xs
xsm
sm
md
lg

ยอดติดเชื้อโควิด-19 ในสหรัฐฯ ทะลุ 8 ล้าน ไบเดนจวกทรัมป์ปล่อยไปตามยถากรรม

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในสหรัฐฯ พุ่งผ่าน 8 ล้านคนแล้วในวันพฤหัสบดี (15 ต.ค.) เพิ่มขึ้น 1 ล้านคนภายในเวลาไม่ถึงเดือน หลังการแพร่ระบาดระลอกใหม่กำลังเล่นงานประเทศแห่งนี้ก่อนหน้าการมาเยือนของฤดูหนาว วิกฤตการแพร่ระบาดที่เลวร้ายลงเรื่อยๆ กลายเป็นประเด็นร้อนของศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี ล่าสุด โจ ไบเดน กล่าวโจมตี โดนัลด์ ทรัมป์ อีกรอบ โดยกล่าวหาวางเฉยไม่ยอมทำอะไรเลย ไม่สวมหน้ากาก ทั้งที่ตัวเองเพิ่งติดเชื้อแท้ๆ

สหรัฐฯ รายงานพบผู้ติดเชื้อรายใหม่กว่า 60,000 คนในวันพุธ (14 ต.ค.) สูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 14 สิงหาคม หลังพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในทั่วทุกภูมิภาค โดยเฉพาะในแถบมิดเวสต์ ส่งผลให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมพุ่งเกิน 8,000,000 คนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ราวๆ 217,000 คน นับตั้งแต่โรคระบาดใหญ่เริ่มต้นขึ้นในประเทศแห่งนี้

พวกผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขเตือนมาช้านานว่าอุณหภูมิที่เย็นลงอาจทำให้ผู้คนอยู่แต่ในที่พักอาศัยและกลายเป็นปัจจัยที่ส่งเสริมการแพร่กระจายเชื้อของไวรัส อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่ได้ให้เหตุผลที่ชัดเจนของจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นในปัจจุบัน แต่พวกเขาบ่งชี้ว่ามันอาจเกี่ยวข้องกับความเหนื่อยล้าของผู้คนต่อการใช้มาตรการป้องกันไว้ก่อนสกัดโควิด-19 รวมถึงกรณีที่นักเรียนนักศึกษากลับสู่การเรียนการสอน

จากการวิเคราะห์ของสำนักข่าวรอยเตอร์ พบว่า ตั้งแต่เข้าสู่เดือนตุลาคมจนถึงตอนนี้ มีถึง 25 รัฐที่ทุบสถิติจำนวนผู้ติดเชื้อรายวัน โดยรัฐทั้งหมดในแถบมิดเวสต์และนอร์ทอีสต์ รายงานพบผู้ติดเชื้อในช่วง 4 สัปดาห์หลังสุด มากกว่าช่วง 4 สัปดาห์ก่อนหน้านั้น และพบเห็นจำนวนเคสใหม่เพิ่มขึ้น 2 เท่าในรัฐต่างๆอย่างวิสคอนซิน, เวาท์ดาโคตาและนิวแฮมป์เชียร์

ในแถบมิดเวสต์ จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ในวันพุธ (14 ต.ค.) แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาด ด้วยจำนวนมากกว่า 22,000 คน โดยอัตราผลตรวจเชื้อออกมาเป็นบวกสูงสุดอยู่ที่เซาท์ดาโคตา คิดเป็น 30% และ 20% ในไอดาโอและวิสคอนซิน

ตามข้อมูลยังพบว่ามีอยู่ 10 รัฐ ที่รายงานพบผู้ติดเชื้อใหม่รายวันเพิ่มขึ้นในวันพฤหัสบดี (15 ต.ค) ในนั้นรวมถึงวิสคอนซิน ด้วยจำนวนเคสใหม่กว่า 4,000 คน "จำนวนของเราสูงมากและมันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว" เจ้าหน้าที่สาธารณสุขระดับสูุงของรัฐกล่าว “ตอนนี้เรามีคนไข้โควิด-19 ในโรงพยาบาลเกิน 1,000 คน ในบางพื้นที่ภายในรัฐของเรา คนไข้ในห้องไอซียูอยู่ที่ 90% หรือไม่ก็เต็มแล้ว ตลอดช่วง 6 สัปดาห์หลังสุด ค่าเฉลี่ยผู้เสียชีวิตรายวันนั้นเพิ่มขึ้นมากกว่า 3 เท่า”

แคลิฟอร์เนียยังคงเป็นรัฐที่มีเคสผู้ติดเชื้อสะสมมากที่สุดในสหรัฐฯ ตามมาด้วยเทกซัส, ฟลอริดา, นิวยอร์ก และจอร์เจีย โดยทั้ง 5 รัฐมีผู้ติดเชื้อรวมกันคิดเป็นเกินกว่า 40% ของจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมดทั่วประเทศ

ด้วยจำนวนและอัตราผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เมืองนิวยอร์กจำเป็นต้องสั่งปิดธุรกิจและสถาบันการศึกษาในย่านต่างๆ ที่เป็นจุดร้อนของการแพร่ระบาด แม้ต้องเผชิญกับเสียงประท้วง

จำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้โรงพยาบาลต่างๆ ในหลายรัฐกำลังอยูู่ในภาวะตึงเครียด จากการที่คนไข้โควิด-19 ไหลบ่าเข้ามารักษาตัวอย่างไม่ขาดสาย โดยในแถบมิดเวสต์นั้น คนไข้โควิด-19 ที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล ทุบสถิติสูงสุด 10 วันติดต่อกันเมื่อวันพุธ (14 ต.ค.) ขณะที่ทั่วสหรัฐฯ ตัวเลขผู้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลอยู่ที่เกือบๆ 37,000 คน สูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 28 สิงหาคม

วิกฤตการแพร่ระบาดที่เลวร้ายลงเรื่อยๆ กลายเป็นประเด็นร้อนของศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันที่ 3 พฤศจิกายน โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ต้องใช้เวทีหาเสียงในวันพฤหัสบดี (15 ต.ค.) ปกป้องประสิทธิภาพการรับมือกับโรคระบาดใหญ่อีกรอบ หลังถูก โจ ไบเดน ผู้ท้าชิงจากเดโมแครต กล่าวหาว่าต้นตอให้ทำให้อเมริกันชนต้องสังเวยชีวิตจำนวนมาก เพราะผู้นำรายนี้ไม่ยอมทำอะไรเลย

ระหว่างหาเสียงผ่านรายการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซี ในรูปแบบคิวแอนด์เอ (Q&A) หรือการตอบคำถามจากประชาชน จากไมอามี รัฐฟลอริดา ทรัมป์มองในมุมบวกเหมือนเคย โดยบอกว่าโรคระบาดใหญ่ใกล้สิ้นสุดลงแล้ว “เรากำลังเข้าใกล้แล้ว” แม้เกือบทั่วสหรัฐฯ พบเห็นจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างมาก

อีกด้านหนึ่ง ไบเดนซึ่งหาเสียงผ่านผ่านเครือข่ายสถานีโทรทัศน์เอบีซีนิวส์ จากฟิลาเดลเฟีย ได้กล่าวโจมตีทรัมป์อย่างดุเดือดในประเด็นรับมือกับโรคระบาดใหญ่ โดยกล่าวหาเขาล้มเหลวโดยสิ้นเชิง “เราอยู่ในสถานการณ์ที่เรามีผู้เสียชีวิตมากกว่า 210,000 คน แล้วเขาทำอะไร? ไม่ทำอะไรเลย เขาก็ยังคงไม่สวมหน้ากากอยู่ดี”

(ที่มา : รอยเตอร์/เอเอฟพี)


กำลังโหลดความคิดเห็น