xs
xsm
sm
md
lg

"ฟ้าใส" เปิดใจโต้ ซดเกาเหลา "โจ้ Surface" ตอกขาเมาท์วงในจริงเปล่า อ่านแล้วบันเทิง!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ไม่ได้ขาลง งานหด "ฟ้าใส ปวีณสุดา" เมินถูกเปรียบรุ่นพี่นางงาม ยันมีงานรุมหลากหลาย ทั้งงานถ่ายแบบ เดินแบบในประเทศและต่างประเทศ อีกทั้งมีละคร โฆษณาติดต่อเข้ามา แจงไม่เห็นตามอีเวนต์เพราะรับงานไพรเวต แถมพักรักษาอาการตาอักเสบ โต้ซดเกาเหลา "โจ้ เซอร์เฟซ" จนแฟนนางงามผุดแฮชแท็ก SaveFahsai บอกไม่ได้มีคำพูดที่ชัดเจนเกี่ยวกับตัวเอง กัดขำๆ ขาเมาท์อ้างข่าววงใน วงในจริงหรือ อ่านแล้วบันเทิง รับเคยเจ็บคำวิจารณ์แต่ตอนนี้มีภูมิต้านทาน

หลังจบการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2019 ก็ไม่ค่อยได้เห็นหน้าสวยๆ ของสาว "ฟ้าใส ปวีณสุดา ดรูอิ้น" ผ่านทางหน้าจอสักเท่าไหร่ จนทำให้เกิดการเปรียบเทียบว่ากระแสดูจะไม่ปังไม่เปรี้ยงเหมือนรุ่นพี่นางงามคนอื่นๆ เอาซะเลย วันนี้มีโอกาสได้เจอสาวฟ้าใส มาร่วมเปิดตัว ทิม ฮอร์ตันส์ (Tim Hortons) แบรนด์ร้านกาแฟระดับ พรีเมี่ยมจากประเทศแคนาดา สาขาแรกในประเทศไทย ณ สามย่าน มิตรทาวน์ ชั้น G ก็เลยขออัปเดตสักหน่อยว่าตอนนี้กำลังทำอะไรยังไงอยู่บ้าง งานหดแบบที่เขาเมาท์กันจริงหรือเปล่า รวมไปถึงกรณีดรามา จนแฟนนางงามต้องออกมาช่วยกันติดแฮชแท็ก #SaveFahsai อีกด้วย

"ชีวิตตอนนี้ก็มีเปลี่ยนแปลงไปเหมือนกันนะคะ แต่ว่าตอนนี้ก็รู้สึกว่าเหมือนได้ทำฝันเต็มที่แล้วค่ะ แล้วก็ดีใจที่คนไทยก็เหมือนเป็นส่วนหนึ่งของเจอร์นีย์ของฟ้าใสด้วย แล้วก็ดีใจที่ทำให้ทุกคนภูมิใจในตัวฟ้าใสค่ะ"

งานมีติดต่อเข้ามาเรื่อยๆ ทั้งออกอีเวนต์และแคสติ้ง เร็วๆ นี้กำลังจะมีผลงานใหม่ออกมา แต่ขออุบไว้ก่อน
"ตอนนี้งานเข้ามาเรื่อยๆ ค่ะ มีออกอีเวนต์แล้วก็มีแคสติ้งบ้าง ก็อยากจะฝากติดตามผลงานเร็วๆ นี้ด้วยค่ะ ตอนนี้ขออุบเอาไว้ก่อนค่ะ แล้วเดี๋ยวพอทุกอย่างคอนเฟิร์มแล้วก็ออกมาจริงๆ แล้ว เดี๋ยวจะโพสต์ ก็มีหลากหลายแนวค่ะ"

"จริงๆ ถ้าเกิดมีโอกาสก็อยากทำหลากหลายอาชีพนะคะ ไม่ว่าจะเป็นด้านวงการบันเทิงหรือว่าจะเป็นด้านของการเป็นครู ในที่นี้ก็เป็นคนติวเรื่อง Q&A หรือมิตรภาพ หรือการพรีเซนต์ตัวเอง"

ดูเหมือนไม่ค่อยได้ออกสื่อ เพราะส่วนใหญ่ไปแต่งานปิด แฟนคลับเลยติดตามได้ยาก และหยุดพักรักษาตาอักเสบด้วย
"ใช่ ส่วนใหญ่จะเป็นงานแบบไพรเวตมากกว่าค่ะ เป็นงานปิด แฟนคลับก็จะติดตามค่อนข้างยาก แต่ว่าเวลาที่มีงานเปิด ฟ้าใสก็จะโพสต์ แล้วส่วนหนึ่งมันมีช่วงที่พักตาด้วยค่ะ ที่ถอดคอนแทคเลนส์ไม่ได้ ตาอักเสบ จริงๆ มันเป็นตั้งแต่ตอนมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์แล้ว พอไปประกวดที่แอตแลนตามันก็เป็นเหมือนกัน กลับมาก็เลยพักเต็มที่ก่อนที่จะลุยงานต่อไป"

ไม่กลัวกระแสตก เพราะไม่ได้ออกงานบ่อยๆ เชื่อแฟนคลับน่ารัก รอติดตามผลงานเสมอไม่ว่าที่ไหนหรือเมื่อไหร่
"ไม่ หนูก็ไม่ได้มองว่าหนูจะอยู่ในกระแสแค่แบบช่วงนั้นช่วงเดียว แต่หนูเชื่อว่าแฟนคลับของหนูน่ารักมากๆ เขาจะติดตามผลงานของหนู ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนหรือว่าเมื่อไหร่ค่ะ"

ดีใจมีงานในวงการบันเทิงติดต่อเข้ามามากขึ้น ทั้งถ่ายนิตยสาร เดินแบบ รวมไปถึงงานละครและโฆษณา
"จะบอกว่าชีวิตในวงการบันเทิง มีโอกาสเข้ามามากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นด้านการถ่ายนิตยสาร เดินแบบทั้งในและนอกประเทศ ละครก็มีติดต่อเข้ามาค่ะ ตามไปแคสติ้ง หรือว่าโฆษณาต่างๆ คือโอกาสมันเพิ่มเข้ามาเยอะอยู่แล้ว เราก็ดีใจมากๆ ส่วนที่โดนเปรียบเทียบกับนางงามรุ่นพี่ ไม่ซีเรียสค่ะ เพราะว่าการอยู่ในวงการแบบนี้ ไม่ว่าจะอยู่ในอาชีพอะไรก็จะมีการเปรียบเทียบอยู่แล้ว"

เข้าใจวัฎจักรนางงาม มาเร็วไปเร็ว แต่ตำแหน่งอยู่ไม่นาน ตำนานอยู่ตลอดไป
"จริงๆ ก็เข้าใจ เพราะความเป็นนางงาม คือมันจะมีแค่ช่วงอายุเวลา 1 ปี ในการที่เราดำรงตำแหน่ง แต่ว่ามีคนบอกไว้ว่าตำแหน่งจะอยู่กับเราไม่นาน แต่ตำนานจะอยู่กับเราตลอดไปค่ะ"

"ก็มองว่าเราสามารถทำหน้าที่การเป็นนางงามได้แค่ 1 ปี แต่นอกเหนือจากนี้ คือเราก็มีโอกาสไปในวงการบันเทิง หรือว่าวงการอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นทางหน้าจอหรือเบื้องหลังได้เพียบค่ะ ก็ต้องไปในด้านอื่นบ้าง งานในวงการก็สนใจด้วยค่ะ แต่ว่าก็สนใจอยากเป็นเบื้องหลังด้วย แบบเวลาที่เทรนรุ่นน้องต่อไป ก็สนใจด้านนี้เหมือนกัน"

ช่วงนี้ยังคงมีงานกับทางกองประกวดอยู่
"ก็คิดว่าน่าจะมีนะคะ แต่ว่าจริงๆ ก็มีรุ่นน้องที่ตั้งใจจะมาประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020 ที่มีติดต่อเข้ามา ว่าอยากจะให้ช่วยสอนเรื่องการตอบคำถามได้ไหม อะไรแบบนี้ ก็มีติดต่อเข้ามาบ้างค่ะ ซึ่งในด้านของเบื้องหน้าก็ต้องติดต่อผ่านกองก่อนค่ะ แต่ถ้าเกิดเบื้องหลังก็คืออย่างเช่นการเป็นครู ก็สามารถติดต่อโดยตรงได้เลยค่ะ"

"ถามว่าได้คุยกับพี่ลูกเกด (เมทินี กิ่งโพยม) ไหม ไม่ คือพี่เกดจะเทรนระหว่างที่เก็บตัว แต่นี่คือรุ่นน้องที่แบบอยากจะมาออดิชั่น อยากจะมาประกวด แล้วก็ไม่มั่นใจในเรื่องของการตอบคำถาม อยากจะให้มีคนช่วยเทรน เขาก็ติดต่อโดยตรงมาว่าเนี่ยหนูอยากจะพัฒนาด้านนี้ แล้วก็ด้านอื่นๆ ในการพรีเซนต์ตัวเอง ก็เลยติดต่อโดยตรงมา ว่าฟ้าใสมีอะไรแนะนำหรือว่าสามารถสอนได้ไหม เป็นโค้ชก็ได้"

แจงตนเป็นเมนเทอร์ให้คนที่อยากมาประกวด ส่วนลูกเกด เป็นเมนเทอร์ให้กับคนที่ได้เข้ารอบไปแล้ว เล็งเปิดคอร์สสอนนางงาม
"หนูเป็นแบบเมนเทอร์ แต่เป็นคนละแบบกับพี่ลูกเกดค่ะ ของพี่เขาจะเป็นแบบเจาะลึก สำหรับคนที่เข้ารอบเรียบร้อยแล้ว แต่ของหนู สิ่งที่หนูจะสอน มันสามารถเอาไปใช้ในชีวิตประจำวัน หรือว่าในการเป็นนางงามต่อไปก็ได้ค่ะ ก็มีติดต่อเข้ามาเรื่อยๆ ค่ะ ตอนนี้ก็กำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะเปิดเป็นคอร์สจะดีไหม แต่ว่าเดี๋ยวต้องดูอีกทีค่ะ"

รับได้เห็นแท็ก #SaveFahsai เมื่อช่วงสิ้นปี แต่ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องอะไร
"หนูเห็นแท็ก แต่ไม่เข้าใจว่ามันเป็นเรื่องอะไร (หัวเราะ) ส่วนเรื่องที่บอกว่ามีทีมงานที่ทำชุดให้เรา พาดพิงถึงเรา เรื่องนี้หนูยังไม่ทราบเลยค่ะ ยังไม่ได้คุยด้านดรามาเท่าไหร่ อันนี้คือหลังจากประกวดเสร็จใช่ไหมคะ ก่อนที่ประกวดมีโอกาสได้พูดคุยกับทุกคน ทุกคนเขาก็เข้ามาช่วยในการเตรียมตัวไปมิสยูนิเวิร์ส แต่พอหลังจากประกวดทุกคนก็แยกไปพักผ่อนเต็มที่"

หลายคนพุ่งเป้าไปที่ โจ้ เซอร์เฟซ (อธิษฐ์ ฐิรกิตติวัฒน์) นักออกแบบและเจ้าของแบรนด์ Surface และ Costume Director ผู้เป็นหนึ่งในทีม Expert ของกองประกวด Miss Universe Thailand
"เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ ส่วนที่คนมองว่าอีกฝ่ายเหมือนมีการโพสต์ถึง จนแฟนนางงามออกมาปกป้อง แต่เท่าที่อ่านๆ ยังไม่ได้มีคำพูดที่ชัดเจนเกี่ยวกับหนู หนูก็เลยไม่ได้เข้าไปอ่านรายละเอียดมากค่ะ"

ยันความสัมพันธ์กับ "โจ้ เซอร์เฟซ" ตอนนี้ก็ยังโอเคอยู่
"ก็โอเคนะคะ พี่เขาก็ช่วยในการทำเรื่องชุดราตรีที่ไปประกวดรอบไฟนอลให้ด้วยค่ะ หลังประกวดก็ยังไม่ได้มีโอกาสเจอกัน เหมือนพี่โจ้เขาก็พักผ่อนด้วย ติดช่วงปีใหม่ด้วย และได้ข่าวว่าช่วงนี้พี่เขาก็มีการเตรียมตัวสำหรับปี 2020 ด้วยค่ะ เพราะอยากจะให้มงฯ 3 มาแน่ สำหรับคนต่อไป"

ดีใจที่คนยังพูดถึงอยู่ ไม่ว่าจะเป็นในด้านที่ดีหรือไม่ดี และขอบคุณทุกคนที่ยังคอยติดตาม สนับสนุน แม้การประกวดจะจบลงไปแล้ว
"หนูมองว่าไม่ว่าจะพูดดีหรือไม่ดี ก็เป็นกระแสในระดับหนึ่งนะคะ แต่ก็ดีใจที่ทุกคนยังคิดถึงและยังพูดถึงฟ้าใสอยู่ ต้องขอบคุณทุกคนที่คอยติดตาม ถึงแม้ว่าการประกวดจะจบลงไปแล้วแต่ก็ยังคงคอยสนับสนุนและคอยดูผลงานอยู่"

เผยไม่ค่อยได้สังเกตว่ามีดรามาอะไรเกี่ยวกับตัวเองบ้าง ส่วนใหญ่จะรับมาแต่พลังงานบวก บอกหลังประกวดได้มานั่งอ่าน ข้อความจากคนที่บอกว่าตัวเองเป็นวงใน ก็ตลกดีและบันเทิงดี
"ช่วงนี้ก็ไม่ได้สังเกตว่ามีดรามา คือหนูคิดว่าดรามาต่างๆ จะมาช่วงที่ไปประกวดนะคะ ถ้าในช่วงที่เรากำลังประกวดอยู่หนูจะไม่เข้าไปดูเรื่องกระแสหรือดรามาอะไร เพราะช่วงที่เราประกวดสิ่งที่ต้องการมากที่สุดคือการซัปพอร์ต การสนับสนุน และพลังงานที่บวก ซึ่งเราจะได้จากกลุ่มที่อยู่ใกล้ๆ เรา และกลุ่มที่ติดตามและรู้จักเราจริงๆ ส่วนใหญ่หนูก็จะดูกลุ่มนี้เวลาที่ไปประกวด แต่หลังจากผ่านการประกวดไปแล้ว หนูได้อ่านมันรู้สึกว่ามันก็ดูตลกบ้าง เพราะบางทีคนที่บอกว่าเป็นวงในก็ไม่ใช่วงในจริงๆ เพราะคนที่เป็นวงในจริงๆ ก็จะมีแค่เรากับเขาที่รู้จริงว่าเรื่องนี้เกิดอะไรขึ้น แต่พอได้อ่านแล้วมันก็บันเทิงดีนะคะ (หัวเราะ)"

บอกมีภูมิคุ้มกัน เพราะประกวดมาหลายปีแล้ว
"โอ้โห หนูประกวดมาหลายปีแล้วค่ะ"

ลั่นครั้งแรกเจ็บที่สุด ไม่มีทางชินเวลาอ่านข่าวไม่ดีของตัวเอง แค่ความเจ็บน้อยลงเท่านั้น
"หนูว่าครั้งแรกมันจะเจ็บสุดนะพี่ แต่พอนานๆ เข้าความเจ็บมันก็จะลดน้อยลง แต่ถ้าถามว่าชินไปทีเดียวแบบไม่รู้สึกอะไรเลยไหม หนูคิดว่าไม่มีใครที่พออ่านข่าวแล้วมันจะไม่รู้สึกอะไร"

เผยครั้งแรกที่เจอข่าวลบ ถึงขั้นเสียเซลฟ์ เจ็บที่สุดคือคนเชื่อในสิ่งที่ไม่เป็นความจริง ไม่ให้โอกาสได้ออกมาอธิบาย แถมมองว่าเป็นการออกมาแก้ตัว
"โห หนูถึงขั้นเสียเซลฟ์ไปเลย ทำไมเขาว่าหนูแบบนี้ ก่อนหน้านี้หนูไม่เคยคิดว่าหนูเป็นแบบนี้เลย มันก็เป็นเรื่องรูปร่างหน้าตาหรือหุ่นอะไรแบบนี้ ครั้งแรกในที่นี้หมายถึงครั้งแรกที่ว่าเรา แต่การว่าเรามันจะมีหลากหลายแบบ ที่เจ็บสุดมันไม่ใช่สิ่งที่ทำให้เราเสียเซลฟ์นะ แต่สิ่งที่เจ็บสุดคือสิ่งที่เขาพูดแล้วมันไม่ได้เป็นความจริง แต่คนอื่นเชื่อโดยที่ไม่ได้มาถามเรา ไม่ว่าเราจะพูดอะไรออกไป เขาจะเชื่อสิ่งแรกที่เป็นเรื่องเท็จไปแล้ว เขาจะคิดว่าเราก็แค่แก้ตัวแค่นั้น เลยทำให้รู้สึกว่าทำไมคุณไม่ให้โอกาสเราออกมาพูดความจริง ทำไมคุณฟังความข้างเดียว"

"ตอนนี้มันก็มีกำแพงที่ตั้งไว้เพื่อปกป้องหัวใจมากขึ้น และเราก็เริ่มรู้สึกว่าเราควรจะแคร์คนที่รู้จักเราจริงๆ มากกว่าคนที่ไม่ได้รู้จักเราแล้วพูดอะไรก็ได้ ตอนนี้ก็แข็งแรงขึ้นค่ะ แต่ก็อยากให้ก่อนที่จะพูดอะไรให้ใช้สตินิดหนึ่ง อยากให้ฟังความทั้งสองข้างมากกว่าค่ะ"








กำลังโหลดความคิดเห็น