“โบกี้ไลอ้อน” เปิดใจดังจากวลีฮิต ดงปราคช แต่กลับถูกดรามาเพราะฉีกพลาสติกกั้นกลางผับ ลั่นเป็นบทเรียน ถูกมองว่าเมา บ้า คิดขึ้นมาทีไรก็ยังรู้สึกเศร้า แต่แก้อดีตไม่ได้ ต่อไปจะระวังและมีสติ
กำลังโด่งดังจากวลีฮิตดงปราคช ซึ่งไม่มีความหมายใดๆ แต่อยู่ดีๆ ต้องมาสะดุดจากเหตุฉีกพลาสติกกั้นกลางผับที่ร้านทำให้เพื่อป้อนกันโควิด-19 ตามนโยบายรัฐบาล จนทำให้ถูกวิจารณ์เป็นจำนวนมาก ล่าสุด “โบกี้ไลอ้อน” หรือ “โบกี้ พิชญ์สินี วีระสุทธิมาศ”ชี้แจงเรื่องดังกล่าวในงานแถลงข่าวเปิดตัวอัลบั้มเต็มชุดแรกของ “BOWKLYION” พร้อมงาน The Forest Exhibition ที่ Lido Connect Hall
“ตอนนั้นกระทบกระเทือนมากเลยค่ะ ดรามามากๆ ตอนนั้นมืดแปดด้านไม่คิดว่าชีวิตมาเจอเรื่องแบบนี้ แต่พอผ่านมาแล้วมันก็เหมือนได้สอนเราหลายๆ อย่างว่าบางอย่างเราจะทำอะไรเราต้องไตร่ตรองก่อน
ตอนนั้นที่ทำเพราะมันมองไม่เห็น จริงๆ มีการคุย ส่งซิกกันว่าถ้ามองไม่เห็นก็สามารถ...ได้เลยนะ ตอนแรกเราก็ไม่ได้ยินว่าเขาพูดอะไร แล้วเขาก็มีคนสั่งมาหลายๆ รอบก็เลยหรือว่าลองดูไหม แต่ในใจก็คิดว่าจะเป็นอะไรไหม ในกล้องจะเห็นว่าเราฉีกแต่ไม่เห็นทั้งหมด บางคนก็คิดว่าเราเมา เราเป็นบ้าบ้าง ซึ่งจริงๆ แล้วมันไม่มีใครอยากทำลายข้าวของสาธารณะหรอก
มันเป็นเรื่องของทีมงานเราเขาเป็นห่วงว่าเราเล่นแล้วเราจะมองไม่เห็นคนดูเลย มันจะมัวมากๆ เราเองก็ไม่แน่ใจว่าคนดูจะมองเห็นเราไหม เราก็เดินแง้มๆ ไปข้างๆ พอดี ทางทีมงานก็บอกว่าถ้าจะแง้มอย่างนี้ลองฉีกก็ได้นะ”
ลั่นมีการสื่อสารหน้างาน แต่คนไม่รู้ เป็นบทเรียนครั้งใหญ่
“ใช่ค่ะ เราก็ไม่ได้ชี้แจงอะไรมากด้วย ก็ขอโทษ สุดท้ายก็เป็นความผิดเราอยู่ดีที่ตัดสินใจฉีก ก็อยากจะขอโทษทุกๆ คน อยากให้มันเป็นอุทาหรณ์ว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ ก็บอกกับตัวเองทำอะไรก็ต้องคิดเยอะๆ
น่าจะเป็นบทเรียนที่ใหญ่มากๆ ที่เคยเกิดในชีวิต ตกใจที่ลืมตาตื่นขึ้นมาแล้วมีหน้าตัวเองอยู่ในสื่อต่างๆ เป็นรูปนั้น คือตกใจมากๆ ทำอะไรไม่ถูกเลย ฟีดแบ็กก็อ่านนะดรามาเกินไปมากๆ เราก็รู้สึกเศร้า ก็ไม่รู้จะทำยังไง ก็ได้แต่ขอโทษ พอนึกถึงมันขึ้นมาก็ยังรู้สึกไม่สบายใจอยู่ดี ยังรู้สึกไม่ดีอยู่ แต่มันก็เป็นสิ่งที่เราทำไปแล้ว ย้อนกลับไปแก้ไขไม่ได้ ก็ทำปัจจุบันให้โอเค ทำอะไรก็จะมีสติมากขึ้น ตอนนี้หลังๆ ขึ้นคอนเสิร์ตก็จะระวังตลอด”
งงวลีดงปราคช ฮิตได้ไง ทั้งที่ไม่มีความหมายใดๆ
“ก็งงเหมือนกันว่ามันเป็นกระแสไปได้ยังไง ตอนนั้นไม่ได้คิดว่ามันจะเป็นคำฮิต เราเล่นถามตอบ Q&A ในสตอรี่ แล้วมีคนถามว่าคบกับแฟนได้ยังไง ก็เล่าว่าเราพิมพ์ไปหาเขาว่า ดงปราคช เขาไม่ตอบไลน์เรา เราก็เลย ดงปราคช กะว่าต้องตอบแน่ๆ แต่เขาอ่านแล้วไม่ตอบ คือจริงๆ แล้วไม่ได้คบกันเพราะดงปราคช แต่เราหยิบคำนี้มาใช้แล้วคนก็เอาไปใช้กันเยอะ ก็ตกใจนิดนีง
แรกเริ่มมาจาก เดอะทอยส์ (ธันวา บุญสูงเนิน) แล้วเราได้ยินไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ได้ยินว่าดงปราคช เราก็ฮะ อะไรนะ ยังไงนะ เราก็เลยหยิบคำนี้พิมพ์ไปหาทุกคนดูว่าจะมีใครตอบเราไหม ทุกคนตอบหมดเลย เฮ้ย มันคืออะไร ก็เลยลองพิมพ์ไปหาคนที่ชอบ เผื่อเขาจะตอบเราบ้าง สรุปเขาอ่านแต่ไม่ตอบ เป็นคำฮิตติดเทรนด์ทวิตเตอร์ ก็ตลกดีค่ะ คนก็ถามว่ามันคืออะไรกันมาเยอะ ก็ไม่รู้จะเล่ายังไง มันยาวมากเลย”
มีศัพท์ใหม่เพราะชอบครีเอต
“เป็นคนชอบครีเอตอะไรตลกๆ มาเล่นกับเพื่อนอยู่แล้ว มุกก็จะลึกๆ นิดนีง ก็ไม่คิดว่าคนอื่นเขาจะเก็ตในคำนึ้ด้วย ทุกคนก็นำไปใช้ มันเป็นศิลปะ ชอบมากค่ะ”
ไม่รู้จะดีใจดีไหมที่คนรู้จักจากวลีนี้
“จะดีใจดีไหมที่คนมารู้จักเพราะดงปราคช ก็ดีใจที่คนรู้จักเรามากขึ้น จริงๆทำเพลงชื่อนี้เลย แต่ไม่กล้าปล่อยออกมา กลัวจะขยี้ไปกันใหญ่ เอาจริงคำนี้มันเป็นที่ไม่มีความหมาย มันเป็นคำที่พูดแล้วงงใช้กับคนที่ชอบใครสักคนแล้วอยากจะหาเรื่องคุยกับเขา จริงๆ เราชวนคุยอะไรก็ได้ ไม่ต้องใช้คำนี้ อย่างที่บอกมันเป็นคำที่ไม่ได้มีความหมายอะไรเลย”
ลั่นไม่ปล่อยเพลงดงปราคช เพราะไม่อยากขยี้ ตัวตนไม่ได้ฮา เป็นคนสุขุม นุ่มลึก
“น่าจะเปลี่ยนชื่อเพลงแล้ว ไม่อยากขยี้กับเรื่องนี้เท่าไหร่ กลัวคนติดว่าเราเป็นคนฮาๆ จริงๆ แล้วเราเป็นคนสุขุม นุ่มลีก ไม่ได้ฮาแต่อย่างใด พยายามอยากจะเป็นคนเงียบๆ แต่ทำไม่ได้ เราไม่ค่อยอยากจะออกสื่อ ศิลปินคนอื่นเขาวางแพลนจะออกสื่อเมื่อไหร่ แต่โบกี้ไลอ้อนวางแพลนหนี เป็นคนที่ตอบคำถามได้ เช่น ช่วงนี้ยังไม่มีผลงานอะไร ยังไม่ต้องติดตามก็ได้นะคะ ขอบคุณค่ะ เราเป็นคนที่เรียบเรียงคำพูดไม่เก่ง ถ้าเพลงนี่เราจะเก่ง จะแต่งเพลง จะเรียบเรียง งานออกมาแล้วสุขุม นุ่มลึก แต่พอพูดแล้วลุคนั้นไม่มีแล้ว ผู้ใหญ่สอนเยอะเลยค่ะ ก็ยังเกร็งๆ นิดนึง คือเราเป็นคนโผงผาง ประเจิดประเจ้อไปบ้าง”