำรวจให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี
โดยนายกเทศมนตรีเมืองนีซกล่าวเปิดเผยว่า เชื่อว่า หนึ่งในผู้เสียชีวิตที่เป็นชายในโบสถ์นั้น เป็นผู้ดูแลวิหารนอร์ทเทอดาม พร้อมกับกล่าวว่า “พอกันที” และชี้ว่า “ถึงเวลาแล้วที่ฝรั่งเศสจะปลดปล่อยตัวเองจากกฎหมายแห่งสันติภาพเพื่อกำจัดกลุ่มฟาสซิสต์มุสลิมสุดโต่งให้ออกไปจากดินแดนของพวกเรา”
ทั้งนี้ พบว่า มือมีดยังทำร้ายคนอื่นๆ อีกก่อนถูกจับกุม โดยนักข่าวรอยเตอร์ในที่เกิดเหตุเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจถือปืนไรเฟิลอัตโนมัติอยู่ทั่วบริเวณ และมีการกั้นห้ามเข้าโดยรอบบริเวณวิหาร และเอสโตรซี เปิดเผยว่า ประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง มีกำหนดเพื่อมาที่เมืองนีซ
ด้านพนักงานเสิร์ฟพยาน ดาเนียล โคนิลห์ (Daniel Conilh) วัย 32 ปี ทำงานที่ Grand Cafe de Lyon ห่างออกไป 1 ช่วงถนนจากวิหารให้ข้อมูลว่า ไม่นานก่อนเวลา 09.00 น. มีเสียงปืนดังขึ้นไม่กี่นัดก่อนที่ทุกคนจะเริ่มต้นวิ่งหนี “มีผู้หญิงคนหนึงออกมาจากวิหารและกล่าวว่า “วิ่ง วิ่ง” และ “มีคนกำลังวิ่งไล่แทงคนอื่น” และโคนิลห์ชี้ว่า ไม่นานหลังจากนั้นทั้งตำรวจและรถกู้ภัยมาที่ที่เกิดเหตุและได้ปิดทั้งย่านไว้
ทั้งนี้ หลังเหตุการโจมตีครั้งแรกเกิดขึ้นที่เมืองนีซแล้ว พบว่า ในอีก 2 ชั่วโมงต่อมา มีมือปืน 1 รายใช้ปืนพกข่มขู่ผู้คนที่ผ่านไปมาบนถนนใน Montfavet ใกล้กับเมืองอาวีญง (Avignon) ทางใต้ของประเทศฝรั่งเศส ห่างจากเมืองนีซไปราว 120 ไมล พบว่า เขาได้ตะโกนว่า อัลเลาะห์ อัคบาร์ ก่อนจะถูกตำรวจฝรั่งเศสยิงเสียชีวิต รอยเตอร์รายงานโดยอ้างอิงจากสถานีวิทยุยุโรป 1
ขณะที่ซาอุดีอาระเบียในวันพฤหัสบดี (29) ออกรายงานผ่านทางโทรทัศน์ว่า ได้จับกุมพลเมืองชาย 1 ราย ที่ก่อเหตุใช้มีดทำร้ายเจ้าหน้าที่ประจำสถานกงสุลฝรั่งเศสเมืองเจดดาห์ (Jeddah) ซึ่งทางสถานทูตฝรั่งเศสประจำซาอุฯออกแถลงการณ์ยืนยันการก่อเหตุว่า เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตกเป็นเป้าหมายการทำร้ายด้วยมีด และได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่ไม่ถึงแก่ชีวิต
หลังการเกิดเหตุฆ่าตัดหัวที่วิหารนอร์ทเทอดาม ในเมืองนีซแล้วล่าสุด นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส ฌ็อง กัสแต็กซ์ (Jean Castex) ออกมายกระดับความปลอดภัยขั้นสูงสุด ซึ่งการโจมตีฝรั่งเศสครั้งนี้ทางตำรวจชี้ว่าเป็นการก่อการร้าย ซึ่งวันพฤหัสบดี (29) ถือเป็นวันประสูติของศาสดา นบี มูฮัมหมัด ของศาสนาอิสลามและถือเป็นวันหยุดของชาวมุสลิม ทั้งนี้ เหตุที่เกิดขึ้นล่าสุดนี้ยังไม่่เป็นที่แน่ชัดว่าเกี่ยวข้องกับคดีภาพวาดของครูฝรั่งเศสที่ถูกตัดศีรษะหรือไม่
