ฝรั่งเศสประกาศเคอร์ฟิวในปารีสและหลายเมืองยาว 6 สัปดาห์ ขณะที่อีกหลายประเทศในยุโรปสั่งปิดโรงเรียน ผับ บาร์ ร้านอาหาร ยกเลิกการผ่าตัด หวั่นฝันสยองโควิดกลับมาอาละวาดหนักเหมือนเมื่อต้นปีขณะที่ฤดูหนาวใกล้เข้ามา ด้านจีนสั่งปลดผู้อำนวยการโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง รวมทั้งพักงานผู้อำนวยการคณะกรรมการสุขภาพในเมืองชิงต่าว เซ่นกรณีการระบาดครั้งใหม่ในเมืองท่าทางภาคตะวันออกของประเทศแห่งนั้น
ยุโรปเวลานี้กำลังมียอดผู้ติดเชื้อใหม่รายวันราว 100,000 คน จึงมีโอกาสมากที่จะแซงอเมริกาซึ่งล่าสุดมีอัตราเคสใหม่เฉลี่ยวันละกว่า 51,000 คน
ในวันพุธ (14 ต.ค.) ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ของฝรั่งศส ประกาศใช้มาตรการเคอร์ฟิวในกรุงปารีสและอีก 8 เมืองเป็นเวลานาน 6 สัปดาห์ โดยนับจากวันเสาร์ (17) ประชาชนในเมืองเหล่านี้จะถูกห้ามออกจากบ้านระหว่างเวลา 21.00-06.00 น. ทั้งนี้ เพื่อสกัดการระบาดของโควิด-19 หลังจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ยังเพิ่มขึ้นไม่หยุด
มาตรการนี้ครอบคลุมประชาชนราว 20 ล้านคน จากทั่วประเทศ 67 ล้านคน
ช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา ประเทศส่วนใหญ่ในยุโรปพากันผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์เพื่อฟื้นเศรษฐกิจที่บอบช้ำรุนแรงจากการระบาดรอบแรกของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ทว่า การกลับอนุญาตให้ประชาชนไปทำกิจกรรมปกติ โดยเฉพาะการเตร็ดเตร่สนุกสนานของคนวัยหนุ่มสาว ส่งผลให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นทุกทีทั่วภูมิภาค
นอกจากฝรั่งเศสแล้ว ที่เยอรมนีก็ไม่สู้ดี โดยมีผู้ติดเชื้อทะลุ 5,000 คนในรอบ 24 ชั่วโมง ซึ่งถือเป็นครั้งแรกนับจากบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคล ออกมาประกาศในวันพุธว่า (14) ตนและผู้นำของ 16 รัฐของประเทศ เห็นพ้องยกระดับมาตรการควบคุมการระบาด ทว่าไม่ได้เปิดเผยรายละเอียด
บาร์และผับกลายเป็นธุรกิจด่านแรกๆ ที่ถูกสั่งปิดระหว่างการล็อกดาวน์ครั้งใหม่ในยุโรปนี้ แต่เนื่องจากสถิติเคสใหม่ยังพุ่งขึ้นไม่หยุด หลายประเทศเริ่มขยายไปที่สถาบันการศึกษาและพวกบริการทางการแพทย์ซึ่งไม่มีความจำเป็นเร่งด่วน
สาธารณรัฐเช็กที่มีการระบาดรุนแรงที่สุดในยุโรปหากวัดจากสถิติผู้ป่วยต่อจำนวนประชากร สั่งปิดโรงเรียนแล้ว และมีแผนเรียกนักศึกษาแพทย์หลายพันคนรายงานตัว ขณะที่โรงพยาบาลเริ่มงดรับผู้ป่วยที่ไม่ใช่กรณีเร่งด่วนเพื่อให้มีเตียงคนไข้เพียงพอรองรับผู้ป่วยโควิด
ด้านโปแลนด์ได้เร่งรัดการฝึกอบรมพยาบาล และกำลังพิจารณาสร้างโรงพยาบาลสนาม ส่วนรัสเซียสั่งให้นักเรียนจำนวนมากกลับไปเรียนออนไลน์ และไอร์แลนด์เหนือปิดโรงเรียนนาน 2 สัปดาห์ และปิดร้านอาหาร 4 สัปดาห์
นายกรัฐมนตรีไมเคิล มาร์ตินของไอร์แลนด์ ระบุว่า จำนวนผู้ติดเชื้อในไอร์แลนด์เหนือ “น่ากังวลมาก” และรัฐบาลได้เพิ่มมาตรการเข้มงวดใน 3 เทศมณฑลชายแดนติดกับไอร์แลนด์เหนือ
เยอรมนี อังกฤษ และฝรั่งเศส ต่างคัดค้านเสียงเรียกร้องให้ปิดโรงเรียนมาตลอด แต่ล่าสุดนักการเมืองเยอรมนีกำลังถกเถียงกันว่า ควรขยายวันหยุดเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ออกไปหรือไม่เพื่อควบคุมการระบาด
ด้านเนเธอร์แลนด์ได้กลับไปใช้มาตรการล็อกดาวน์บางส่วนแล้ว โดยมีการสั่งปิดบาร์และร้านอาหาร แต่ยังอนุญาตให้โรงเรียนเปิดสอนตามปกติ
ทั้งนี้ ข้อมูลขององค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส รัสเซีย และสเปน มียอดติดเชื้อรายใหม่รวมกันมากกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ทั้งหมดในยุโรปในสัปดาห์นี้
นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันของอังกฤษนั้น ยังคงต่อต้านข้อเรียกร้องของฝ่ายค้านให้ล็อกดาวน์ทั่วประเทศอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้ติดเชื้อที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และโรงพยาบาลสนามที่สร้างไว้ในช่วงฤดูใบไม้ผลิได้รับการเตรียมพร้อมเพื่อเปิดรับคนไข้อีกรอบ
หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทมส์รายงานว่า ลอนดอนอาจออกมาตรการจำกัดเข้มงวดยิ่งขึ้นในเร็วๆ นี้
ที่สเปนซึ่งมีผู้ติดเชื้อสะสมเกือบ 900,000 คน และเสียชีวิตกว่า 33,000 คน มีคำสั่งปิดบาร์และร้านอาหาร 15 วัน และจำกัดจำนวนลูกค้าในห้างร้านต่างๆ ในแคว้นกาตาลุญญาทางเหนือของประเทศ
โรงพยาบาลในเบลเยียม ประเทศที่มีสถิติผู้ติดเชื้อต่อจำนวนประชากรสูงสุดอันดับ 2 ของยุโรป สำรองเตียง 1 ใน 4 ไว้สำหรับผู้ป่วยโควิด
สำหรับทางอเมริกา ซึ่งยังคงเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อมากที่สุดในโลก รายงานระบุว่า 22 รัฐมีเคสใหม่เพิ่มขึ้นทำสถิติในเดือนนี้ แต่จำนวนผู้เสียชีวิตมีแนวโน้มลดลง สัปดาห์ที่แล้วเฉลี่ยอยู่ที่วันละ 700 คน
ด้านออสเตรเลีย หนึ่งในประเทศที่ประสบความสำเร็จในการควบคุมการระบาดรอบแรก ได้พบการติดเชื้อแบบกลุ่มก้อนใน 2 รัฐที่มีประชากรมากที่สุด ส่งผลให้รัฐนิวเซาท์เวลส์ต้องเลื่อนการผ่อนคลายมาตรการจำกัดออกไป
ในส่วนของจีน เมื่อวันพฤหัสฯ (15) เมืองชิงต่าว สั่งพักงานผู้อำนวยการคณะกรรมการสุขภาพ และปลดผู้อำนวยการโรงพยาบาลแห่งหนึ่งเซ่นกรณีการระบาดรอบใหม่ในเมืองท่าซึ่งตั้งอยู่ในมณฑลซานตงแห่งนี้ หลังจากจีนไม่พบการติดเชื้อในท้องถิ่นมานาน 2 เดือน
ชิงต่าวรายงานว่า พบผู้ติดเชื้อรวม 13 คน ส่วนใหญ่เชื่อมโยงกับโรงพยาบาลโรคทรวงอกชิงต่าว ที่ผู้ติดเชื้อซึ่งเดินทางมาจากต่างประเทศหลายคนเข้ารับการรักษาในส่วนกักกันโรค
หนึ่งในผู้ติดเชื้อเหล่านี้เกี่ยวข้องกับคนงานท่าเรือคนหนึ่ง ที่ก่อนหน้านี้ผลตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนาออกมาเป็นลบ แต่เพิ่งมาแสดงอาการหลังจากนั้นราว 20 วัน
ต้นสัปดาห์นี้ ชิงต่าวประกาศตรวจเชื้อโควิดประชาชนทั่วเมือง โดยล่าสุดเมื่อวันพฤหัสฯ เจ้าหน้าที่รายงานว่า เก็บตัวอย่างจากประชากรกว่า 9.9 ล้านคนแล้ว และได้ผลการตรวจ 7.6 ล้านคน ซึ่งไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม ขณะเดียวกันก็เสริมว่า บุคลากรทางการแพทย์กำลังเร่งการตรวจสอบประชาชน 9.4 ล้านคนและนักเดินทาง 1.5 ล้านคนให้แล้วเสร็จภายในวันศุกร์ (16) ตามกำหนดที่ประกาศไว้เมื่อต้นสัปดาห์
(ที่มา : เอเอฟพี, รอยเตอร์)