พบชายที่ตะโกน “อัลเลาะห์ทรงยิ่งใหญ่ (Allahu Akbar)” ตัดศีรษะหญิงรายหนึ่ง และสังหารคนอื่นๆ อีก 2 ราย ที่โบสถ์แห่งหนึ่งในเมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันพฤหัสบดี (29 ต.ค.) ก่อนถูกยิงและควบคุมตัวโดยตำรวจ เป็นชาวตูนิเซีย เหตุการณ์สยองขวัญที่กระตุ้นให้รัฐบาลต้องเสริมกำลังคุ้มกันสถานที่สำคัญต่างๆ
ประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส เปิดเผยว่า ฝรั่งเศสจะเสริมกำลังทหารอีกหลายพันนายเข้าคุ้มกันสถานที่สำคัญๆ อย่างเช่น สถานที่แสวงบุุญและสถาบันการศึกษาทั้งหลาย พร้อมกับยกระดับเตือนภัยด้านความมั่นคงของประเทศ สู่ระดับสูงสุด
ระหว่างให้สัมภาษณ์กับบริเวณด้านนอกโบสถ์ มาครงกล่าวว่า “ฝรั่งเศสถูกโจมตีเพราะค่านิยมของเรา เพราะรสนิยมด้านเสรีภาพของเรา และความสามารถมีสิทธิเสรีภาพทางความเชื่อบนแผ่นดินของเรา และผมอยากพูดให้ชัดอีกครั้งในวันนี้ ว่าเราจะไม่ยอมอ่อนข้อใดๆ”
เหตุโจมตีนี้มีขึ้นไม่ถึง 2 สัปดาห์ หลังจากครูรายหนึ่งของโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น ในย่านชานกรุงปารีส ถูกมือโจมตีวัย 18 ปี ฆ่าตัดศีรษะ โดยเชื่อว่า เขาไม่พอใจที่ครูคนดังกล่าวนำภาพการ์ตูนหมิ่นศาสดาของศาสนาอิสลามมาพูดคุยเรื่องเสรีภาพในการแสดงออกกับนักเรียนในชั้นเรียน
ฌอง ฟรังซัวส์ ริชาร์ด หัวหน้าอัยการต่อต้านก่อการร้ายของฝรั่งเศส บอกว่า มือโจมตีของเหตุการณ์วันพฤหัสบดี (29 ต.ค.) เป็นชาวตูนิเซีย เกิดในปี 1999 เดินทางเข้าสู่ยุโรป เมื่อวันที่ 20 กันยายน บนเกาะลัมเปดูซา ของอิตาลี นอกชายฝั่งตูนิเซีย ซึ่งเป็นจุดขึ้นฝั่งหลักของบรรดาผู้ลี้ภัยที่อพยพมาจากแอฟริกา
แม้ยังไม่มีการเปิดเผยชื่ออย่างเป็นทางการ แต่แหล่งข่าวด้านความมั่นคงของตูนิเซียและแหล่งข่าวตำรวจฝรั่งเศส ระบุว่า ผู้ต้องสงสัยได้แก่ นาย Brahim Aouissaoui
ริชาร์ด เปิดเผยระหว่างแถลงข่าวในเมืองนีซ ด้วยว่า ชายคนนี้โดยสารรถไฟเข้ามาในเมืองในตอนเช้าวันพฤหัสบดี (29 ต.ค.) และจากนั้นก็เดินทางต่อไปยังโบสถ์ สถานที่ที่เขาลงมือแทงผู้ดูแลโบสถ์วัย 55 ปี เสียชีวิต และฆ่าตัดศีรษะหญิงวัย 60 ปี นอกจากนี้แล้ว เขายังแทงผู้หญิงวัย 44 ปีอีกคน ก่อนที่เธอหลบหนีไปยังคาเฟ่ที่อยู่ใกล้ๆ กัน และแจ้งเหตุร้ายที่เกิดขึ้น ก่อนเสียชีวิต
หัวหน้าอัยการต่อต้านก่อการร้ายของฝรั่งเศส เล่าต่อว่า จากนั้นตำรวจเดินทางมาถึงและเผชิญหน้ากับคนร้าย ที่ยังคงตะโกนว่า อัลเลาะห์ทรงยิ่งใหญ่ จนสุดท้ายตัดสินใจยิงเขาได้รับบาดเจ็บ
“เราพบคัมภีร์อัลกุรอ่านในตัวคนร้าย เช่นเดียวกับโทรศัพท์ 2 เครื่อง และมีดที่ใช้ก่ออาญากรรม ความยาว 30 เซนติเมตร คมมีดยาว 17 เซนติเมตร นอกจากนี้แล้วเรายังพบกระเป๋าที่คนร้ายทิ้งเอาไว้ ติดกับกระเป๋ายังมีมีดอีก 2 เล่ม ที่คนร้ายไม่ได้ใช้” ริชาร์ด กล่าว พร้อมเผยว่าเวลานี้ผู้ต้องสงสัยอยู่ในโรงพยาบาล อาการสาหัส
โฆษกของศาลทหารตอบโต้สถานการณ์พิเศษของตูนิเซีย บอกกับรอยเตอร์ว่า Aouissaoui ไม่อยู่ในบัญชีผู้ต้องสงสัยนักรบของตำรวจ พร้อมเผยว่าเขาเดินทางออกนอกประเทศผ่านทางเรือ ในวันที่ 14 กันยายน และบอกว่าทางตูนิเซียได้เปิดการสืบสวนของตนเองในคดีนี้เช่นกัน
เหตุโจมตีเมื่อวันพฤหัสบดี (29 ต.ค.) เกิดขึ้นในขณะที่ชาวอิสลามมีความขุ่นเคืองมากขึ้น ต่อกรณีที่ฝรั่งเศสออกมาปกป้องสิทธิการเผยแพร่การ์ตูนล้อ โดยเกิดการประท้วงประณามฝรั่งเศสตามท้องถนนสายต่างๆ ในหลายประเทศ ที่มีประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม
อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ส่งเสียงแสดงความเห็นอกเห็นใจประชาชนชาวฝรั่งเศส หลังเกิดเหตุโจมตี นอกจากนี้แล้วเสียงประณามเหตุโจมตีครั้งนี้ยังดังระงมมาจากทั่วสารทิศ ไม่ว่าจะเป็นสหราชอาณาจักร, เนเธอร์แลนด์, อิตาลี, สเปน และ ซาอุดีอาระเบีย หรือแม้แต่ ตุรกี ที่เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ ทางประธานาธิบดี เรเซป ตัยยิป แอร์โดอัน เพิ่งประณาม มาครง และฝรั่งเศส ต่อการนำเสนอภาพล้อศาสดาของศาสนาอิสลาม
ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารมวลชนประจำทำเนียบประธานาธิบดีตุรกี บอกว่า อิสลามไม่ควรถูกใช้ในชื่อของก่อการร้าย พร้อมบอกว่า “เราเรียกร้องผู้นำฝรั่งเศสงดใช้คำพูดที่ก่อความโกรธเคืองแก่ชาวมุสลิมอีก แล้วหันไปมุ่นเน้นหาทางเตรียมพร้อมรับมือกับพฤติกรรมรุนแรงลักษณะนี้หรือความรุนแรงอื่นๆ แทน
ฝรั่งเศส ซึ่งเป็นชาติที่มีชุมชนมุสลิมใหญ่ที่สุดของยุโรป ต้องเผชิญกับเหตุโจมตีจากฝีมือของพวกนักรบอิสลามิสต์หลายต่อหลายครั้งในหลายปีที่ผ่านมา ในนั้นรวมถึงเหตุระเบิดและกราดยิงในกรุงปารีส เมื่อปี 2015 คร่าชีวิต 130 ศพ และเหตุโจมตีที่เมืองนีซ ปี 2016 ซึ่งคนร้ายขับรถบรรทุกพุ่งกวาดฝูงชนที่อยู่ริมทะเล ขณะกำลังเฉลิมฉลองวันชาติ มีผู้เสียชีวิต 86 คน
(ที่มา:รอยเตอร์)